มีการแชร์คลิปในโลกโซเชียล เป็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งเข้ามาเคลียร์กับพ่อค้าขายลูกชิ้น ที่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปชนกับท้ายรถของพ่อค้าเป็ดย่าง จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เพราะมีการตามไปข่มขู่และใช้อาวุธปืน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปและข้อความ ระบุว่าครอบครัวถูกชายคนหนึ่งที่เข้ามาเคลียร์คดีกับพ่อค้าลูกชิ้น ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างชนรถของพ่อ ซึ่งขายเป็ดย่างอยู่หน้าห้างโลตัสอุดรธานี โดยคู่กรณีได้โทรเรียกชายคนที่อยู่ในคลิป มาบอกพ่อค้าลูกชิ้นไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมรถให้พ่อ แถมยังขู่พ่อให้ไปซ่อมเอง และยังไปจอดรถอยู่หน้าบ้าน และพกปืนตามไปข่มขู่พ่อที่ร้านเป็ดย่าง จนพ่อและ รปภ.ต้องเข้าชาร์จแย่งปืน ก่อนจะแจ้งตำรวจ แต่สุดท้ายตำรวจกลับให้ประกันตัวผู้ต้องหา โดยทางครอบครัวของตนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่ร้านทัศนีย์เป็ดย่าง หน้าห้างโลตัส ถนนรอบเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนายอดุลย์ พ่อค้าเป็ดย่าง เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นายอดุลย์ เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพ่อค้าขายลูกชิ้นขี่รถจักรยานยนต์พ่วงชนท้ายรถกระบะของนายอดุลย์ พ่อค้าเป็ดย่าง จนไฟท้ายแตก ฝาท้ายและกันชนยุบ ซึ่งนายอดุลย์ ได้นัดเจรจาค่าเสียหายกับคู่กรณีในวันรุ่งขึ้นที่โรงพักเมืองอุดรธานี แต่คู่กรณีไม่มา จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งช่างได้ตีราคาซ่อมรถไว้ที่ 1 หมื่นบาท
จากนั้นวันที่ 20 พ.ย. คู่กรณีได้มาหาที่หน้าร้าน ตนจึงให้ไปเคลียร์กันที่โรงพัก แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีไม่อยู่ โทรหาก็ปิดเครื่อง เพราะเป็นวันอาทิตย์ ตนจึงพูดคุยกับคู่กรณีเรียกค่าซ่อมรถกับคู่กรณีแค่ 6,000 บาท แต่คู่กรณีได้โทรศัพท์เรียกชาย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้ขับรถกระบะมาจอดหน้าโรงพัก 3 คน แต่เดินลงจากรถมาแค่คนเดียว
โดยชายคนดังกล่าวบอกพ่อค้าลูกชิ้นไม่ต้องจ่ายเงิน และให้ตนนำรถไปซ่อมที่อู่ใกล้บ้าน ส่วนไฟท้ายให้ไปซื้อที่ร้าน ซึ่งตนบอกชายคนดังกล่าวว่า “คุณไม่เกี่ยวกับคดี ไม่มีหน้าที่มาเคลียร์” ทำให้ชายดังกล่าวไม่พอใจชักปืนออกมาพร้อมกับพูดว่า “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร มึงโดนแน่” ก่อนจะพยายามเข้ามาทำร้าย ซึ่งตนเกรงว่า จะเกิดอันตรายจึงรีบกลับไปขายเป็ดย่างต่อ แต่ชายคนนี้ก็ยังไม่หยุด และได้ตามมาข่มขู่ที่บ้านอีก
นายอดุลย์ เล่าอีกว่าขณะนั่งรถไปโรงพัก ตนได้ยินตำรวจได้พูดคุยกับใครไม่รู้ จึงได้ทราบว่าชายที่นำปืนมาขู่ตนชื่อนายสมชาย อายุ 49 ปี เป็นพัศดี จ.ยะลา โอนย้ายมาอยู่ที่เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนที่แผนกปราบปราม สายตรวจ 191 สภ.เมืองอุดรธานี ส่วนตนให้ตนแจ้งความเบื้องต้นไว้ก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้ตนตกใจก็คือ พอเช้าอีกวันที่ตนต้องมาให้ปากคำกับตำรวจ แต่กลับมีตำรวจยศ “พ.ต.ต.” ได้มาบอกว่า ตนมาสายไป 15 นาที ขอให้กลับไปก่อน เพราะจะสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ตนจึงไปถาม ร.ต.ท.พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี บอกตนว่าเขามาขอคดีไปทำแทน และยังแจ้งว่าได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปแล้ว
ด้าน รปภ.ห้างสรรพสินค้า เล่าว่าขณะเกิดเหตุตนยืนอยู่ที่หน้าธนาคารภายในห้าง มีลูกค้าโวยวายหน้าห้าง คิดว่าเป็นเหตุกาณ์คนขโมยสินค้า และเสียงตะโกน “มีปืน มีปืน” ตนจึงวิ่งไปดูพร้อมกัน 4 คน พบพ่อค้าเป็ดย่างนอนทับและกดหัวชายคนหนึ่ง และมีอาวุธปืนตกอยู่ข้าง ๆ ผู้จัดการรีบคว้าเอามปืนมาปลดแมกกาซีนออก พอตำรวจมาจึงส่งตัวชายคนดังกล่าวให้ตำรวจไปดำเนินคดี
ขณะที่ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และแจ้งข้อหาพบพาอาวุธปืน ส่วนสาเหตุมาจากที่ผู้ก่อเหตุเป็นตัวกลางเจรจากรณีคนรู้จักขับรถเฉี่ยวชนกันกับคู่กรณี และเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน แล้วก็ตามไปหาเรื่องที่บริเวณจุดเกิด เหตุและมีปากเสียงกัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุม ในส่วนการประกันตัวนั้นก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันตัว หลังประกันตัวเสร็จ ทางตำรวจจะเร่งรัดส่งอาวุธปืนและลายนิ้วมือไปตรวจ เมื่อผลตรวจส่งกลับมาก็จะนำส่งอัยการ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ส่วนคู่กรณีที่เกรงจะไม่ปลอดภัยนั้น ตำรวจขอยืนยันความปลอดภัย สามารถประสานทางตนเองได้โดยตรงและทางตำรวจสายตรวจจะออกไปตรวจตามพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยและสร้างความอุ่นในให้กับประชาชน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35