เล่าสองมุม ! ลุง ถูกผู้ช่วย ผญบ. รุมตีจนแขนหัก ตาบอด อีกฟากโต้ แค่ป้องกันตัว : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ลุงเข้าร้องสายไหมต้องรอด หลังถูก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รุมตี จนตาบอด แขนหัก แถมกระโหลกร้าว แต่คดีไม่คืบ ฟากคู่กรณี โต้ ทำไปเพื่อป้องกันตัว ! 

 

 

            วันที่ 23 พ.ย. 65 ประเจิด สมสายหน่อย (เจิด) ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ระหว่างตนขับรถไปทำงาน ถูกนายจ๊ะและนายแดง ยืนรอดักอยู่ ตอนแรก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ขับไปสัก 100 เมตร ก็ถูกนายแดงเอาไม้มาหวด และนายจ๊ะมาหวดซ้ำ ซึ่งตนก็เอาแขนซ้ายยกมารับ ทำให้แขนหัก จนต้องหนีและได้พลเมืองดีช่วยเอาไว้ ขณะที่อาการบาดเจ็บ ตนตาขวาบอดสนิท ศีรษะแตก มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ฐานกระโหลกร้าว แขนซ้ายหัก 2 ท่อน กระดูกโหนกแก้มร้าว ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้ไปท้าทายอะไรเขา 

 

            มูลเหตุที่ทะเลาะกันมาจาก เขาเคยมาด่าตนที่ไปนอนที่ศาลาของหมู่บ้าน เลยผิดใจกัน หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกับเขาอีกครั้ง เมียเขาก็มาด่าตนหยาบคายด้วย แต่ก็แยกย้ายกันไป จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันเกิดเหตุเขาก็ไม่เคยมาถามไถ่ใด ๆ ส่วนเงินค้าเสียหาย ตนขอเรียก  1.5 ล้านบาท ถือว่าเป็นค่าเสียหายที่ตนไม่สามารถทำงานได้ แต่จริง ๆ ที่เรียกราคานี้ เพราะแค่หมั่นไส้ที่เขามาอวดรวย 

 

 

              ด้าน สมชาย วิพันธุ์เงิน (แดง) พ่อของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า นายเจิดเมามาด่าตนก่อนหน้านี้ 2 รอบ ที่บ้านของตน รอบแรกวันที่ 5 มิ.ย. และ 10 มิ.ย. มาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และท้าทาย จึงมีปากเสียงกัน จนกระทั่งวันที่ 13 มิ.ย. มาตะโกนด่า และท้าทายว่า "มึงแน่จริง ไปแจ้งตำรวจทำไมไอ้แดง ออกมาเลยไอ้สองพ่อลูก" จึงออกไปคุย แต่ก็ถูกเขาเอามีดไล่กวด เลยต้องป้องกันตัว เอาไม้ที่ตกอยู่ข้างทาง มาตีเขา 3 ครั้ง และหนีเข้าบ้าน ก่อนจะแจ้งตำรวจให้มาดู 

 

              ขณะที่ พรชัย วิพันธุ์เงิน (จ๊ะ) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่าพ่อ(นายแดง)มีปากเสียงกับ นายเจิด เลยเข้าไปห้าม แต่ก็ถูกเขาเอามีดแทงมาแฉลบสีข้างจนได้แผล อีกทั้งยืนยันว่าเขาเมา เพราะที่รถเขามีขวดเบียร์ หลักฐานตำรวจถ่ายภาพเก็บไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เงินที่เขาเรียกมา 1.5 ล้านบาท ตนไม่มีเงินขนาดนั้น ก็อยากจะคุยไกล่เกลี่ยให้มันน้อยลง ส่วนเรื่องที่ทำร้ายเขา มันรุนแรง แต่พวกตนทำไปเพื่อป้องกันตัว

    

  

 

  

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนถามผู้เสียหายว่าเป็นญาติกัน ทำไมถึงไม่คุยกัน ลุงเจิดเขาก็บอกว่า เพราะเขาฐานะยากจน อีกฝั่งค่อนข้างมีฐานะ คุยกันแล้วคุยกันคนละภาษา แกยังบอกว่าอีกว่า ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเคลียร์ให้ อย่างไรก็ตาม คนที่จะชี้ความผิดได้ก็คือศาล ซึ่งถ้าเกิดเขาไกล่เกลี่ยให้มันเบาลงได้ มันก็จะดี เพราะเขาเป็นญาติกัน  

 

              เสรี ผู้ใหญ่บ้านตำบลสิงห์ เผยว่า ตนได้แค่รับแจ้งเรื่อง ครั้งที่ 2-3 ตนออกไปตรวจ แต่ไม่เจอนายประเจิด เจอแต่ตำรวจ ที่ตนไม่ได้คุยกับฝั่งนายประเจิด เพราะเขาไม่เคยติดต่อมาว่าเกิดเรื่องอะไรกับเขา ซึ่งตนก็ไม่ได้ซักไซ้อะไร เพราะเรื่องอยู่ที่โรงพักแล้ว เหมือนเขาไม่ค่อยชอบตนมาตั้งแต่ต้น แต่ตนก็ปกติ ตอนน้ำท่วมก็เอาของไปให้ ยืนยันว่าตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

              ฟาก พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ ผกก.สภ.บางระจัน เผยว่า ที่คดีมันช้าเพราะติดเรื่องใบแพทย์ของนายประเจิด ซึ่งมันไม่ได้ระบุเรื่องตาที่บอดอย่างชัดเจน ทำให้ใช้เวลานาน อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้สอบสวน และส่งเรื่องไปยังอัยการแล้ว