ลุงร้อง ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รุมเอาไม้ฟาดจนตาบอด กระโหลกร้าว ตั้งแต่เดือน มิ.ย. จนตอนนี้คดีไม่คืบ ฝ่ายคู่กรณีโต้ ทำไปเพื่อป้องกันตัว !
วันที่ 23 พ.ย. 65 ประเจิด สมสายหน่อย (เจิด) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตอนนั้นตนไปส่งหลาน เสร็จแล้วก็กลับมาที่บ้าน แล้วก็มีปากเสียงด่ากับเมีย ก่อนที่ตนจะขับรถกลับไปทำงาน บังเอิญไปเจอนายจ๊ะ ยืนถือไม้อยู่ปากซอย ตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอขับไปอีก 100 เมตร เห็นนายแดงยืนอยู่ด้วย ก็เริ่มเอะใจ เพราะไม่เห็นว่าในมือเขาถืออะไร พอตนจะขับแซงไป ก็ถูกนายแดง เอาไม้หวดตนเต็มที่ พร้อมพูดว่า "มึงรู้ไหมกูเป็นใคร" หันมาอีกทีก็ถูกนายจ๊ะมาหวดซ้ำ ซึ่งตนก็เอาแขนซ้ายยกมารับ ทำให้แขนหัก ตนจึงวิ่งหนี จนได้พลเมืองดีมาช่วยพากลับไปส่งบ้าน
ทั้งนี้ อาการบาดเจ็บหลังเกิดเหตุ ตาขวาบอดสนิท ศีรษะแตก มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ฐานกระโหลกร้าว แขนซ้ายหัก 2 ท่อน กระดูกโหนกแก้มร้าว อาการบาดเจ็บตอนนี้ เหลือโหนกแก้มยังเจ็บอยู่ กับแขนที่ยังมีอาการเสียวเวลาใช้งาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้ไปท้าทาย หรือไปด่าอะไรเขาเลย
มูลเหตุมาจาก ตนทะเลาะกับเมีย เลยไปนอนที่ศาลาของหมู่บ้าน โดยเอามุ้งไปกาง แต่นายแดงกลับมาด่าตน เลยเป็นเรื่องผิดใจกันขึ้นมา แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นตนก็ไม่ได้ตอบบโต้อะไร หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ก็มาเจอนายแดง ก็ได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง แถมเมียเขาก็ออกมาด่าหยาบคายด้วย แต่ก็แยกย้ายกันไป แล้วก็ไม่ได้พบกันเลยจนกระทั่งวันเกิดเหตุ ยืนยันว่าตนไม่ได้เมาสุรา
ด้าน พะนอ ศักดิ์ลาภ (เบี้ยว) ภรรยาของผู้เสียหาย กล่าวว่า วันดังกล่าว ตนทะเลาะกับสามี เพราะเขาหึงตนมาก ถึงขั้นไม่ให้คุยกับใครเลย ตนเลยไล่สามีออกจากบ้าน ตัวสามีไม่ได้เป็นคนกินเหล้าเบียร์เป็นประจำอยู่แล้ว และไม่เคยเมามาทำร้ายตน ขณะเดียวกันตนกับนายแดงเป็นญาติกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันกับนายแดงมาก่อนเลย
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่สามีถูกตี จนถึงวันนี้ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เคยมาคุยเลย มีแต่ว่ากลับ และกล่าวหาสามีตนอย่างเดียว ส่วนตัวตนคิดว่า ผู้ใหญ่บ้านควรจะเข้ามาเป็นกาวใจให้ลูกบ้าน นอกจากนี้ ตนเคยได้ยินจากคนแถวบ้าน ว่าเมียนายแดง บอกว่าเขามีเงินเป็นล้าน จากผิดก็ทำให้เป็นถูกได้
ขณะที่ สุรศักดิ์ สมสายหน่อย (หน่อ) ลูกชายของผู้เสียหาย กล่าวว่า ปลอกมีดที่พ่อตนเอาไปขว้างใส่เขา มีแต่ปลอก ถ้ามีมีดจริงคนปกติเขาก็ฟันไปแล้ว ส่วนเรื่องรถ พ่อตนขับรถมา ชลอจนจะจอดอยู่แล้ว รถมันเลยไม่ล้ม ขณะเดียวกันตนอยากจะถามฝั่งคู่กรณีว่าใจเขาทำด้วยอะไร ทำกับพ่อตนขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาไม่เคยถามไถ่สักคำ สิ่งที่ตนอยากได้ คือ เงินเยียวยาที่พ่อตนทำงานไม่ได้ 1.5 ล้านบาท
นายเจิด กล่าวเพิ่มว่า ที่เรียก 1.5 ล้าน เพราะแค่หมั่นไส้เพราะเขามาอวดรวย แต่ที่อยากทำคือจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องเงินเยียวยายังเปิดโอกาสให้คุยอีกทีหนึ่ง แต่มันไม่ทันเรื่องคดีแล้ว เพราะเรื่องไปถึงอัยการแล้ว
ด้าน สมชาย วิพันธุ์เงิน (แดง) พ่อของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า นายเจิดเมามาด่าตน 3 รอบ ที่บ้านของตน รอบแรกวันที่ 5 มิ.ย. มาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และท้าทาย จึงมีปากเสียงกัน
ขณะที่ พรชัย วิพันธุ์เงิน (จ๊ะ) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า วันที่ 5 มิ.ย. ได้มีปากเสียงกับนายเจิด จนตนต้องแจ้งความ แต่พอตำรวจกับผู้ใหญ่บ้านมา นายเจิดก็หนีไปแล้ว เลยแยกย้ายกันไป จากนั้นวันที่ 10 มิ.ย. นายเจิดกลับมาด่าพวกตนอีก ตนเลยติดต่อหาผู้ใหญ่บ้าน บอกเขาว่านายเจิดมาโวยวายอีกแล้ว ผู้ใหญ่บ้านเลยมาอีกครั้ง แต่พอผู้ใหญ่บ้านมา ก็ไม่เจอนายเจิดอีก
นายแดง เล่าต่อว่า นายเจิดกลับมา อีกทีหนึ่ง วันที่ 13 มิ.ย. มาตะโกนด่า และท้าทายว่า "มึงแน่จริง ไปแจ้งตำรวจทำไมไอ้แดง ออกมาเลยไอ้สองพ่อลูก" ตนเลยทนไม่ไหว ครั้งนี้ครั้งที่ 3 แล้ว เลยออกมาคุยกับเขาว่ามาด่าตนด้วยสาเหตุอะไร จึงได้เถียงกันขึ้น เขาก็เลยไปเอามีดหน้ารถของเขามา และเอาปลอกมีดมาปาใส่ตน จากนั้นเขาก็เอามีดไล่กวดฟันตน ตนเลยคว้าไม้ที่ตกอยู่ข้างทาง ฟาดสวนไป 3 ที แล้วก็เข้าบ้าน และแจ้งตำรวจ นอกจากนี้ยืนยันว่าไม่ได้ไปด่านายเจิดที่ศาลา
นายจ๊ะ กล่าวเพิ่มว่า ตนเห็นว่าพ่อตนมีปากเสียงกับนายเจิด เลยจะเข้ามาห้าม แต่ถูกเอามีดแฉลบสีข้าง ได้แผลด้วย และที่รู้ว่าเมา เพราะที่รถของเขามีขวดเบียร์ และขนมถุงอยู่ หลักฐานตำรวจถ่ายเก็บเอาไว้แล้ว ส่วนเงินที่เขาเรียกมา 1.5 ล้านบาท ตนไม่มีเงินขนาดนั้น ก็อยากจะคุยไกล่เกลี่ยให้มันน้อยลง รู้ว่าทำให้เขาบาดเจ็บ แต่พวกตนก็ทำเพื่อป้องกันตัว
นายแดง กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ตนฟาดเขาตอนเขายืนอยู่ ไม่ได้ฟาดตอนเขาขับรถอย่างที่เขาอ้าง ถ้าเป็นการฟาดแบบนั้น รถต้องล้มแล้ว แต่อันนี้รถยังตั้งดีปกติ อย่างไรก็ตามตนสำนึก แล้วก็ขอโทษ ตนอาจจะทำรุนแรงไป แต่ถ้าตนไม่ทำแบบนั้น อาจจะถูกเขาทำร้ายกลับ มันเหมือนการป้องกันตัว
ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนถามผู้เสียหายว่าเป็นญาติกัน ทำไมถึงไม่คุยกัน ลุงเจิดเขาก็บอกว่า เพราะเขาฐานะยากจน อีกฝั่งค่อนข้างมีฐานะ คุยกันแล้วคุยกันคนละภาษา แกยังบอกว่าอีกว่า ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเคลียร์ให้ อย่างไรก็ตาม คนที่จะชี้ความผิดได้ก็คือศาล ซึ่งถ้าเกิดเขาไกล่เกลี่ยให้มันเบาลงได้ มันก็จะดี เพราะเขาเป็นญาติกัน
เสรี ผู้ใหญ่บ้านตำบลสิงห์ เผยว่า ตนได้แค่รับแจ้งเรื่อง ครั้งที่ 2-3 ตนออกไปตรวจ แต่ไม่เจอนายประเจิด เจอแต่ตำรวจ ที่ตนไม่ได้คุยกับฝั่งนายประเจิด เพราะเขาไม่เคยติดต่อมาว่าเกิดเรื่องอะไรกับเขา ซึ่งตนก็ไม่ได้ซักไซ้อะไร เพราะเรื่องอยู่ที่โรงพักแล้ว เหมือนเขาไม่ค่อยชอบตนมาตั้งแต่ต้น แต่ตนก็ปกติ ตอนน้ำท่วมก็เอาของไปให้ ยืนยันว่าตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ฟาก พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ ผกก.สภ.บางระจัน เผยว่า ส่วนของนายประเจิด ที่แจ้งความมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินการอยู่ตลอด ตอนนี้ ได้ดำเนินการกับตัวคู่กรณี แล้วก็สรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้วเมื่อวันที่ 21 พ.ย. โดยมีข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่า เราพิจารณาจากพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ
ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นว่าคดีเงียบ ตนขอชี้แจงว่า เราได้มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานตลอด แต่เคสนี้มีปัญหาตรงที่ ใบแพทย์ของนายประเจิดไม่ได้ระบุอาการบาดเจ็บชัดเจนว่าตาของเขาบอด เราจึงต้องมีการติดตามใบแพทย์ ทำให้เสียเวลา
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35