เจ้าของที่ดิน สุดช้ำ ซื้อที่ดินเปล่าไว้ กลับมาดู พบบ้านปริศนาโผล่ 2 หลัง แถมโดนเทศบาลบี้เก็บค่าปรับ 6 หมื่น ทนายแก้ว แนะ ให้ฟ้อง รอศาลสั่งให้รื้อ ยันเจ้าของที่ไม่ได้ประมาท !
วันที่ 22 พ.ย. 65 ไพรัตน์ ชาโรจน์ (รัตน์) เจ้าของที่ดิน เล่าว่า ซื้อที่ดินไว้ 1 แปลง เมื่อปี 57 เก็บไว้เพื่อปลูกบ้านเช่าตอนตนเกษียณ ราคาซื้อ 4.5 แสนบาท ทั้งนี้มีการปักหมุด และเสาไม้ระบุที่ดินชัดเจน แต่อยู่มาวันหนึ่งตนได้รับจดหมายจากสำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ให้ไปทำรังวัด ปี 64 จึงเดินทางไปที่ดินตนเอง ก็พบบ้านปริศนาไม่ทราบว่าของใครปลูกขึ้นในที่ดินของตน 2 หลัง ส่วนตัวเจ้าของบ้านได้มาเจอทีหลัง คุยกันจนทราบว่า เป็นเจ้าของที่ดินข้าง ๆ ตน มาสร้างบ้านไว้ผิดที่ จึงตกลงเจรจากัน คู่กรณีเสนอว่าให้แลกที่กัน แต่ตนไม่ตกลง เนื่องจากที่ของตน ทำเลดีกว่า และขนาดใหญ่กว่าเขา จากนั้นเขาเลยเสนอขอซื้อที่ต่อ ในราคา 4 แสนบาท แต่ตนปัดตกไป เพราะราคามันน้อยไป และตนไม่ได้จะขายอยู่แล้ว
ต่อมาคุยกันในชั้นอัยการ เขาเสนอราคามาที่ 1.2 ล้านบาท แต่เมื่อตนคำนวณค่าเสียผลประโยชน์ต่าง ๆ เลยเรียกไปที่ 2 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้บีบบังคับ แค่ให้เขาพิจารณา แต่เขาบอกว่าแพงเกินไป สุดท้ายก็ยังตกลงกันไม่ได้ จนกระทั่งครั้งสุดท้ายตนลดราคาให้เหลือ 1.65 ล้านบาท แต่เขาก็ไม่ได้ให้คำตอบ ทั้งนี้บ้านที่เขาสร้างเขาไม่ได้ไปขอใบอณุญาตการก่อสร้าง ทำให้ตนถูกเทศบาลเรียกค่าปรับ 6 หมื่น ขณะเดียวกัน ที่ดินผืนนี้ตนเข้าไปดูอยู่ตลอดตั้งแต่ปี 57 จนกระทั่งช่วงโควิด เลยไม่ได้เข้าไปดู จนมาพบว่ามีบ้านมาปลูกแล้ว นอกจากนี้ตนได้ฝากป้าดูแลที่ดินด้วย ป้าบอกว่าวันที่เขาจะมาสร้างบ้าน ป้าเข้าไปเตือน แต่เขาบอกว่าเขาซื้อไว้แล้ว
ตอนนี้สิ่งที่ตนอยากได้ คืออยากได้ที่ดินของตนเองคืน และไม่ได้อยากได้บ้านที่เขามาปลูก ทางออกที่ต้องซื้อบ้านที่เขามาปลูกนั้น ตนก็ไม่เอา เพราะถ้าซื้อบ้านของเขาก็ต้องซื้อในราคาที่ดินเพิ่ม และก็ไม่รู้ด้วยว่าส่วนต่างตรงนี้มันเท่าไหร่ แถมแบบบ้านก็ไม่ใช่แบบที่ตนชอบ อีกทั้งยังมีส่วนบ้านที่ล้ำเข้าไปในที่ของเขาประมาณ 2 เมตร หากซื้อมาก็จะมีปัญหาตรงนี้อีก
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ใครจะก่อสร้างบ้านหรืออะไรก็ตาม ต้องไปขออณุญาตจากทางเทศบาล ซึ่งการไปขออณุญาตจะชี้ได้ชัดว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของใคร ต้องมีโฉนด ไปขออณุญาต ขณะเดียวกัน ตนมองอีกมุมว่า ที่ดินไม่ได้ล้อมรั้วแล้วถูกบุกรุก ถ้าเป็นอุทยานศาลจะตัดสินใหทุบทิ้ง แต่พอเป็นเอกชน กฎหมายกลับมองว่าเจ้าของที่ประมาท
ทั้งนี้ ตอนที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนกับตน นั่งคุยกันไป น้ำตาซึมกันไป เพราะเขาถูกรุมกินโต๊ะมานานแล้ว เทศบาลก็มาไล่บี้เขาให้ไปเสียค่าปรับ ที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างบ้าน 6 หมื่นบาท และมีค่าปรับรายวันอีก เพราะตัวคุณรัตน์เป็นเจ้าของที่ บ้านดังกล่าวปลูกบนพื้นที่เขา คนที่ปลูกบ้านก็ให้ขายที่ดินให้เขา 4 แสนบาท ซึ่งมันถูกกว่าราคาที่เขาซื้อมาอีก คุณรัตน์ไปร้องที่ไหนคดีก็ไม่คืบ เรื่องนี้ยังไงก็ต้องช่วยเขา
ฟาก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความ ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตนถือว่าคุณรัตน์ไม่ได้ประมาท เพราะคุณรัตน์เข้าไปดูอยู่ตลอด ทั้งนี้ตนมองว่าหากเขาไปก่อสร้างบ้านในที่ ที่เขาเข้าใจว่าเป็นของเขา มันจะต้องไม่เลยพื้นที่ของคนอื่น สร้างเต็มพื้นที่ของคุณรัตน์ไปเลย แต่อันนี้มันเลยมาประมาณ 2 เมตร ซึ่งมันผิดวิสัยของคนทั่วไป อีกทั้งป้าที่ดูแลที่ดินเข้ามาเตือน แต่เขาก็ไม่ได้ตรวจสอบ ยังเพิกเฉย ตนเลยมองว่า คู่กรณีต่างหากที่ไม่สุจริต
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการประมาทในคดีอาญา จะไม่สามารถฟ้องเขาข้อหาบุกรุกได้ ขณะเดียวกัน ไม่สามารถถือวิสาสะไปทุบบ้านที่เขาสร้างได้ เพราะมันไม่ใช่ทรัพย์สินของคุณรัตน์ ต้องรอให้ศาลเป็นคนสั่ง ดังนั้นต้องฟ้องให้ศาลสั่ง และสามารถเรียกค่าขาดรายได้ ค่าขาดประโยชน์ได้ด้วย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35