พิเรนทร์ไม่เลิก ! หนุ่มถูกรับน้องโหด จุดไฟเผา-ลนขนเพชร เหลือทนจนต้องลาออก : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

หนุ่ม นศ.ปี 1 ถูกรุ่นพี่ รับน้องโหด จุดไฟแช็กพ่นสีสเปรย์ เผาหน้าท้อง แผลเหวอะ พร้อมบีบบังคับจนต้องลาออก รุ่นพี่ผู้ก่อเหตุอ้าง เป็นธรรมเนียมมหาวิทยาลัย !

 

 

            วันที่ 17 พ.ย. 65 เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุ ประมาณ 14.00 น. รุ่นพี่นัดตนไปที่อพาร์ทเม้นท์ที่เช่าไว้สำหรับรับน้อง เมื่อไปถึงมีการรับน้องตามปกติ วิดพื้น ซิทอัพ ลุกนั่ง ต่อมาช่วง 17.00 น. รุ่นพี่ปี 3 เรียกตนเข้าไปในห้องน้ำแบบตัวต่อตัว เอาผ้าปิดตาตน ก่อนจะให้ถกกางเกงลง แล้วจัดการจุดไฟแช็กและพ่นสีสเปรย์ใส่ ตนร้อนจนทนไม่ไหวจึงบอกรุ่นพี่ แต่รุ่นพี่ยังทำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นก็ไปจัดการเอาฟแช็กลนขนเพชรเพื่อนคนอื่น ทิ้งให้ตนนอนร้อนจนต้องเอาน้ำจากฝักบัวมาพรมไว้ เพราะตนร้อนมาก ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะไม่ได้ถูกพ่นสีสเปรย์ จากนั้นยังให้ตนออกไปรับน้องต่อด้วย 

 

            ทั้งนี้ พฤติกรรมของรุ่นพี่ดังกล่าว มีการบังคับให้ วิดพื้น ซิทอัพ ลุกนั่งกว่า 3 พันครั้ง และบังคับให้จำชื่อรุ่นพี่ทุกคน นอกจากหลังจากเกิดเหตุยังบีบบังคับให้เพื่อนของตนไม่ยุ่งกับตน จนต้องลาออก ส่วนเงินเยียวยาเขาให้มาแค่ 1.2 พันบาท 

 

 

            ด้าน ตอง (นามสมมติ) แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนมาทราบหลังจากเกิดเหตุแล้ว 1 สัปดาห์ พอรู้เรื่องก็ไปลาออกที่มหาวิทยาลัยเลย เพราะตนกลัวลูกจะอันตรายมากกว่านี้ ซึ่งก็ได้รู้ว่าพวกอาจารย์เขาไม่ได้รู้ว่ามีการรับน้อง แต่จนถึงวันนี้มหาวิทยาลัยยังไม่ได้ติดต่อใด ๆ มา

 

            ส่วน ใจ (นามสมมติ) น้าของผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากน้องถูกกระทำแล้ว ตนเห็นแผลแล้วรู้สึกสงสาร เลยไปตัดว่านหางจระเข้มาทาให้ พอทาแล้วก็ดิ้นทุรนทุรายน่าสงสารมาก เหมือนคนจะตาย ตนเลยพาไปโรงพยาบาล ตนมองว่าผู้ก่อเหตุเขาทำแบบนี้ได้อย่างไร โหดร้ายมาก 

 

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ตัวผู้เสียหายและแม่ของเขา บอกว่าไม่อยากเอาเรื่อง เพราะมีฐานะยากจน กลัวสู้คดีไม่ไหว ตนเลยเข้ามาช่วย คนผิดควรได้รับผิด ทั้งนี้ ตนจะประสาน ท่านว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพาน้องไปยื่นเรื่องไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อเข้ารับการคุ้มครองพยาน พร้อมทั้งขอรับเงินเยียวยา 

 

            อย่างไรก็ตาม ฝากถึง ท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคล แห่งหนึ่ง แถวเขตดุสิต อยากให้ท่านช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย หากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ปีหน้าอาจจะเกิดเหตุอีก อีกทั้งคณะที่น้องผู้เสียหายเรียนเป็นคณะครุศาสตร์ จบไปเป็นครู หากเป็นแบบนี้ผู้ปกครองจะไว้ใจได้อย่างไร 

 

 

            ขณะที่ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เคสนี้ตนคิดว่ารุ่นพี่ไม่น่ารอดคุก เพราะเป็นความผิดทางอาญา ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายสาหัส เนื่องจากใบแพทย์ออกมาแล้วว่ารักษาตัว 1-3 สัปดาห์ พ่วงด้วยข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง 

 

            ฟาก พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.สน.บางพลัด เผยว่า ได้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 1 ราย ซึ่งตัวผู้ต้องหายอมรับสารภาพ แต่บอกว่าไม่ได้มีเจตนา เป็นธรรมเนียมของทางมหาวิทยาลัย นอกจากเรื่องบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ตนยังตามสืบเรื่องพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เขาทำกับผู้เสียหาย ว่ามันจะส่งผลต่อการทำร้ายจิตใจไหม อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการรับน้องลักษณะนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมสมัยนี้แล้ว และถ้าหากใครได้รับผลกระทบจากกลุ่มนี้ ให้แจ้งมาที่ตนได้เลย 

 

 

            ทั้งนี้ทางทีมงาน "ถกไม่เถียง" ได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยอาจารย์ชี้แจงว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัย ได้สั่งห้ามไม่ให้มีการรับน้อง เพราะเคยเกิดเหตุไม่ดีขึ้น แต่เนื่องจากตอนนี้ เป็นช่วงโควิด ทำให้ไม่มีการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งอาจจะทำให้มีการแอบทำกิจกรรมลักษณะนี้บ้าง