เมลาย-เสือ ดุสิต มอบ วีรกรรมแสบ "ทริปน้ำไม่อาบ" เผย เตือนแล้วแต่ไม่ฟังกัน ลั่นใครผิดจับได้เลย พร้อมยัน ปีหน้าจัดอีก !
วันที่ 16 พ.ย. 65 เมลาย รัชดา ผู้จัดทริปน้ำไม่อาบ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรากยการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า ปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะว่า ปีนี้รถก็ยังเยอะ แต่เป็นระเบียบมากกว่า ปีที่แล้วมีการย้อนศรกันทุกด่าน เข้าป่าพังระเนระนาด ชนคนเสียชีวิต ต้มชาบู เบิ้ลรถบนภูเขา ปีนี้ไม่มีการเบิ้ลรถบนภูเขา ถ้าหากมีตนตั้งรางวัลไว้แล้ว ใครส่งคลิปคนเบิ้ลรถมาบนภูเขา ตนให้เงิน 3 พันบาท พร้อมส่งคลิปให้ตำรวจเลย ปีนี้จะมีคนแหวกแนวผิดระเบียบไม่กี่สิบคัน ทั้งนี้ มีผู้ร่วมทริปเฉพาะรถก็ประมาณ 7-8 พันคัน รวมผู้ติดตามแล้ว อาจจะถึงหลักหมื่นคน
ขณะเดียวกัน ปีนี้มีการให้ลงทะเบียนแต่ละพื้นที่ และตนได้โพสต์บอกแล้วว่า ให้ทำตามกฎระเบียบ ถ้าทำพลาดในสิ่งไหน ให้รับผิดชอบตัวเอง หรือหัวหน้ากลุ่มนั้น ๆ รับผิดชอบพวกกันเอง ผิดถูกอย่างไร บอกตน แล้วตนจะลงไปช่วยเหลือ
ด้าน ทรายเอสพัน ผู้ดูแลทริปน้ำไม่อาบ เผยว่า ตนจะคอยสอบถามบรรยากาศ และความคิดเห็น จากพวกปั๊ม และผู้ประกอบการต่าง ๆ ซึ่งพวกเขายินดีต้อนรับพวกเรามาก โดยที่ปีนี้ไม่มีการเบิ้ลรถในปั๊ม หรือทดสอบรถกันในปั๊ม พวกผู้ประกอบการดีใจมากที่พวกเราให้ความร่วมมือ
ฟาก เสือ ดุสิต ผู้ร่วมทริปน้ำไม่อาบ เล่าว่า ยอมรับว่าตนไปโวยวายกับตำรวจ เรื่องมันเกิดจาก ตำรวจมาตรวจยึดรถ ซึ่งเข้าใจว่าทำตามหน้าที่ อะไรผิดก็ปรับกันไป แต่เขามายึดรถได้อย่างไร ในเมื่อเอกสารรถคนที่ถูกยึดเขาก็มี หมวกกันน็อกเขาก็ใส่ แผ่นป้ายก็ติด แต่กลับถูกยึดรถ ตนเลยสงสัยว่าที่เขายึดรถเพื่อจะปกปิดความผิดหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นเขากระชากคนในทริปแล้วล้มจนขาหัก ซึ่งจริง ๆ แล้วตนคุยกับเขาดี ๆ ด้วยซ้ำ แทบจะก้มกราบเท้า แต่คลิปมันไม่ได้ถูกอัดไว้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกทัวร์ลง แต่ชาวบ้านก็ยินดีต้อนรับ แต่โซเชียลไม่ต้อนรับ
"โซเชียลโลกสวยเยอะ คนไทย 80% มองเหรียญด้านเดียวเสมอ ตัวร้ายก็คือตัวร้าย ไม่เคยเป็นพระเอก" เสือ ดุสิต กล่าว
เมลาย กล่าวเพิ่มว่า ตอนแรกตำรวจเขียนใบสั่งปรับมาให้ทุกคัน คันละ 2 พันบาท แต่พอน้อง ๆ จะไปจ่ายค่าปรับ ตำรวจบอกว่า "ไม่ต้องไป กูจะยึด จะยึดให้หมด รอคำสั่งจากนาย" และยังบอกอีกว่า มันเป็นมาตรการที่ต้องยึด ตนเลยสงสัยว่า เขามีด่าน 5 จุด ทั้งหมดมีนายคนเดียวกัน แต่ทำไมมีมาตรการแค่ที่ สภ. เดียว
ทรายเอสพัน กล่าวต่อว่า ตำรวจมีการปรับไม่เท่ากัน ปรับผู้ชาย 2 พันบาท ส่วผู้หญิง 1 พันบาท ตนเลยอยากรู้ว่าเอาอะไรตัดสิน เพราะรถก็ผิดเหมือนกันทั้งคู่
เมลาย กล่าวต่อว่า ประเด็นที่โซเชียลถามถึงว่าทำไมถึงเอาการทำบุญมาอ้าง ตนอยากถามกลับว่าทำไมพวกตนถึงเอาบุญมาอ้างไม่ได้ แล้วคนที่พูดได้ช่วยเขาช่วยอะไรโรงเรียนบ้างไหม
"คนไทยใส่ใจชีวิตคนอื่นมากกว่า 90% ใส่ใจตัวเองแค่ 10% ชีวิตตัวเองไม่ค่อยใส่ใจ" เมลาย กล่าว
ขณะที่ วีรกรรมที่ขี่จักรยานยนต์ชนร้านไก่ย่าง เป็นพวกของทริปตน แต่เขาต้องรับผิดชอบเอง ส่วนที่แก้ผ้าซ้อนจักรยานยนต์ เป็นรุ่นน้องของตน แต่เหตุการณ์ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ในทริปนี้ และที่ขี่จักรยานยนต์ย้อนศรเป็นกลุ่มใหญ่ อันนี้ตนอยากให้ตำรวจจับเลย เพราะผิดจริง ตนเตือนทุกอย่างแล้ว แต่เขายังทำ อันไหนผิดก็ว่าไปตามผิด อย่างไรก็ตาม
ขณะที่ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า ปกติแล้วเจ้าพนักงานมีสิทธิ์ยึดรถไว้ทำการตรวจสภาพได้ แม้จะทำถูกกฎหมายทุกอย่าง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถคันนั้นครอบเลขทะเบียนหรือเปล่า อาจจะมีการลักขโมยมา แล้วดัดแปลงเลขใหม่ ซึ่งต้องส่งพนักงานสอบสวนให้ทำการตรวจพิสูจน์หลายวัน แต่วัยรุ่นเขาก็จะอคติว่าตำรวจแกล้ง ดังนั้นตำรวจต้องอธิบายให้ชัดเจนก่อนจะยึดรถ ส่วนกรณีเงินค่าปรับ ว่าจะปรับเท่าไหร่ เขาจะมีอัตราเปรียบเทียบปรับอยู่แล้ว ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตำรวจด้วย ขณะเดียวกัน ที่เขามาจับ เพราะว่ามันสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
เจตนาที่นัดกลุ่มออกทริป ทำได้ เข้าใจว่าตั้งใจไปทำบุญ มันดี แต่คนนำยังไม่ได้เป็นหัวหน้าฝูง เลยควบคุมทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นก่อนจะออกทริปครั้งใหม่ แนะนำให้ไปกันกลุ่มเล็ก ๆ จำกัดจำนวน หาช่างไปตรวจรถด้วย ก่อน ถ้าไปกัน 20-30 คน ค่อย ๆ ไปกันก็จะคุมได้ ชาวบ้านเขาจะได้ไม่รังเกียจ ถ้าปีหน้าจัดอีก ยังไงก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35