ญาติเด็กชาย 13 ปี ร้องสื่อมวลชน กรณีถูกเจ้าหน้าที่ อส.ทำร้ายร่างกาย ทั้งล็อกคอ เอาปืนกระแทกหลัง รวมถึงใช้เท้าเหยียบซ้ำ แถมบริเวณที่เกิดเหตุขึ้นอยู่ติดกับที่ว่าการอำเภออีกด้วย
ทีมข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติของเด็กชายอายุ 13 ปี ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ อส.ซึ่งเข้ามาควบคุมตัวระงับเหตุทะเลาะวิวาท แต่เจ้าหน้าที่ อส.กลับจับผิดคน และได้ทำร้ายเด็กชายรายนี้อีกด้วย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ช่วงเวลา 18.30 น. บริเวณด้านข้างที่ว่าการอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
นางสาวบุญตา คุณยายของเด็กที่ถูกทำร้าย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น ซึ่งบ้านของตนอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังน้อยเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น โดยหลานชายได้วิ่งไปบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ อส.ทำร้ายร่างกาย ทั้งการจับกดนอนลงกับพื้น เอามือไขว้หลัง และใช้เท้าเหยียบบริเวณกลางหลัง ก่อนจะใช้ปืนจอทุบไป 1 ครั้ง หลานชายบอกว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ อส.ปล่อยตัว พอตนทราบเรื่องก็มายังที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุจำนวนมาก จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าใครเป็นคนทำหลานของตนเอง
อส.คู่กรณี แจ้งว่า เป็นการระงับเหตุทะเลาะวิวาท ตนเองจึงตะโกนถามไปว่า แล้วมาเกี่ยวอะไรกับหลาน ทั้งที่หลานก็ยังเด็กและไม่ได้เกี่ยวข้องเลย จากนั้นก็มีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น และยังถูกทางเจ้าหน้าที่ อส.ข่มขู่ว่า ให้ไปแจ้งความตำรวจเลย และยังขู่ต่อว่าจะไม่ให้เรียนหนังสือ ตนเองเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องจึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับหลาน
ทีมข่าวยังได้คุยกับน้องกล้า (นามสมมุติ) เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า กลุ่มพวกตนเองกำลังวิ่งเล่นกันอยู่ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ อส.เข้ามาระงับเหตุ พวกตนเองตกใจจึงพากันวิ่งหนี แต่มี อส. 1 คน ได้เข้ามาจับกุม และได้จับเพื่ออีกคนหนึ่งชื่อ กัปตัน (นามสมมุติ) โดยจับคว่ำหน้าลงกับพื้น และใช้เท้าเหยียบ แถมเอาปืนทุบหลัง ตนพยายามยกมือไหว้ขอร้อง แต่กลับถูก อส.หันมาด่า และจะทำร้ายอีกด้วย
ขณะที่ น้องกัปตัน (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคนที่ถูกทำร้าย เล่าว่าเมื่อช่วงเย็นตนเองกำลังนั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ ได้เห็นกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ขี่รถจักรยานยนต์ทะเลาะวิวาทกันอยู่หน้าอำเภอ จากนั้นก็มี อส.ออกมาระงับเหตุจนกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะอยู่ พากันต่างหลบหนีไปคนละทิศละทาง แต่ทาง อส.ได้เข้ามาจับกุมตนกับเพื่อนที่กำลังเล่นอยู่ และสั่งให้ตนเองหมอบลงกับพื้น เอามือไขว้หลัง และใช้เท้าเหยียบบริเวณกลางหลัง ก่อนใช้อาวุธปืนสั้นทุบไปที่หลังตน 1 ครั้ง โดยตนก็ขอร้องและบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็ได้วิ่งหนีขับรถไปบอกย่าที่บ้าน
ด้านแม่ของน้องกัปตัน บอกว่าพอทราบเรื่องจากยาย จึงรีบกลับจากที่ทำงาน ซึ่งลูกชายยังอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็เล่าเรื่องให้ฟัง ตนกับสามีจึงตัดสินใจพาลูกไปลงบันทึกประจำวัน แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับไล่ให้กลับบ้านไปก่อน
ตนและสามีพาลูกชายไปที่ สภ.วังน้อย เพื่อไปลงบันทึกประจำวัน แต่ถูกพนักงานสอบสวนไล่กลับไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า เป็นคดีไม่ร้ายแรงให้รอก่อน ทางครอบครัวก็ไม่รอ และรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.วังน้อย เปิดเผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และได้มีการสอบถามถึงมูลเหตุที่เกิดขึ้น แต่อยู่ในกระบวนการเรียกคู่กรณีมาสอบสวน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ขอให้สบายใจได้ว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35