MLR MOR MRR คืออะไร ? - ซื้อของมือสองออนไลน์ ระวังกลายเป็นรับซื้อของโจร

542 ครั้ง

11 พ.ย. 2565

แชร์ข่าวไปที่

รู้หรือไม่ ? MLR MOR MRR คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิงในการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกค้า ซึ่งมีลักษณะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว แต่สิ่งที่ต่างกันคือต้นทุนของแต่ละธนาคารที่ไม่เท่ากัน เงินทองของจริงมีคำแนะนำให้กับผู้ที่สนใจกู้เงินกับสถาบันการเงิน

เวลาที่เรากู้เงินกับทางสถาบันการเงิน หรือ ธนาคาร เขาจะมีการคิดดอกเบี้ย 2 แบบ

1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ เช่น กู้ซื้อบ้าน 3 ปีแรก จะมีตัวเลขดอกเบี้ยให้เลย 2.5, 3.5, 4.5 3ปี ดอกเบี้ยคงที่ตัวนี้ เป็นอัตราที่ถูกคิดขึ้นมาโดยไม่อิงตัวต้นทุน กำหนดเป็นขั้นเลยว่าตัวเองประมาณเท่าไหร่

2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ ณ วันที่เขาจะคำนวณดอกเบี้ยให้เรา ดอกเบี้ยตรงนี้อยู่ที่เท่าไหร่ เขาก็จะเอาดอกเบี้ยค่านั้นมาคิด เพราะฉะนั้นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นอัตราที่คิดขึ้นมา อ้างอิงตามต้นทุนของธนาคาร เมื่อทางธนาคารมีต้นทุนทางการเงินสูง ก็จะผลักดอกเบี้ยให้สูงขึ้นไปอีกด้วย

อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง คือ มีการแบ่งตามประเภทของผู้กู้ หรือประเภทของสินเชื่อ ก็จะเป็นคำ 3 คำ ที่คุ้นหูกันว่า MLR MOR MRR ทั้งหมดนี้ คืออัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัว ตามต้นทุนธนาคาร แล้วเป็นเกณฑ์เพื่อให้ผู้กู้รู้ว่า ต้องโดนอัตราเท่าไหร่

• MLR (Minimum Loan Rate) ใช้อ้างอิงสินเชื่อธุรกิจ สำหรับลูกหนี้ชั้นดี และเป็นรายใหญ่ มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ

• MOR (Minimum Overdraft Rate) ใช้อ้างอิงลูกหนี้รายใหญ่ มีวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือ OD (Over Draft) เป็นสินเชื่อประเภทลูกหนี้ แต่คิดแค่ดอกเบี้ยประเภท OD เอาเงินไปใช้เท่าไหร่ คงค้างเท่าไหร่ ก็จะมีการคิดดอกเบี้ยกัน

• MRR (Minimum Retail Rate) ใช้อ้างอิงลูกหนี้รายย่อย เป็นประเภทบุคคลธรรมดา

แต่ทั้ง 3 ตัวที่กล่าวมา ทุกธนาคารให้ไม่เท่ากัน เพราะต้นทุนไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเวลาที่จะหาสินเชื่อ จึงมีความจำเป็นต้องทำเหมือนการข็อปปิ้ง เข้าไปคุยกับหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อการตัดสินใจ

เมื่อพูดถึงสินค้าแบรนด์เนมไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า นาฬิกา หรือเครื่องประดับ ต่างเป็นสินค้าที่ช่วยเสริมบุคลิกแก่ผู้เป็นเจ้าของ ทำให้เราอยากมีสินค้าแบรนด์เนมไว้ในครอบครองให้ชื่นใจสักครั้ง

เงินทองของจริง : MLR MOR MRR คืออะไร ? - ซื้อของ

แต่ด้วยความเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ทำให้บางคนมองหาสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งมีราคาถูกกว่าโดยไม่รู้ว่าสินค้านั้นมีที่มาอย่างไร อาจเป็นสินค้าที่ได้มาจากการกระทำความผิดของเหล่ามิจฉาชีพก็ได้ วันนี้เราจึงมีวิธีการเบื้องต้นในการสังเกตสินค้ามือสองก่อนตัดสินใจซื้อ

ตามข้อมูลดังนี้

1. ดูความน่าเชื่อถือของร้านว่าเป็นสินค้าที่ได้มาอย่างถูกต้อง

2. สอบถามจากพ่อค้าและแม่ค้าถึงที่มาของสินค้าอย่างละเอียด

3. ติดต่อขอดูใบการันตี หรือใบรับรองสินค้าสำหรับสินค้าประเภทที่มีใบการันตี

4. ตรวจสอบรหัสสินค้าจากเว็บไซต์ของสินค้าว่าตรงตามรุ่นหรือไม่ และมีอุปกรณ์ครบถ้วนหรือไม่

ซึ่งในปัจจุบัน การซื้อขายส่วนมากจะทำผ่านระบบออนไลน์ ผู้ซื้อ ผู้ขายไม่เห็นหน้ากัน และไม่ได้เห็นสินค้าโดยตรง ทำให้เรายิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะหากสินค้าที่ได้ซื้อมานั้นเป็นสินค้าที่ได้มาจากการกระทำความผิดแล้ว อาจตกเป็นผู้ต้องหาที่เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน “รับของโจร” ได้

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35