หนุ่มผวา กลุ่มวัยรุ่น 4 คน คว้าขวดทำปากฉลามเข้าทำร้าย พร้อมพกปืนกล อูซี่-เอ็ม16 ข่มขู่ ตร.จับคนร้ายได้ 1 คน พบเพียงปืนสั้น เมียหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังได้กลิ่นว่าเป็นเด็กตร.
วันที่ 9 พ.ย. 65 อาทิตยา เฉลยวาเรศ (หนึ่ง) แฟนของผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตอนนี้จิตตกกันทั้งบ้าน หลังจากเกิดเรื่องตำรวจจับคนร้ายได้เพียงคนเดียว แต่คนดังกล่าวก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว แถมยังมาเดินเพ่นพ่านแถวบ้าน 2-3 วันติด ยิ่งวันที่ข่าวออกเขายิ่งมาดูบ่อย ทั้งเดิน และขี่มอเตอร์ไซค์ดูลาดเลา
ทั้งนี้ วันที่เกิดเหตุ แฟนกินสังสรรค์กับเพื่อน 1 คนอยู่ใต้ตึกเอื้ออาทร มีกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี 2 คนเดินผ่านมา แฟนของตนก็มองว่าเป็นใครมาจากไหนธรรมดา แต่อีกฝั่งเขาเดินผ่านไปก็มองหน้ากลับมาที่กลุ่มของแฟนตนตลอด จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นไปตะโกนถามแม่บ้านว่า กลุ่มของแฟนตนเป็นใคร คนที่ไหน มองหน้าทำไม พอแฟนตนได้ยินแบบนั้นเลยเดินไปเคลียร์ เพราะฝั่งตนไม่ได้มีเจตนาจะไปมองหน้าเขา ก็เกิดโต้เถียงกันสักพัก ก่อนจะแยกย้ายกันไป แฟนตนก็เข้าใจว่าจบแล้ว เลยมานั่งกินสังสรรค์กันต่อ
ด้าน สายชล เพื่อนของผู้บาดเจ็บ เล่าต่อว่า หลังจากกลับมากินกันต่อ ประมาณครึ่งชั่วโมง กลุ่มวัยรุ่นก็กลับมาพร้อมพวกเพิ่มอีก 2 คน เป็น 4 คน โดยมีอาวุธปืนสงครามมาด้วย เอามาจี้กลุ่มของตนบอกให้พวกตนหมอบ แล้วก็มีอยู่คนหนึ่งบอกให้ตี กระทืบพวกตนเลย จากนั้นเขาก็เอาทั้งขวดปากฉลามรุมทำร้าย รวมทั้งกระทืบรุ่นพี่ที่บาดเจ็บด้วย ทำร้ายอยู่ 2 คน ส่วนอีก 2 คน คอยถือปืนคุมเชิง พอเขาทำจนหนำใจแล้วเขาก็กลับไป พร้อมพูดด้วยว่า "อย่าให้กูเจอพวกมึงอีก ถ้าเจออีกกูจะเอาให้ตายเลย"
ส่วนตนก็โดนทำร้ายเหมือนกัน แต่ตนใส่หมวกกับใส่เสื้อแขนยาวเลยโดนไม่เยอะ แค่มือซ้น อย่างไรก็ตามพวกตนไม่ได้สู้กลับเลย เพราะถูกเอาปืนจ่อไว้ แถมตนได้ยินเสียงขึ้นลำแล้วด้วย
คุณ อาทิตยา เล่าต่อว่า ตนไม่ทราบว่าคนเหล่านี้เป็นเจ้าถิ่นหรือไม่ เพราะตนทำแต่งานไม่ได้มานั่งสังสรรค์กันแบบนี้บ่อย ๆ แต่ชาวบ้านแถวนั้นเป็น 10 คนให้ข้อมูลว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้น่าจะเป็นเด็กตำรวจ น่าจะอยู่ไม่ได้แล้ว ถึงเรื่องจบก็คงอยู่ไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ทุกคนในบ้าน ไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้ว ย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่กล้ากลับเข้าพื้นที่ อย่างไรก็ตามตนต้องคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน เพราะตนถูกกระทำ กลัวว่าเขาจะกลับมาทำร้ายอีกหรือเปล่า
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ผู้เสียหายร้องเรียนผ่านตน ตนจึงได้ขอดูคลิปหลักฐานต่าง ๆ แต่ผู้เสียหายบอกว่าคนที่ถ่ายคลิปไว้ได้ เขาเอาคลิปให้กับตำรวจไปแล้ว ทางตำรวจไม่ให้ส่งต่อให้ใคร ตนเลยประสานขอกับทางตำรวจ เมื่อได้เห็นคลิปแล้ว ตนก็ประสานไปยัง ผู้กำกับ สน.สายไหม ทราบว่า ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนไปเอาตัวผู้ก่อเหตุ 2 ใน 4 คน มาตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัวคนที่ถือปืน ตัวผู้ก่อเหตุก็รับสารภาพว่ารุมทำร้ายร่างกายจริง ส่วนสาเหตุที่ทำไม่ได้มีอะไรกันมาก่อนหน้านั้นเลย ประสบเหตุกันตรงนั้น จากแค่มองหน้ากัน โต้เถียงกัน เลยเกิดเรื่อง ทั้งนี้ตัวคนเจ็บถูกข่มขู่จนอยู่ที่เดิมไม่ได้ แถมยังบาดเจ็บหนัก เย็บหลายสิบแผล
อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้เพื่อนที่เป็นทหารดูคลิปเหตุการณ์ ซึ่งเขาบอกว่าน่าจะเป็นปืนจริง แล้วตนยังตั้งข้อสังเกตุอีกว่า คน 2 คนที่เข้ามอบตัวไม่ได้เป็นคนถือปืน ส่วนอีก 2 คนที่ถือปืนไม่ได้มอบตัว เนื่องจาก 2 คนที่ถือปืน ถ้าเข้ามอบตัว ต้องเอาอาวุธปืนมาให้ตำรวจด้วย ซึ่งถ้าเป็นปืนปลอมโทษเบามาก แค่ปรับ แต่มันเป็นปืนจริงหรือไม่ เลยหนีไม่เข้ามอบตัว ส่วนตัวตนคิดว่าน่าจะเป็นปืนจริง ขณะเดียวกัน ตัวผู้ต้องหาที่ไปมอบตัวมาแล้วถูกปล่อยตัวออกมา กลับมีพฤติกรรมสร้างความหวาดกลัวให้ผู้เสียหาย จึงอยากให้พนักงานสอบสวนเอาตัวไปฝากขังเลยดีกว่า แล้วไปประกันในชั้นศาล เขาจะได้ยำเกรงต่อกฎหมาย จะได้รู้สึกว่าถูกดำเนินคดีอยู่
ฟาก พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม เผยว่า ตอนนี้ทราบแล้วว่าคนที่ถือปืน 2 คน เป็นใคร คาดว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ได้คุยกับทางครอบครัวผู้ต้องหาแล้วว่าให้มามอบตัว เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาทั้ง 4 คนว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถ้าสืบว่ามีความผิดอื่นจะแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่วนเรื่องอาวุธปืน กำลังอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าเป็นปืนประเภทไหน ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ ต้องได้ของกลางมาพิสูจน์ก่อน ขณะเดียวกันที่ปล่อยตัวผู้ต้องหา เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า และตัวผู้ต้องไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี จึงไม่สามารถจับกุมตัวไว้ได้
ขณะที่ประเด็นที่ผู้เสียหายกังวลจนต้องย้ายไปกบดานต่างจังหวัด ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่น่ากังวล เพราะเรื่องมันผ่านมานานแล้ว และเราสามารถยืนยันจากกล้องวงจรปิดได้ว่า ไม่ได้มีการที่ผู้ต้องหาไปดูลาดเลาที่นั่น แล้วจะก่อเหตุอันตรายแน่นอน ตนรับประกันความปลอดภัย ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านพูดกันว่าผู้ต้องหาเป็นเด็กตำรวจ ตนยืนยันได้ว่าไม่ใช่เด็กตำรวจ ถ้าใครระบุได้ว่าเป็นเด็กตำรวจท่านไหน ให้บอกตนได้ จะดำเนินการสอบสวน ตั้งกรรมการสอบวินัย และดำเนินคดีอาญา
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35