ลูกสาวสุดงง พ่อถูกสวมรอยเป็นครูราชการ ทำชวดสิทธิ์เพียบ ! : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ลูกสาวออกมาร้องสื่อ พ่อพิการ ถูกขโมยเลขบัตรประชาชนสวมรอยเป็นครูราชการ ทำชวดสิทธิ์เงินเยียวยาผู้สูงอายุ และสิทธิ์อื่น ๆ เพียบ 

 

 

             วันที่ 4 พ.ย. 65 รุ่งฤดี มหาวงค์ (พิมพ์)ลูกสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า พ่อของตนถูกแจ้งระงับใช้สิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุเมื่อปี 63 สืบทราบว่าเลขบัตรประชาชนถูกนำไปใช้สมัครเป็นข้าราชการครู ซึ่งได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม และได้มีคณะครูจากเขตการศึกษา มาขอถ้อยคำที่บ้าน รอเรื่องมา 2 ปี ก็ยังไม่คืบหน้า 

 

             ส่วนผลกระทบ ทำให้พ่อของตนถูกระงับสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุ และสิทธิ์อื่น ๆ อีก อาทิ บัตรคนจน ก็ไม่ได้ เนื่องจากมันขึ้นว่าเป็นข้าราชการครู โดยล่าสุดพ่อต้องไปเปลี่ยนขาเทียม ซึ่งเปลี่ยนอยู่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยน ตนเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะ ครูปรีชาที่สวมสิทธิ ได้เสียชีวิต จนพ่อต้องไปทำบัตรทอง 

 

 

             ขณะที่ ปรีชา มหาวงค์ (ปอง) ผู้เสียหายร้องถูกสวมสิทธิเลขบัตรประชาชน เผยว่า ตนไม่เคยเป็นครู ไม่เคยเป็นราชการ ทำอาชีพทำไร่ทำสวนธรรมดา  แต่ตนถูกตัดสิทธิ์ทุกอย่าง บัตรคนจนก็ไม่ได้ เคยสมัครไปมันก็ขึ้นว่าตนเป็นข้าราชการ รอเรื่องมากว่า 2 ปี ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับครูปรีชาเลย พ่อแม่ก็ไม่ได้รู้จักกัน อยู่อำเภอเดียวกัน แต่คนละตำบล ยืนยันว่าไม่เคยเจอกัน 

 

 

             ขณะเดียวกัน ทิน โชคกมลกิจ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า บัตรประชาชนของ ลุงปรีชา จะขึ้นต้นด้วยเลข 5-71 ลงท้ายด้วย 11-4 ระบุชื่อ นาย ปรีชา มหาวงศ์ ส่วนบัตรของข้าราชการครูที่นำชื่อไปสวมสิทธิ์ เป็นบัตรข้าราชการครูตัวจริง แต่รายละเอียดต่าง ๆ มันเป็นของลุงปรีชา ชื่อ และเลขบัตรเหมือนกัน ส่วนรูปเป็นคนละคนกัน ซึ่งครูปรีชาใช้บัตรใบนี้ในดำเนินชีวิต เป็นข้าราชการครูตั้งแต่ปี 26 จนถึงตอนเสียชีวิต นอกจากนี้ ในใบมรณบัตรของครูปรีชา ระบุเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 3-7104 แสดงให้เห็นว่าเป็นคนละเลขกัน ส่วนชื่อจริงสืบทรายว่าครูปรีชา ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก นายพงศ์ศักดิ์ ศิริบูรณ์ เปลี่ยนเป็น ปรีชามหาวงศ์ศรี  

 

 

             ด้าน ครูแดง (นามสมมติ) ภรรยาครูปรีชา กล่าวว่า สามีเล่าให้ฟังว่าตอนอายุ 5-6 ขวบ พ่อของเขาได้ให้ใช้ชื่อและเอกสารของ ปรีชา มหาวงศ์ ในการสอบต่าง ๆ มาโดยตลอด จนกระทั่งเขาสอบบรรจุเป็นครู ซึ่งตัวครูปรีชาโตขึ้นก็พยายามหาทางแก้ไข แต่ไม่รู้จะทำยังไง ตัวเขาก็กลัวเหมือนกัน ถึงขนาดว่าสิทธิ์ข้าราชการเบิกตรงรักษาพยาบาลเขาก็ไม่เคยใช้ ตอนถูกคุณพิมพ์ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเขาก็กลัวมาก เลยเดินทางไปที่บ้านลุงปรีชา ให้เงินเยียวยา 4 พันบาท พร้อมชดเชยให้เดือนละ 2 พันบาท โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกร ชื่อ นายปรีชา มหาวงศ์ และยังมีโอนเงินไปให้อีก 2 หมื่นบาท 

 

 

             ฟาก เอกอนันต์ ศรีอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม การทุจริตการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง เผยว่า ตนได้ปรึกษากับนายอำเภอ ประจำ อ.ไทรโยค โดยตัวนายอำเภอได้ประสานงานไปให้เขตพื้นที่การศึกษา แก้ไขเลขบัตรประจำตัวประชาชนของลุงปรีชาออก เพื่อให้ได้สิทธิ์ต่าง ๆ กลับมาเหมือนเดิม และแก้ไขเอาเลขประชาชนของครูปรีชากลับมาใส่ตามเดิม