ตัวช่วยทางการเงินทั้ง 2 ตัว ที่คนสงสัย ว่าต่างกันอย่างไร ? ในเรื่องของการคิดดอกเบี้ย โรงรับจำนำนั้น มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.25% ต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ แต่ทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนได้
ต้องบอกว่า โรงรับจำนำ และ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เป็นตัวช่วยทางการเงิน สำหรับคนที่เงินกำลังขาดมือ และพอจะมีทรัพย์สินอยู่บ้าง
ในส่วนของจำนำ คือ การผูกร่วมอยู่กับการขอสินเชื่อ เวลามีคนมาขอยืมเงิน แต่ไม่รู้จักกัน จึงต้องมีการเอาของมาจำนำไว้ก่อน เพื่อป้องกันเขาจะไม่คืนเงินเรา ถ้าเกิดว่าไม่คืนเงิน ก็สามารถเอาของสิ่งนั้นที่มาจำนำไปได้เลย
แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องรีบใช้เงินก่อน และยังเอาเงินมาคืนเต็มจำนวนไม่ได้ ก็สามารถจ่ายเป็นดอกเบี้ยไว้ได้
โรงรับจำนำถือว่าอยู่มากับบ้านเมืองนี้นานมาก ปัจจุบันก็เปลี่ยนไปเป็นบริษัททางการเงิน เป็น Digital มากขึ้น เพราะโรงรับจำนำก็จะเป็นลักษณะที่ อยากจะขอกู้ยืมเงิน เอาทรัพย์สินเราไปวางไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
การใช้บริการของโรงรับจำนำค่อนข้างจะง่าย เพราะใช้แค่บัตรประชาชนใบหนึ่ง และทรัพย์สินของเราไปวางไว้ เพราะฉะนั้นวงเงินที่เราจะได้ ก็จะไม่เกินกับมูลค่าหลักประกันตรงนั้น โรงรับจำนำถ้าไม่จ่ายหนี้ โดนยึดของได้เลย
สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ เหมาะกับผู้ที่มีรถยนต์ที่ปลอดภาระแล้ว ก็สามารถเอาเล่นทะเบียนไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ที่สถาบันการเงิน หลักการเดียวกันกับโรงรับจำนำ แต่วางแค่เล่ม แต่รถยนต์ยังสามารถเอาไปขับใช้ได้ และได่เงินก้อนตามวงเงินที่ต้องการ
ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินมาก จริง ๆ สามารถเลือกได้ทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็น โรงรับจำนำ หรือ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์
1. วงเงินที่จะใช้มีแค่ไหน เอาเงินไปใช้ทำอะไร
2. ดูดอกเบี้ยที่เหมาะสม
3. ดูค่าใช้จ่ายของการจำนำ และสินเชื่อทะเบียนรถ
4. วางแผนชำระให้ตรงเวลา
การสร้างครอบครัวในยุคนี้นอกจากต้องมีเป้าหมายการเงินร่วมกันแล้ว ก็ยังต้องควรคุยเรื่องการเงินให้เข้าใจกันในเรื่องของ “เงินส่วนตัว”และ “เงินกลาง” เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่จะตามมาภายหลัง วันนี้เรามี 5 เรื่องสำคัญของการวางแผนการเงินครอบครัวมาฝากกัน
เรื่องที่ 1 เงินสร้างสภาพคล่อง
เป็นเงินก้อนแรกที่แต่ละครอบครัวควรมีให้ครบ เพื่อไว้ใช้จ่ายในช่วงวิกฤต
เราจะสามารถดึงเงินก่อนนี้ออกมาใช้จ่ายได้โดยที่ไม่ต้องกู้ยืมนั่นเอง
เรื่องที่ 2 ดูแลพ่อแม่ ลูก
หากพ่อแม่ของเรามีเงินเกษียณดูแลตัวเองแล้ว เราก็ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ในกรณีฉุกเฉินเราก็ควรเตรียมทุนเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วย นอกจากนี้ก็ควรเตรียมเงินในการดูแลเลี้ยงดูลูกด้วย เช่น เงินค่าเทอม และรายจ่ายอื่นๆของลูก ควรวางแผนรายจ่ายของลูกล่วงหน้าเพื่อเราจะได้คาดคะเนรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เรื่องที่ 3 หนี้สิน
เราควรสรุปหนี้สินของตัวเองว่ามีหนี้ระยะสั้น และ ระยะยาวเท่าไหร่ ทางที่ดีไม่ควรเกิน ครึ่งหนึ่งของรายได้ เพื่อจะได้ไม่กระทบกับเงินออมและรายจ่ายส่วนอื่น
เรื่องที่ 4 เงินเกษียณ
เราต้องเตรียมเงินทุนหลังเกษียณเพื่อความมั่นคงของเราในบั้นปลายชีวิต โดยสามารถเก็บเงินระยะยาว อย่างเช่น ประกันสังคม กองทุนต่างๆ ประกันสะสมทรัพย์ เป็นต้นเรื่องที่ 5 สร้างความ
มั่นคงด้วยประกันชีวิต ประกันชีวิตจะเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยครอบครัวคุณได้หากกรณีคุณเสียชีวิต เงินที่ทำประกันเอาไว้ก็จะสามารถเป็นเงินก้อนที่สามารถมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของครอบครัวคุณได้
ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35