logo Beartai 7HD ไอทีและยานยนต์

เปิดฟีเจอร์เด็ด ! Clipboard History ก็อปปี้และวางง่ายขึ้น

หนุ่ย พงศ์สุข,แบไต๋,แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์เทคโนโลยี,CH7HDNEWS,TERODigital,beartai7HD,แบไต๋7เอชดีไอทีและยานยนต์,ช่อง7,ข่าวล่าสุด,ch7hdnews,ข่าวช่อง7,กด35,แบไต๋ 7 เอชดี ไอทีและยานยนต์,beartai7hd,ฟิล์มกรรญกฤต อรรควงษ์,เบนซ์ชนกนันท์ เสนปิ่น,ภูมิเกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์,พลังงานไฟฟ้า,น้ำท่วมกทม.,รองผู้ว่ากทม,น้ำท่วม,ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล,ชัชชาติ,Clipboard History

332 ครั้ง
|
02 พ.ย. 2565
มารู้จักฟีเจอร์เจ๋ง ๆ Clipboard History ที่จะทำให้เราสามารถ Copy and Paste หรือคัดลอกและวางข้อมูลต่าง ๆ ได้มากกว่า 1 รายการ แถมยังเปิดใช้ได้ทันทีไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
 
ต้องทำความรู้จักกับฟีเจอร์ Clipboard กันก่อน Clipboard ถูกคิดค้นขึ้นโดย  Larry Tesler และ Tim Mott ในช่วงต้นยุค 70 เพื่อทำให้การย้ายข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น
 
โดย Clipboard จะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของแรมสำหรับเก็บข้อมูลชั่วคราว โดยเราสามารถใช้ปุ่มลัดในการคัดลอกอย่าง Ctrl + C เพื่อเอาข้อมูลมาเก็บไว้บน Clipboard และสามารถเรียกออกมาใช้ได้โดยกดปุ่ม Ctrl + V 
 
แต่ฟีเจอร์นี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ คือจะจดจำข้อมูลได้เพียงชุดเดียว หรือก็คือข้อมูลล่าสุดที่เราคัดลอกไว้ เช่น หากเราคัดลอกข้อความ แล้วมาคัดลอกรูปภาพอีกที ตัวข้อความก่อนหน้าก็จะถูกแทนที่ด้วยรูปภาพทันที 
 
แต่ข้อจำกัดนี้จะหายไป ถ้าเราเปิดใช้งานฟีเจอร์ Clipboard History เราก็จะสามารถกดเรียกประวัติของ Clipboard กลับได้ถึง 25 ครั้งล่าสุด ทั้งภาพและข้อความ และดึงข้อมูลที่เคยคัดลอกไว้แล้ว ออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก
 
การเปิดใช้งานฟีเจอร์ Clipboard History ก็ไม่ยุ่งยาก ทำได้บน Windows 10 ขึ้นไป ด้วยการกดปุ่ม Windows + V ระบบก็จะแสดงหน้าเมนูขึ้นมาให้เรากด Turn on เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทันที 
 
หลังจากที่เปิดใช้งานฟีเจอร์ Clipboard History ทุก ๆ การคัดลอก ไม่ว่าจะเป็นการกดปุ่ม Ctrl + C หรือการคลิกขวาแล้วกด Copy ทั้งหมดก็จะถูกเก็บประวัติไว้เลย ซึ่งการจะเข้าไปดู หรือเรียกออกมาใช้ก็ให้เรากดปุ่ม Windows + V แทนการกด Ctrl + V 
 
พอเรากด Windows + V เราก็จะเห็นทุก ๆ ประวัติที่เราคัดลอก 25 รายการทันที หากต้องการใช้ก็คลิกที่รายการนั้น ๆ ได้เลย 
 
ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการเก็บแบบชั่วคราว หากมีการรีสตาร์ตระบบ ข้อมูลใน Clipboard History ก็จะหายไป เราสามารถปักหมุด หรือ Pin เก็บไว้ได้ หรือถ้าไม่ต้องการแล้วก็สามารถ Delete หรือลบออกไปได้ แต่ถ้าไม่ต้องการทั้งหมดก็กด Clear All ได้เช่นกัน 
 
นอกจากนี้การเรียกใช้ Clipboard History บน Windows 11 ในหน้าเมนูเดียวกัน ก็จะมีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้ใช้ด้วย เช่น ใส่ภาพอีโมจิ Emoji, ภาพจิฟ GIF, Kaomoji (คาโอโมจิ) จากสัญลักษณ์ และใส่สัญลักษณ์พิเศษ Symbols ได้ด้วย
 
เราพูดถึงฝั่ง Windows ไปแล้ว แล้วฝั่ง macOS มีฟีเจอร์ Clipboard History เหมือนกันไหม คำตอบคือไม่มีฟีเจอร์ที่เก็บประวัติ Clipboard  แต่พอจะมีฟีเจอร์ที่ใช้แทนกันได้ นั่นคือ Text Clippings เราสามารถลากเมาส์คลุมข้อความที่ต้องการ แล้วลากไปโยนใส่หน้า Desktop ได้ครับ ซึ่งทั้งหมดก็จะแสดงในรูปแบบไฟล์ที่เปิดอ่านและคัดลอกได้ และวิธีนี้ก็ยังใช้กับรูปภาพได้เช่นกัน อันนี้แพนว่าพอใช้แก้ขัดได้ แต่คงไม่สะดวกสบายเท่ากับ Clipboard History แน่นอน
 
ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 

รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/953vLYBq-Gc

ข่าวที่เกี่ยวข้อง