สาบานให้ตายผมไม่ได้ทำ ! หนุ่มร้อง ติดคุกฟรี เหตุอ้างเป็นตำรวจ “คดีน้องชมพู่”

หนุ่มร้อง ติดคุกฟรี 6 เดือน ข้อหาแอบอ้างเป็นตำรวจ-พ.ร.บ.คอมฯ หลอกแฟนคลับ "คดีน้องชมพู่" โอนเงิน 3  แสน ทนายคาใจลองสืบดู ปรากฎว่าอัยการไม่ได้สั่งฟ้อง !  

 

 

            วันที่ 3 พ.ย. 65 พรเทพ พุ่มสะอาด (เดี่ยว) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า วันที่ 21 มิ.ย. 64 มีเพจหนึ่งท้าทายตนว่าถ้าตนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตนไปยืนยันตัวตนที่ สน.สุทธิสาร ตนก็ไป พอถึงโทรหาคนที่ท้าทาย ตนก็ถูกจับเลย โดยถูกกล่าวหาว่า ตนแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกลวงแฟนคลับในคดีน้องชมพู่ให้โอนเงินจำนวน 3 แสนบาท ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย ตนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหากับตำรวจทั้งหมด แต่คนเข้าใจผิดว่าตนรับสารภาพ เนื่องจากวันถัดมาตำรวจบอกให้ตนขอโทษแฟนคลับคดีน้องชมพู่ มันจะได้จบ ๆ ไป ไม่ต้องถูกเขาประณาม มันไม่มีอะไรหรอก ตนก็คิดว่ามันไม่มีอะไรจริง ๆ เลยทำตามที่เขาบอก ส่วนเงิน 3 แสนบาทนั้นเป็นเงินที่อดีตแฟนสาวของตนโอนเงินมาให้ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแฟนคลับคดีน้องชมพู่เลย ไม่เคยมีใครโอนเงินมาให้ หรือไปเรี่ยไรเงิน อ้างมาทำคดีเลย ทั้งนี้เรื่องแต่งกายคล้ายตำรวจ ตนก็แต่งกายเสื้อผ้าปกติ และกล้าสาบานว่าไม่เคยไปอ้างกับใครว่าเป็นตำรวจ 

 

            นอกจากนี้ ยังมีคดียักยอกทรัพย์อีก 1 ข้อหา โดยตอนนั้นตำรวจนำเอกสารมาให้เซ็น ค่อนข้างเยอะ และบอกให้เซ็น ๆ ไปเถอะ ตนก็เซ็นไปโดยไม่ได้อ่านอะไรเลย เขาบอกให้ทำอะไรตนก็ทำ หลังจากนั้นตนได้ถูกฝากขังนับตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 64 จนกระทั่งวันที่ 1 ส.ค. 64 ตนไปขึ้นศาล อัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ถูกปล่อยตัววันที่ 6 ส.ค. 64 จากนั้นตนก็เดินทางไป สน.สุทธิสาร เนื่องวันที่มาแสดงตัวตน วันนั้นตนขับรถตู้มา กุญแจรถอยู่ที่ตำรวจ พอไปถึง ตำรวจบอก "มึงมาได้ยังไง" แล้วเขาก็โทรศัพท์แล้วหายไปเลย ตนเลยให้พี่ชายเอาเอกสารรถมาให้ ตนจะนำไปยืนยันตัวว่าเป็นเจ้าของรถ พอกลับไปที่ สน. ก็มีเจ้าหน้าที่เรือนจำมาควบคุมตัวตนกลับเรือนจำ อ้างว่าปล่อยตัวคนผิด ทีนี้กลับไปอยู่ในเรือนจำยาวเลย 3-4 เดือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนวันที่ 20 ม.ค. 65 ถูกส่งตัวไปขึ้นศาลในคดียักยอกทรัพย์รถตู้

 

 

            ศาลถามตนว่าได้เอารถตู้ไปหรือไม่ ตนก็ให้การปฏิเสธ เนื่องจากรถตู้ที่เขากล่าวเป็นของตนเอง แต่ได้ซื้อเป็นชื่อของอดีตแฟน ส่วนตนเป็นผู้ค้ำประกัน สุดท้ายศาลก็บอกว่าจะปล่อยตน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รถตู้คืน ได้ไปแจ้งความกับตำรวจเขาก็ไม่ได้รับแจ้งความ ซึ่งคนเอารถไปคือลุงของอดีตแฟน ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ทั้งอดีตแฟน และตัว

 

 

            ด้าน เอกชัย แมงทอง ทนายความ เผยว่า เคสนี้ตนเกิดความสงสัยว่า นายพรเทพ ถูกฝากขังอยู่ในคดีไหนกันแน่ โดยในคดีแรกแต่งกายคล้ายเจ้าพนักงานมันจบแล้วหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ถูกปล่อยผิดตัว เลยกลับไปฝากขังอีกครั้ง ซึ่งอีกคดีข้อยักยอกทรัพย์ศาลก็ไม่ได้มีคำสั่งฝากขัง ตอนนี้ก็กำลังหาคำตอบตรงนี้อยู่ว่ามันเป็นอย่างไร 

 

 

            ฟาก ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบข้อมูลกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง คดีแรกที่เขาโดนมันมี 2 ข้อหา ข้อหาแรกเกี่ยวกับการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่พนักงาน ข้อหาที่ 2 เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมฯ 2 ข้อหานี้อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจนพอ แต่ในคดียักยอกทรัพย์ศาลออกหมายขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งมันคาบเกี่ยวกับช่วงปล่อยตัวในคดีแรก เลยทำให้เขาถูกส่งตัวกลับไปไม่ได้ผิดหลักการ 

 

            ขณะเดียวกันเมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งให้ไม่ฟ้อง เท่ากับว่าไม่เข้าข่ายจะได้รับเงินเยียวยาจาก พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เนื่องจากเขายังไม่ตกเป็นจำเลย ซึ่งตามมาตรา 20 ระบุว่าจะต้องตกเป็นจำเลยเมื่ออัยการสั่งฟ้อง แต่ในคดียักยอกทรัพย์รถตู้ ต้องไปสู้คดีต่อ และถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม จะเข้าเงื่อนไขการเยียวยาได้