logo Beartai 7HD ไอทีและยานยนต์

ดูให้เข้าใจ ! ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว ดาวยิ่งมาก ยิ่งประหยัดไฟ

Beartai 7HD ไอทีและยานยนต์ : เคยสังเกตบ้างไหม ว่าเดี๋ยวนี้เวลาเราไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเห็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้วต่อท้ายด้วยดาว เป็น 1-3 ด หนุ่ย พงศ์สุข,แบไต๋,แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์เทคโนโลยี,CH7HDNEWS,TERODigital,beartai7HD,แบไต๋7เอชดีไอทีและยานยนต์,ช่อง7,ข่าวล่าสุด,ch7hdnews,ข่าวช่อง7,กด35,แบไต๋ 7 เอชดี ไอทีและยานยนต์,beartai7hd,ฟิล์มกรรญกฤต อรรควงษ์,เบนซ์ชนกนันท์ เสนปิ่น,ภูมิเกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์,พลังงานไฟฟ้า,JR East,แปลภาษาเรียลไทม์,Microsoft 365,Microsoft รีแบรนด์,ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว,Google Maps ช่วยจำที่จอดรถ

451 ครั้ง
|
31 ต.ค. 2565
เคยสังเกตบ้างไหม ว่าเดี๋ยวนี้เวลาเราไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะเห็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้วต่อท้ายด้วยดาว เป็น 1-3 ดวงต่อท้าย แล้วดาวพวกนี้มีความหมายอย่างไร แล้วทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ดาว แบไต๋มีคำตอบ
 
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นี้มีมากว่า 20 ปีแล้ว เวลาซื้อตู้เย็น พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศก็จะเห็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 อยู่ตลอด โดยโครงการนี้เป็นของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกระทรวงพลังงาน ที่จะตรวจสอบ คำนวณค่าไฟฟ้าโดยประมาณและให้เรตติ้งว่าประหยัดไฟมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประชาชน เวลาจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะต้องมองว่า มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไหมนะ ? แล้วก็จะผลักดันให้ผู้ผลิตต้องทำเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดไปโดยปริยาย
 
แม้จะปรับเกณฑ์การตรวจสอบเป็นระยะ ๆ และระบุปีของเกณฑ์พลังงานเอาไว้บนฉลากเบอร์ 5 แล้ว แต่ถ้าลองค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับฉลากตัวนี้ จะพบว่า มีหลายคนอยากให้ปรับปรุงฉลากใหม่ น่าจะจำกันได้ว่าช่วงนึง เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกเครื่องมีแต่เบอร์ 5 หมดเลย แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเครื่องไหนประหยัดพลังงานมากกว่ากัน
 
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขาก็เลยออกฉลากเบอร์ 5 รุ่นใหม่เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยยกเลิกเบอร์ 1 - 4 ออกไปหมดเลยเหลือแค่เบอร์ 5 อย่างเดียว และเพิ่มสัญลักษณ์ดาวที่จะระบุระดับคะแนนการประหยัดไฟเข้าไปแทน โดยยิ่งมีดาวมาก แปลว่ายิ่งประหยัดพลังงานนั่นเอง ซึ่งแต่ละดาวที่เพิ่มเข้ามา ก็จะประหยัดไฟขึ้นถึงดวงละ 5-10% เลย
 
ทำให้ตอนนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าตอนนี้เลยมีระดับของการประหยัดพลังงานที่ต่างกันแล้ว ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รุ่นใหม่มี 4 ระดับ ก็คือ เบอร์ 5 ปกติ, เบอร์ 5 แบบ 1 ดาว, 2 ดาว และ 3 ดาว
 
โดยในฉลากประหยัดไฟรูปแบบใหม่นั้น ประกอบด้วย
1. สเกลบอกระดับประสิทธิภาพพลังงานที่ได้รับ โดยจะมี 4 ระดับที่เคยบอกไว้ ถ้าได้เท่าไหร่ เข็มก็จะชี้ไปที่ระดับนั้น
2. ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากนั้น
3. ค่าไฟฟ้าที่จะต้องจ่ายต่อปี เลขค่าไฟโดยประมาณนี้นำไปเปรียบเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้นะคะ
4. ค่าประสิทธิภาพในการประหยัดไฟ ตรงนี้จะใช้เปรียบเทียบระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเดียวกัน ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ประเภทก็จะมีชื่อค่าประสิทธิภาพที่ต่างกัน เพราะงั้นอย่าเอาค่าประสิทธิภาพของแอร์ที่เรียกว่าค่า SEER ไปเทียบกับค่าประสิทธิภาพของตู้เย็น
5. ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ที่จะบอกข้อมูล ยี่ห้อ รุ่น ขนาด และรายละเอียดของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ เป็นข้อมูลประกอบ ไว้ช่วยเช็คว่าฉลากนั้นตรงรุ่นไหม
6. ป้ายเว็บไซต์โครงการฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ใช้สำหรับเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้
 
ความแตกต่างระหว่างฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เดิม กับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาวก็คือ ถ้าสินค้ายังได้ค่าความประหยัดพลังงานเทียบเท่าเบอร์ 5 เดิม เข็มก็จะชี้อยู่ที่เบอร์ 5 เท่านั้น แต่ถ้าเข็มชี้ที่ดาวมากดวง ก็แปลว่าจะยิ่งประหยัดไฟฟ้ามากขึ้นอีกนั่นเอง
 
ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/mXx_gHKFjfo

ข่าวที่เกี่ยวข้อง