logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

บ่อนใหญ่ย่านรามอินทรา ปล้นเซียนพนัน ถุงดำคลุมหัว อุ้มซ้อม รีดเงิน 5 ล้าน !

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ผู้เสียจำนวน 5 ราย เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอดหลังกลุ่มผู้เสียหายไปเล ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ

441 ครั้ง
|
27 ต.ค. 2565
ผู้เสียจำนวน 5 ราย เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอดหลังกลุ่มผู้เสียหายไปเล่นบ่อนการพนันชื่อดัง ย่านถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม และถูกกลุ่มชายชกรรจ์กว่า 10 คน นำถุงดำมาคุมหัว แล้วพาไปทำร้ายร่างกาย รีดเงินไปกว่า 5 ล้านบาท  
 
โดยตัวแทนผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนั้น ตนเองและกลุ่มเพื่อนได้เข้าไปเล่นที่บ่อนดังกล่าวในช่วงเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งก่อนหน้าก็ได้มีการเดินทางไปเล่นมาแล้วประมาณสองวันรวมวันที่ 19 เป็นวันที่ 3 โดยเมื่อเล่นไปได้สักพักถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นตัวแทนของบอลก็ได้มีการมาเรียกกลุ่มตนเองขึ้นไปบริเวณชั้นสองของอาคาร กล่าวหาว่ากลุ่มพวกตนโกงการเล่นเสือมังกร จนทำให้บ่อนเสียเงินเป็นจำนวนมาก 
 
โดยขณะนั้นประมาณ 3-4 ทุ่ม กลุ่มตนเองได้มีการแอบเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวขึ้นไปด้วยจึงได้มีการโทรแจ้งตำรวจผ่านสายด่วน 191 ก่อนที่จะมีตำรวจติดต่อกลับมาเพื่อสอบถามสถานที่เมื่อตนเองแจ้งพิกัดไปและตำรวจแจ้งว่าเดินทางมาถึงตามจุดที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ทางตำรวจไปสายได้บอกว่าสถานที่นี้เป็นบ่อนการพนันไม่ใช่หรอ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้ยืนยันว่าใช่และถูกคุมตัวอยู่ที่ชั้นสองของอาคารดังกล่าวปลายสายก็ตัดไปและไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย
 
ในเวลาต่อมามีคนของทางบ่อนเดินขึ้นมา และแจ้งว่ามีคนในกลุ่มผู้เสียหายติดต่อโทรแจ้งตำรวจจึงได้มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มตนเองขึ้นรถตู้โดยอ้างว่าจะพาไปที่สน.แต่ปรากฏว่ามีการพา มาจอดพักรถไว้ที่ย่านถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เป็นเวลานานกว่าชั่วโมงครึ่ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นช่วงเวลาที่มีทางตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ที่บ่อนการพนันดังกล่าว เมื่อตำรวจออกจากบ่อนการพนันไปกลุ่มกาดที่มีการคุมตัวขึ้นรถตู้ไปก็ได้มีการพาตัวกลับมาที่บ่อนการพนันอีกครั้ง
 
ก่อนที่ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน จะเริ่มมีการพาตัวผู้เสียหายออกไปทีละคนซึ่งทุกคนจะโดนทำร้ายร่างกายทั้งการเอาถุงดำคลุมหัวเอามือปิดจมูกและปากและมีการซ้อมทำร้ายร่างกายเพื่อรีดเอาเงิน โดยกลุ่มคนที่ทำร้ายมีการอ้างว่าเป็นทหาร ซึ่งตลอดกาลซ้อมทำร้ายร่างกายจะถามตลอดว่า มีเงินเท่าไหร่ให้เอามาให้หมด ซึ่งกลุ่มคนที่รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทุกคนมีมากกว่า 10 คน จนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงต้องมีการยอมบอกรหัสโทรศัพท์เพื่อให้กลุ่มที่รุมทำร้ายกดโอนเงินออกจากบัญชีไปโดยรวมแล้วเป็นเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาท 
 
เมื่อได้เงินไปตามที่ต้องการแล้วก็ได้มีการพาตัวกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดขึ้นรถตู้และนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณถนนสุขาภิบาลห้าในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า พร้อมข่มขู่ว่าหากมีการแจ้งความดำเนินคดีจะติดตามไปฆ่าทิ้งพร้อมกับมีการถ่ายบัตรประชาชนของกลุ่มผู้เสียหายไว้ทุกคนเพื่อแสดงให้เห็นว่ารู้ข้อมูลที่ อยู่ของผู้เสียหายทุกคน
 
ในเวลาต่อมาประมาณช่วงเดือนกันยายน ได้มีหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจกลับให้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์และมีการประสาน ไปที่ตัวแทนของบ่อนการพนันและมีการส่งบุคคลเข้ามาทำบันทึกต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่าจะคืนเงินตามจำนวนที่มีการเอาออกไปจากบัญชีของผู้เสียหายแต่สุดท้ายมีการคืนเงินมาเพียงจำนวน 500,000 บาทจากจำนวนเงิน ทั้งหมดกว่า 2 ล้านบาท ของผู้เสียหายรายนี้
 
นายเอกภพ ระบุว่า จากการได้พูดคุยกับทางผู้เสียหายทำให้ทราบว่าบ่อนการพนันดังกล่าวถือว่าเป็นบ่อนใหญ่ เพราะทราบว่ามีหลากหลายการเล่นการพนันทั้งเสือมังกร บาคาร่า กำถั่ว หลากหลายวงอยู่ในพื้นที่อาคารเดียวกันและมี คนเข้าไปเล่นจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งการที่ตำรวจทราบว่าเป็นสถานที่เล่นการพนันแต่กลับไม่เข้าไปดำเนินการใดใดถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ รวมถึงเมื่อผู้เสียหายมีการเข้าไปแจ้งความ 
 
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าต้องเข้าข่ายการปล้นทรัพย์เพราะมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 10 คน แต่ตำรวจกลับให้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์โดยแจ้งกับทางผู้เสียหายว่าการที่เสียเงินไปถือว่าเป็นการเสียทรัพย์ ถือว่าเป็นการจงใจแจ้งข้อหาที่ไม่ตรงกับการกระทำความผิด เพราะการปล้นทรัพย์ถือเป็นความผิดอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ แต่การทำให้เสียทรัพย์สามารถจบลงได้ด้วยการเจรจาคืนเงิน รวมถึงพฤติกรรมในการทำร้ายร่างกาย ที่ใช้ถุงดำคลุมหัวถือว่าเข้าข่ายพยายามฆ่า แต่กลับไม่มีการพูดถึงในประเด็นนี้
 
และนอกจากเงินที่บังคับโอนยังมีการนำทรัพย์สินอื่น ๆ เช่นโทรศัพท์มือถือและสร้อยทองต่าง ๆ ไปและไม่มีการคืน และไม่มีการพูดถึงในการลงบันทึกประจำวันอีกด้วย โดยหลังจากได้รับการประสานในวันนี้จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทั้งหมดและประสานขอความช่วยเหลือไปที่ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการเจ้าของพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีนี้
 
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/aDwt4YOw23A

ข่าวที่เกี่ยวข้อง