อัยการยื่นอุทธรณ์โทษ “ลุงพล” จาก รอลงอาญา ให้เป็น “จำคุก” เหตุไม่มีท่าทีสำนึกผิดและยังต่อสู้คดีในชั้นศาล
logo ข่าวอัพเดท

อัยการยื่นอุทธรณ์โทษ “ลุงพล” จาก รอลงอาญา ให้เป็น “จำคุก” เหตุไม่มีท่าทีสำนึกผิดและยังต่อสู้คดีในชั้นศาล

ข่าวอัพเดท : คดีป่าไม้ ลุงพลยังไม่จบ จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ศาลมุกดาหารได้ การอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับ นายไชย์พล วิภา CH7HD,CH7HDNEWS,ch7 news,กด35,ข่าว,ข่าวการเมือง,ข่าวกีฬา,ข่าวช่อง7,ข่าวด่วน,ข่าวบันเทิง,ข่าวภูมิภาค,ข่าวร้อน,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวสังคม,ข่าวออนไลน์,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวเด็ด,ข่าวเด็ด 7 สี,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวโซเชียล,ข่าวใหม่,คดีฆาตกรรม,คลิปย้อนหลัง,ช่อง7HD,ช่อง7สี,ดูย้อนหลัง,รายการ,สนามข่าวเสาร์อาทิตย์,ลุงพล,ไชยพล วิภา

3,114 ครั้ง
|
27 ต.ค. 2565

คดีป่าไม้ ลุงพลยังไม่จบ อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ยื่นอุทธรณ์ในคดีร่วมกันทำไม้หวงห้าม พ.ร.บ.ป่าไม้ , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ จากโทษรอลงอาญาให้เป็นจำคุก

        คดีป่าไม้ ลุงพลยังไม่จบ จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ศาลมุกดาหารได้ การอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นเกี่ยวกับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นายธีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) และนายนิคม (สงวนนามสกุล) สองยูทูบเบอร์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา ในความผิดร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 จากนั้นเมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่21 เมษายน 2565 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 3 เดือนปรับ 45,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีกำหนด 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาทให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายกรมป่าไม้จำนวน 23,054 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี รวมทั้งรื้อถอนพญานาคภายใน 30 วัน ซึ่งต่อมาได้มีการย้ายออกตามคำสั่งศาล

โดยคดีนี้ดูท่าว่าจะจบลงที่ศาลชั้นต้นไปแล้วแต่เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 65 ทางอัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังจากได้มีการไลฟ์ของนายไชย์พล วิภาเมื่อคือวันที่ 26 ต.ค.65 ว่าตนเองได้รับหนังสือแจ้งจากศาลว่าตนเองได้ถูกอุทธรณ์เกี่ยวกับคดีป่าไม้ 1คดี

โดยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งนางสาวนฤมล วิเชียรแสน อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยเบื้องต้นว่าได้ยื่นอุทธรณ์คดีในไชย์พล พร้อมพวกอีก 2 คน ในคดีความผิดร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 จริง เนื่องจากว่า จำเลยไม่สำนึกผิด และยังต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งทางอัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ได้ยื่นอุทธรณ์คดีฯตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.65 ที่ผ่าน โดยยื่นในส่วนในการสั่งรอลงอาญาให้เป็นโทษจำคุก ส่วนเรื่องของรายละเอียดนั้นต้องให้ทางโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้แถลงอีกครั้ง เพราะในส่วนของอัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหารขอให้ข้อมูลเพียงเท่านี้ก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง