ตำรวจบุกค้นบ้าน เสี่ย ป. ทำฮาเร็ม ถ่ายภาพอนาจารเยาวชน

437 ครั้ง

27 ต.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ความคืบหน้ากรณีที่ ตำรวจบุกค้นบ้าน เสี่ย ป. นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใน อ.เมืองอุดรธานี เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้ปกครองของหญิงสาววัย 16 ปี ได้เข้ายื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว เสี่ย ป. เนื่องจากเกรงกลัวว่า จะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่าง ๆ

เมื่อช่วงสาย ๆ วันนี้ นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก ผู้ก่อตั้งเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” พร้อมด้วย นายน้อย พ่อของหญิงสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก “เสี่ย ป.” ชวนไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย เข้ายื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว “เสี่ย ป.” ในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะเป็นคนมีฐานะ และกว้างขวางในสังคม โดยมี พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

พ่อของผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า ส่วนแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว และตนมีภรรยาใหม่ โดยลูกสาวคนนี้เป็นลูกสาวคนเล็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ และทำงานเสิร์ฟอาหาร ลูกเป็นเด็กที่เชื่อฟังดี และมักจะบอกว่าจะไปนอนบ้านเพื่อน ตนจึงอนุญาต แต่พอมารู้เรื่องทีหลังว่า ลูกสาวโดนเสี่ย ป. ชวนไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย ได้เงิน 600 บาท รู้สึกเสียใจมาก จึงพาลูกมาแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับเสี่ย ป.จนถึงที่สุด

ด้านนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก บอกว่า ทางผู้ปกครองเกิดความกลัว เพราะว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีฐานะ ถ้าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานและหลักฐาน และกลัวถูกข่มขู่ หากผู้ต้องหาได้การประกันตัว แล้วมีความโกรธแค้นต่อน้อง ๆ อาจจะเอาคลิปออกไปเผยแพร่ก็ได้ ซึ่งผู้เสียหายและพ่อก็มีความกังวล จึงพาผู้เสียหายมายื่นคัดค้านการประกันตัว

นอกจากนี้ นางแมว (นามสมมติ) แม่ของหญิงสาวอายุ 15 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พบตัวอยู่ในห้องนอนบ้านเสี่ย ป.ในช่วงที่ตำรวจบุกเข้าค้น เล่าว่า ตนเลี้ยงลูกตามลำพัง เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่เคยเกเร ช่วงออกพรรษาลูกมาขอไปนอนบ้านเพื่อน และหลังจากนั้นก็มาขอไปนอนบ้านเพื่อนอยู่เรื่อย ๆ กระทั่งลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 23-26 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ออกตามหาที่บ้านเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น ตนกำลังจะมาแจ้งตำรวจ แต่ได้พบข่าวอยู่ในโซเชียลว่า ลูกไปอยู่บ้านเสี่ย ป.จึงรีบมาโรงพัก ขอฝากไปถึงเสี่ย ป. ว่า ไม่อยากให้ทำกับเด็กคนอื่นอีก เพราะไม่ดีต่อสังคม อย่าไปทำกับเด็กอื่นอีก

เราย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกจับ “เสี่ย ป.” คนดังเมืองอุดรธานี พร้อมทั้งทลายฮาเร็มกระทำอนาจารเด็กสาวอายุ 14 - 16 ปี เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน “เสี่ย ป.” ภายในซอยสามัคคี 6 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด หลังจากแม่เด็กสาวลูกครึ่ง อายุ 14 ปี ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ว่าลูกสาวหายไป และเพื่อนบอกว่าไปอยู่บ้าน “เสี่ย ป.”

จากการตรวจสอบพบว่า ประตูบ้านล็อกกุญแจจากด้านใน แต่มีไฟเปิดสว่างอยู่ ตำรวจได้ตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงใครตอบรับ กระทั่งพบเด็กสาวมาเปิดประตูหลังบ้าน และ “เสี่ย ป.” ได้อกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน โดยตำรวจได้เข้าตรวจค้น พบว่ามีห้องนอน 2 ห้อง ห้องเล็กพบเด็กสาวอายุ 15 ปี 2 คน รวมทั้งถุงยางอนามัย 2 กล่อง และสุรา 1 ขวด

ด้าน “เสี่ย ป.” บอกกับตำรวจว่า อุปกรณ์ทั้งหมดเป็นฉากที่ทำขึ้น เพื่อหัดถ่ายภาพให้เด็ก ส่วนใครจะแก้ผ้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ หากเด็กต้องการใช้เงินก็จะให้ ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรเด็ก นอกจากการถ่ายภาพ ทำมาได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนที่มีเด็กมาอยู่ในบ้านจำนวนมาก เพราะเป็นคนรักเด็ก แต่จะเลือกเฉพาะผู้หญิง เพราะหากมีเด็กผู้ชายเข้ามา หวั่นว่าจะวุ่นวายเรื่องชู้สาว

ขณะที่เด็กสาวทั้ง 2 คน บอกว่า ไม่เคยเข้าไปในห้องนอน “เสี่ย ป.” แต่ยอมรับว่า เด็กสาวลูกครึ่ง อายุ 14 ปี เคยมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่รู้ว่ามาทำไม ที่ผ่านมา “เสี่ย ป.” ไม่เคยบังคับให้ทำอะไร และดูแลเหมือนคนในครอบครัว แถมให้เด็กทุกคนเรียกว่า “พ่อ”

แต่ข้อมูลที่ได้จากเด็ก 2 คน แรก ตรงข้ามกับข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับจากพี่สาวของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ซึ่งเล่า เขาจะรับเด็กอายุ 14 - 16 ปี เข้ามาอยู่ในบ้าน และชอบลวนลามเด็ก ทั้งโอบกอด จับหน้าอก รวมทั้งชวนหลับนอนด้วย โดยจะให้เงินตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับความพอใจ

เบื้องต้น “เสี่ย ป.” ถูกแจ้งข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจาร พรากผู้เยาว์ และตำรวจยังควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม รวมทั้งรอผลตรวจสอบคอมพิวเตอร์ ว่ามีภาพลามกอนาจารอีกหรือไม่ และหากพบว่ามีการล่วงละเมิดเด็ก ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก

ส่วนเด็กหญิงอายุ 15 ปี ทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุดรธานี รับไปดูแลแล้ว และทีมสหวิชาชีพจะมาร่วมสอบปากคำหาความจริงอีกครั้ง

ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35