มหากาพย์ “อู่ดังชลบุรี” เหลี่ยมทุกดอก แล้วบอกพวกกัน !

กลุ่มผู้เสียหายกรณี "อู่ดังชลบุรี" แฉเรื่องราวหลังออก "ถกไม่เถียง" คราวก่อน เหมือนจะจบสวย เจ้าของอู่ตกลงว่าจะไล่รับผิดชอบทีละคัน พอถึงเวลาทั้งบ่ายเบี่ยง โวยวาย แถมขู่จะฟ้อง ! 

 

 

            วันที่ 28 ต.ค. 65 กฤษฎา อินทรภิรมย์ (เก่ง) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า หลังจากออกรายการไปคราวก่อน ได้ตกลงกันว่าเขาจะรับผิดชอบรถของตนก่อนเป็นคิวแรก ซึ่งตนก็ได้ติดต่ออู่ใหม่ ให้ทางอู่ใหม่ติดต่อกับเจ้าของอู่ดังชลบุรี ทางเจ้าของอู่คู่กรณีได้บอกกับช่างอู่ใหม่ให้เข้าไปรับรถได้เลยวันที่ 16 ต.ค. แต่เมื่อช่างใหม่ไปรับรถวันนั้น ก็ไม่ได้รถกลับมา ไม่สามารถติดต่อเจ้าของอู่ดังได้ จึงให้ช่างไปอีกรับรถอีกทีวันที่ 18 ต.ค. แต่ก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าของอู่ดังได้เหมือนเดิม เย็นวันนั้นตนจึงเข้าไปที่อู่คู่กรณีด้วยตัวเอง เพื่อไปรับอะไหล่ แต่ก็ไม่ได้อะไหล่อีกเช่นเดิม เข้าไปก็เจอแต่แม่ของเจ้าของอู่ดัง ซึ่งคุณแม่ก็พยายามจะบ่ายเบี่ยงอย่างเดียว 

 

            นอกจากนี้ เขายังโทรมาโวยวาย บอกให้ตนส่งเลขบัญชีของอู่ใหม่ ให้เขา เขาจะรีบโอนเงินไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีการโอนเงินใด ๆ ขณะที่สีที่ตนขอไป เขาอ้างว่าส่งให้ตนแล้ว แต่ประมาณ 5 วันก็ยังไม่ได้ของ แค่ส่งจาก ชลบุรี ไป กรุงเทพฯ 

 

 

            ด้าน ศุภรัตน์ ทองวนิช (ออมสิน) ผู้เสียหาย เผยว่า หลังจากออกรายการไป ตนกับเจ้าของอู่ดังคู่กรณีได้ ตกลงกันว่าจะคืนอะไหล่ให้ตนวันที่ 17 ต.ค. เป็นอะไหล่ช่วงหน้ารถ ไม่ต้องทำอะไรให้ตนนอกเหนือจากนี้ ที่เหลือเดี๋ยวตนไปทำเอง วันที่ 17 ต.ค. เจ้าของอู่ดังติดต่อมาหาตน ขอตกลงว่าของตนจะให้ของคืนวัน 19 ต.ค. พอถึงวันที่นัดกันไว้เขาก็โทรเข้ามาขอเลื่อนให้เป็นคิวสุดท้าย เนื่องจากติดปัญหาเรื่องประกัน ซึ่งตนก็ได้บอกเขาว่า อะไหล่กับประกันมันไม่เกี่ยวกันเลย แค่คืนอะไหล่มา แล้วประกันเขาจะมาตรวจสอบอะไรก็ให้เขามา

 

            ขณะเดียวกันตนก็ไม่ให้เลื่อนแล้ว เพราะเขาก็บอกว่าเขาเก็บอะไหล่ไว้หมด แต่ทำไมถึงคืนไม่ได้ ตนยืนยันว่าจะเอาอะไหล่วันที่ 19 ต.ค. จากนั้นเจ้าของอู่ดังตอบกลับว่า "ถ้าจะเอาวันนี้ก็รอไปเถอะ แต่ถ้าเกิดอยากได้ก็ไปฟ้องเอา" นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ตนมีปัญหาอยู่คนเดียว คนอื่นเขาเคลียร์หมดแล้ว ซึ่งจริง ๆ ตนก็ยังคุยกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ เขาก็ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบเหมือนกัน สุดท้ายตนก็ตัดสินใจจะฟ้อง ให้เป็นเรื่องของคดีไป 

 

            ฟาก ดาราธิป ไชยชนะ (ฟิล์ม) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนตกลงกับเจ้าของอู่ดังไว้ว่าเป็นคิวต่อจากของออมสิน จึงได้ติดต่อไปตามเรื่องวันที่ 20 ต.ค. ซึ่งตนก็ได้เอารถไปจอดไว้ที่อู่ใหม่ เขาประเมินราคาค่าทำสี ต่าง ๆ 2.5 หมื่นบาท แต่พอคุยกับเจ้าของอู่คู่กรณีเขาก็ไม่ยอม บอกว่า "ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา" 

 

 

            นอกจากนี้เขายังบอกว่า เขาอยู่กับตำรวจ ทนาย กำลังรับเรื่อง ที่พวกตนไปบุกรุกอู่เขา ทำให้อะไหล่เขาหาย โดยบอกว่าจะฟ้องพวกตนทุกคน ทั้งนี้หลังจากออกรายการครั้งที่แล้ว เจ้าของอู่ดังเขาอ้างว่าพวกไฟรถ ถอดเก็บไว้ที่บ้านเขา แต่จริง ๆ แล้วไม่มี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้อะไรคืนเลย ทั้งนี้ตัวเจ้าของอู่ดังติดต่อยากมาก โทรไปก็ไม่ค่อยติด หรือโทรติดก็ไม่มีคนรับ 

 

            ด้าน ศุภกิตติ์ สายกัญญา (เกมส์) ผู้เสียหาย เผยว่า ของตนเป็นคิวสุดท้าย หลังจากวันออกรายการไป 2 สัปดาห์ ตนก็โทรติดต่อไปเนื่องจากมันถึงคิวตนแล้ว แต่ทีนี้เขาขึ้นมึงขึ้นกูกับตนเลย บอกว่า "รอสิ มึงก็รอสิ ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา ของมึงคนเดียวนะที่เป็นปัญหา" ซึ่งจริง ๆ ผู้เสียหายรายอื่น ๆ เขาก็ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบ แต่เขากลับประกาศว่าทำแล้ว ทั้งนี้ของตนยังไม่ได้เอารถเข้าอู่ใหม่ เพราะผู้เสียหายรายอื่น ๆ ยังไม่ได้รับการชดใช้ 

 

            ส่วน จักรินทร์ พรมเดื่อ (เค) ผู้เสียหาย เผยว่า กรณีของตน เอารถไปซ่อมกันชนหน้า เป็นรอยขูดขีดแค่นิดหน่อย เลยเอารถไปเข้าอู่ที่เป็นข่าวนี้ โดยอู่บอกว่าใช้เวลาซ่อม 15-20 วัน และยังเสนอให้ใช้ประกันช่วยจ่ายส่วนต่าง ค่าแปลงกระจังหน้าเป็นอีกรุ่น ซึ่งตนก็เข้าไปดูเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ให้เข้าไปดู แล้วก็เลื่อน อ้างติดนู้นติดนี่ไปเรื่อย สุดท้าย ผ่านไป 2 เดือน ไฟหน้า ไฟท้ายหาย กระจังหน้าหาย ฝากระโปรงหน้าหาย สายไฟหาย ทางอู่อ้างว่า เขาถอดอะไหล่ไว้เฉย ๆ เพราะว่าแถวอู่มันเปลี่ยว เป็นทางรถไฟ กลัวคนจะมาขโมย

 

 

            ขณะที่ ระหว่างเอารถไปเข้าอู่ เจ้าของอู่ดัง ก็เอารถมาให้ตนใช้สำรองไปก่อน เป็นรถกระบะ อีซูซุ สีเทาบลอนด์ สภาพคือเอาเคเบิ้ลไทร์รัดกันชนหน้ามา ถ้าขับเร็ว ๆ อาจจะหลุดได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ใช้รถคันนี้บ่อยเพราะมันไม่สมบูรณ์ มารู้ภายหลังว่าเป็นรถของนาย เกมส์ ที่นำไปซ่อมเหมือนกัน ซึ่งตนก็ได้ทำการหาตัวเจ้าของรถจากสติกเกอร์กลุ่มที่แปะไว้ ที่ค้นหา เพราะตนกลัวว่ารถตนจะถูกเอาไปขี่เหมือนกัน และเห็นใจคนอื่นด้วย 

 

 

            ขณะเดียวกัน กฤษฎา อินทรภิรมย์ เล่าต่อว่า สุดท้ายทนไม่ไหว เลยรวมกลุ่มกันไปปแจ้งความที่ สภ. โดยเอารถที่ถูกกระทำไปจอดที่ สภ. ประมาณ 10 คัน เพื่อให้เขาเห็นว่าเราถูกกระทำจริง ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีรถคันอื่นนอกจากนี้อีก แต่เขาไม่สามารถเอามาได้ บางคันเหลือแค่หัวกับเครื่องยนต์ คนที่เอามาได้ คือรถที่พอขับได้เท่านั้น โดยมีผู้เสียหายไปทั้งหมด 20-30 คัน 

 

 

            ฝั่ง เอกกี้ กลุ่มเพื่อน 90 ผู้ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มนี้ เนื่องจาก ออมสิน เป็นสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ส่งหลักฐานให้ดู ว่าถูกอู่ทำอะไรบ้าง พอเห็นแบบนี้ก็ยิ่งตกใจ ผู้เสียหายบางรายถึงขั้นร้องไห้ เอารถเข้าไปทำ 8-9 เดือน ไม่ได้กลับบ้านต่างจังหวัด เขาไม่มีรถใช้ บางคนแฟนป่วยไม่มีรถพาไปหาหมอ ต้องโทรมาให้ตนช่วย ตนก็ช่วยแจ้งประสานกู้ภัยเข้าไปรับ ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าขั้นตอนของทางอู่บริหารจัดการกันยังไง แต่ถ้าทางอู่บอกว่าอยากให้สังคมเห็นใจ อันนี้ตนคิดว่าอู่ต้องเห็นใจผู้เสียหายก่อน 

 

            ส่วนเรื่องการช่วยเหลือ ตนได้ปรึกษากับผู้ใหญ่หลาย ๆ ฝ่าย ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด วิเคราะห์แล้วว่ามันเข้าข่ายเป็นคดีความ ครั้งแรกเลยพาผู้เสียหายไปที่ศูนย์ดำรงธรรม หลังจากนั้นเจ้าของอู่ดังก็มาออกรายการถกไม่เถียง ก็ทำให้ตนสบายใจไประดับหนึ่ง เพราะเขาออกมาพูดต่อหน้าสื่อ มีคนทั้งประเทศเป็นสักขีพยาน แต่หลังจากนั้นเขาไม่ได้รับผิดชอบ แถมยังมีการข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับ และยังไปติดต่อผู้ใหญ่ ทำให้ดูเหมือนมีอิทธิพล 

 

 

            ขณะที่ เอก โซว์ทรัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งรถกระบะซิ่ง เผยว่า เคสแบบนี้มันมีในวงการรถอยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่เจ้าของอู่กับคู่กรณีเขาจะตกลงกันได้ รับผิดชอบกันไป แต่สำหรับเคสนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง หากจะแปลงหน้าเดิม เป็นหน้าปี 2020 กันชนที่แปลงมาใหม่ ต้องมีก่อน ถึงจะเอาของเก่าไปขาย หรือเอาไปแปลใด ๆ ได้ ถึงจะอ้างว่าเคลมประกัน เอาอะไหล่แลกกันไปขาย ใด ๆ มันไม่ควรทำ อย่างไรก็ตามซากต่าง ๆ ที่เคลมประกันแล้วก็ควรคืนประกันไป แต่เคสนี้ดันไปโผล่อยู่ใน Shopee และ Lazada