ตามกันต่อกับคดีใหญ่คดีนี้ ประเด็นที่ ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ อส. ไปเรียกรับผลประโยชน์แก๊งค้ายานรก โดยทีมข่าวได้รับการติดต่อจากเพื่อนของผู้ชายคนหนึ่งที่อ้างว่า โดนเรียกเงินกว่า 7 แสนบาท แถมโดนซ้อมจนปางตาย และจะกระทำอนาจารภรรยาอีกด้วย ด้าน ป.ป.ช. ก็ตามเกาะเรื่องนี้ไม่ปล่อย โดยให้ สภ.รัตภูมิ ต้องส่งสำนวนคดีนี้ภายใน 30 วัน หากผิดจริงมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
ความคืบหน้ากรณีของ จ่าเอกไพรัช แก้วมณี ปลัดอำเภอรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.สงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. อีก 5 นาย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ หลังจากที่ถูกออกหมายจับมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยาเสพติด
โดยเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.เมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำทั้งปลัด และเจ้าหน้าที่ อส.อีก 5 นาย โดยใช้เวลาสอบมาราธอนถึง 12 ชั่วโมงตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 น. จนถึง 20.30 น. ทางปลัดและ อส. ได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งของปลัดอำเภอ 5 นาย ค้ำประกันตีวงเงินประกันคนละ 3 แสนบาท รวม 1 ล้าน 8 แสนบาท และได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
หลังได้รับการประกันตัว จ่าเอกไพรัช ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก ระบุว่า ตนและเจ้าหน้าที่ทุกนาย มาพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริงได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยในวันเดียวกัน ก่อนหน้าที่จ่าเอกไพรัช และพวก จะเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจนั้น ทีมข่าวได้รับการติดต่อจากเพื่อนของชายคนหนึ่งที่อ้างว่า เพื่อนของเขาที่เคยอดีตเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายหนึ่ง บอกว่า เคยถูกเจ้าหน้าที่ที่คาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ชุดนี้ เรียกรับเงินกว่า 7 แสนบาท และเคยถูกซ้อมปางตาย เอาไฟฟ้าช็อต แถมจะกระทำอนาจารเมียของเขาอีกด้วย
ทีมข่าวได้พยายามขอนัดหมายเพื่อทำการขอสัมภาษณ์ แต่ทางเพื่อนและผู้ชายที่อ้างว่า เคยตกเป็นเหยื่อนั้น เกิดความเกรงกลัว และอ้างว่า ชุดของจ่าเอกไพรัช ได้รับการประกันตัวแล้ว อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นกับตัวเขาเอง และหากประเมินสถานการณ์ว่า ปลอดภัยแล้วจะออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าวด้วยตนเอง
ความคืบหน้าของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดย น.ส.สุดใจ ไข่เสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำ จ.สงขลา รักษาราชการแทน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 ได้มอบให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานปราบปรามการทุจริต และกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ ไปยัง สภ.รัตภูมิ เพื่อติดตามการสอบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยพนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนคดีให้ สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการภายใน 30 วัน และสำนักงาน ป.ป.ช. จะรับเรื่องมาสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหน้าที่และอำนาจ หากพบว่า เป็นการกระทำความผิดจริง ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานเพื่อจัดทำสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยดำเนินการภายใน 30 วัน จากนั้นพิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ก่อนพิจารณาไต่สวนต่อไป
ทีมข่าวช่อง 7HD ยังได้พบกับผู้เสียหายจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุดนี้ เป็นหญิงชาวอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ร้องเรียนกับทีมข่าวว่า หลังไปกู้เงินนอกระบบ นำเงินมาจ่ายให้เจ้าหน้าที่ชุดนี้ ที่จับกุมลูกชายพร้อมไอซ์ 1 กรัม เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ก็มีโทรศัพท์ที่อ้างชื่อ “หมวดอาร์ม” แจ้งให้หาเงิน 200,000 บาท แลกอิสรภาพลูกชาย สุดท้ายต่อรองเหลือ 150,000 บาท โดยนำเงินสดไปให้ 2 ครั้ง แต่ละครั้งวางไว้ริมถนน พื้นที่รอบนอกอำเภอหาดใหญ่
นอกจากนี้ ยังให้ลูกชายโทรศัพท์มาหา ขอเงินเพิ่ม 50,000 บาท นำไปใช้ล่อซื้อยาเสพติด เมื่อสำเร็จก็จะคืน แต่จนแล้วจนรอดถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้คืน ตนก็ทวงถามจนถอดใจ และลูกชายก็ยังถูกจำคุก
เมื่อทีมข่าวนำรูปเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ที่โพสต์ในโซเชียล ให้ผู้เสียหายดู ก็ยืนยันตัวเจ้าหน้าที่ที่พูดคุยและเรียกรับเงินได้อย่างชัดเจน
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35