เป็นประเด็นใหญ่ที่สะท้อนภาพมุมกลับ เกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ กรณีแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงยาเสพติดของกลาง หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำการล่อซื้อในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
โดย ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับ ปลัดและเจ้าหน้าที่ อส.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดรวม 6 คน หลังพบหลักฐานยืนยันเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีผู้ต้องหาคดียาเสพติด
เปิดภาพนาทีที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับชุดสืบสวน ภาค 9 และ ชุดสืบสวนจังหวัดสงขลา สนธิกำลังไล่ล่า นายเสริมศักดิ์ หรือเสริม และนายกัมปนาท หรือบังดล หัวหน้าแก๊งค์ค้ายาที่นำกำลังซ้อนแผนบุกชิงลูกสมุนจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ อส. ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่า เปิดเผยว่า หลังทราบเบาะแสว่า คนร้ายทั้ง 2 คน ได้ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ในวันก่อเหตุ ปรากฏตัวอยู่บริเวณ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกติดตาม
เมื่อพบรถเป้าหมายกำลังขับมุ่งหน้าไป จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ได้ตามสะกดรอย แต่พอรถของคนร้ายได้ที่ขับมาจากพื้นที่เขาพับผ้า บริเวณรอยต่อ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง ซึ่งใกล้ถึงด่านตรวจสกัดของเจ้าหน้าที่เล็กน้อย คนร้ายทั้งสองได้เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปทางวัดนาวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เจ้าหน้าที่จึงเปิดเกมเข้าชาร์จรถคนร้ายทันที และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ปฏิบัติการครั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ ยังได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา ในการขอออกหมายจับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จังหวัดสงขลา อีกด้วย และศาลจังหวัดสงขลา ได้อนุมัติออกหมายจับ จ่าเอกไพรัช ปลัดอำเภอหัวหน้าชุด นายหมู่เอก เฉลิมศักดิ์ นายหมู่ตรี พิษณุ สมาชิกเอก สุทธิพงษ์ สมาชิกเลิศฤทธิ์ และสมาชิก อดิศักดิ์
โดยออกหมายจับในฐานความผิด “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันกระทำความผิด เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต”
จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมให้การตรงกันว่า นายไพรัช กับลูกน้อง ได้มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกไม่ดำเนินคดีกับนายธนกรที่ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า โดยให้นายธนกร ติดต่อญาติให้นำเงิน จำนวน 1 ล้านบาท หรือให้เอายาบ้า จำนวน 100 มัด หรือประมาณ 2 แสนเม็ด หรือจะเอาไอซ์ จำนวน 8 กิโลกรัม มาแลกตัว
และยังตรวจสอบแอปพลิเคชันไลน์ในคอมพิวเตอร์ ก็ได้พบหลักฐานสำคัญ คือ แชตสนทนาเจรจาต่อรองของจ่าเอกไพรัชกับผู้ต้องหา ซึ่งส่งหมายบัญชีให้แชตดังกล่าว และมีหมายเลขโทรศัพท์จ่าเอกไพรัชในวันเกิดเหตุด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ทำการนัดหมายกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อแลกตัวนายธนกร จึงเชื่อว่า ผู้ต้องหาไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยกัน เพื่อสร้างพยานหลักฐานใส่ร้ายชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง ทำให้เชื่อว่า เจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดียาเสพติดจริง จึงยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงพื้นที่แถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าว
ยังมีรายงานข่าวอีกว่า จ่าเอก ไพรัช จะเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ตอนเวลา 10.00 น. แต่ปรากฏว่ามีการปล่อยข่าวออกหมายจับก่อน ทำให้ขณะนี้จ่าเอกไพรัชกับพวก ยังเก็บตัวอยู่ในพื้นที่ และยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35