หนุ่มโอนเงินผิด 3.7 หมื่น ตร.แนะคนเอามาคืน “ฝากผมไว้ เดี๋ยวคืนให้” สุดท้ายตีเนียนไม่คืน

หนุ่มโอนเงินผิด 3.7 หมื่น กดเบอร์พร้อมเพย์ผิดไปหนึ่งตัว ฝ่ายที่รับเงิน หวั่นเป็นมิจฉาชีพ จึงเดินทางแจ้งความกับ ตร. ฟาก ตร . อาสา รับเงินไว้ อ้างจะตรวจสอบ เสร็จแล้วจะดำเนินการคืนเจ้าของให้ ผ่านไป 2 สัปดาห์ ยังไม่ได้เงินคืน !

 

 

             วันที่ 26 ต.ค. 65 ชุติพนธ์ บุญแพ (ตี๋) เจ้าของเงิน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ตนเอารถมอเตอร์ไซค์ไปขาย จำนวนเงิน 3.7 หมื่นบาท คนที่ซื้อเขาเลยขอเลขบัญชีพร้อมเพย์ของตน แต่ทว่าเขาดันกดผิดเลขไปตัวหนึ่ง แล้วไม่ได้ดูชื่อว่าถูกต้องหรือไม่ ตนเลยกดโทรไปยังเบอร์ที่เขาโอนเงินไปผิด เวลาประมาณ 23.00 น. ขอให้เขาโอนเงินคืนมาให้ตน ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ใช่มิจฉาชีพ หรือขบวนการฟอกเงิน ตนขายมอเตอร์ไซค์ 2 คัน 3.7 หมื่นบาท เพื่อนำเงินไปโปะรถกระบะ ที่ติดไฟแนนซ์อยู่ 

 

 

             ด้าน ชูศักดิ์ แซ่จึง (ปุ๊ก) สามีของผู้ที่รับเงินโอนผิดบัญชี เผยว่า วันที่ 14 ต.ค. มีสายจากนายตี๋โทรเข้ามาหาตนตอนประมาณ 23.00 น. โดยบอกให้ตนโอนเงินคืนให้เขาหน่อย เขาโอนเงินผิด จากนั้นเขาก็บอก ให้ตนโอนเงินไปอีกบัญชีหนึ่ง ตนเลยเกิดความสงสัยว่าทำไมไม่ให้โอนไปที่บัญชีเดิมที่โอนมา ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลว่ามีการซื้อขายรถกัน แล้วเจ้าของเงินต้องโอนเงินให้เขาเป็นค่ารถ จึงให้โอนเงินเข้าบัญชีเขา อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้ปักใจเชื่อ เพราะมันจะเป็นการโอนเงินไปสู่มือที่ 3 โดยผ่านตน ก็กลัวจะเป็นขบวนการฟอกเงิน ตนเลยตัดสินใจโทรหาตำรวจ ทางตำรวจก็แนะนำว่าให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน

 

             จากนั้นก็เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยบอกตัวของนายตี๋ ให้ไปลงบันทึกประจำวัน ในพื้นที่ของเขาด้วยเช่นกัน ตนกับนายตี๋ ก็ตกลงกันว่าจะให้ตำรวจทั้งสองฝั่งคุยกันด้วย เพื่อที่ตัวเขาจะได้เงินคืนไวขึ้น จากนั้น เจอกับ นายตำรวจยศ พ.ต.ต. ท่านหนึ่ง ได้สอบถามนายตี๋ ว่าพักอยู่ที่ไหน ซึ่งนายตี๋อยู่ จ.สุพรรณ นายตำรวจคนดังกล่าว เลยเสนอว่า ให้โอนเงินมาให้ตนก่อน เขาจะเอาตรวจสอบว่าเงินมันผิดกฎหมายไหม แล้วจะนำเงินไปคืนให้ด้วยตัวเอง วันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. ที่ จ.สุพรรณบุรี เพราะตัวเขาก็เป็นคน จ.สุพรรณบุรี ตนเลยตัดสินใจโอนเงินให้นายตำรวจท่านนี้ เป็นคนดำเนินการ 

 

 

             นายตี๋  กล่าวเพิ่มว่า วันที่ 16 ต.ค. ตนรอนายตำรวจท่านนี้จนถึง 14.00 น. เลยโทรหาเขา เขาบอกว่าไม่ว่าง อ้างว่าพาลูกสาวไปฉีดวัคซีน ขอเลื่อนไปวันที่ 17 ต.ค. เขาก็ไม่ว่างอีก อ้างว่าติดประชุม วันที่ 18 ต.ค. ก็อ้างอีกว่าไม่สะดวก ทำธุระอยู่ เดี๋ยวเขาโทรกลับ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้โทรกลับ อย่างไรก็ตามตนโทรหาเขาเยอะมาก กว่าเขาจะรับคือนานมาก สุดท้ายตกลงกันวันที่ 20 ต.ค. เขาจะเอาเงินมาให้ แต่ก็ไม่หนีจากเดิม เงียบหายไป ใช้ทั้งเบอร์ตนเอง เบอร์แปลก เขาก็ไม่รับสาย จนตนต้องไปร้องเรียนกับสื่อ พอเป็นข่าว เขาถึงติดต่อกลับมา เมื่อวาน(25 ต.ค.) บอกว่าจะให้นายปุ๊ก กับนางเบียร์ มารับเงินคืน และโอนคืนตน ขณะเดียวกันตนได้ปรึกษาทนาย เขาก็บอกให้ดำเนินคดีกับฝ่ายที่โอนเงินไปผิด 

 

 

             ขณะเดียวกัน นายปุ๊ก กล่าวต่อว่า เมื่อวาน (25 ต.ค.) นายตำรวจท่านนี้โทรให้ตนเข้าไปรับเงินจริง แต่ตนไม่ได้ออกไปเอา เพราะตนก็กลัวจะไม่ปลอดภัย อยู่ตั้งนานไม่ให้ จะมาให้ตอนนี้ตนมองว่าแปลก ๆ  อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าไปทวงเงินกับนายตำรวจ ให้นายตี๋ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ให้ อย่างไรก็ตาม ที่ตนโอนเงินให้ตำรวจไป เนื่องจากเขาเป็นตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน มีความน่าเชื่อถือ 

 

             ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า พอตนได้ทราบเรื่อง ตนได้ประสานไปยัง ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ท่านก็ได้ให้ความร่วมมือ ท่านจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ถ้าผิดจริงจะดำเนินการตามวินัยไป ส่วนเรื่องเงินวันนี้ ตนจะพาผู้เสียหายทั้งหมดไปที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถ้าไม่ได้เงินคืน จะดำเนินคดีกับนายตำรวจยศ พ.ต.ต. คนดังกล่าว  

 

 

             ฟาก พ.ต.อ.อภิชาติ  ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เผยว่า เบื้องต้นได้สอบถามไปยัง นายตำรวจยศ พ.ต.ต. ว่าเขาติดขัดอะไร เขาก็อ้างว่า เขาติดธุระ ติดเข้าเวร ยังไม่ได้สะดวกเอาเงินไปคืน แต่ทว่าเขายินดีจะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย ส่วนในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ว่ามันเข้าข่ายเจตนาไม่ดีหรือไม่ เราได้แต่งตั้งคณะกรรมการมาสืบหาความจริงแล้ว ถ้าเจตนาของเขาไม่โปร่งใส จะจัดการทำโทษตามวินัย ส่วนเงิน 3.7 หมื่นบาท ตนให้เขาเอาเงินมามอบให้ตนแล้ว แล้วตนจะเป็นคนกลางคืนให้