สาวดาวติ๊กต็อก สุดซวย ! ถูกเด็กหลอกซ้ำซ้อน ทั้งบ้าน-ทนาย-การตลาดทิพย์ สูญเงิน 1.6 ล้าน : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

สาวดาวติ๊กต็อก "เฟิร์สท สครับบลู" ถูกเด็กอายุ 16 หลอกโอนค่ามัดจำบ้าน พร้อมปลอมเป็นทนายทิพย์ แค่นั้นไม่พอ ซวยซ้ำซ้อน เด็กอายุ 19 หลอกเป็นการตลาดทิพย์อีก สูญเงินไปกว่า 1.6 ล้านบาท !    

 

 

            วันที่ 25 ต.ค. 65 วนัชพร คำเจริญ (เฟิร์สท) ผู้เสียหาย เล่าว่า รายแรกที่หลอกตน คือเด็กอายุ 16 โดยตอนแรกอ้างว่าอายุ 24 ติดต่อกันหลังจากตนโพสต์ในไอจี หาที่พักใหม่ ที่ภูเก็ต เขาก็ติดต่อเข้ามาอ้างว่าเป็นนายหน้า สามารถหาบ้านให้ได้ จากนั้นเขาก็คุยกับตนมาตลอด จนตนเริ่มสนใจ จึงได้โอนค่ามัดจำบ้านไป 10,440 บาท กระทั่งได้ปรึกษาเขาเรื่องหาทนาย เพื่อมาฟ้องคนที่คอมเมนต์ด่าตนในติ๊กต็อก เขาก็ได้แนะนำให้ตน ดำเนินการให้ ตนโอนค่าทนายให้เขาอย่างเดียว จนสุดท้าย ถึงช่วงที่นัดเพื่อจะไปดูบ้าน ปรากฏว่า เขาอ้างว่าเจ้าของบ้านไม่ให้ตนอยู่ ตนจึงขอเงินคืน ผ่านไป 1 เดือน เขาก็บล็อกหนีตนไปเลย รวมทั้งสิ้น ตนเสียหายไปประมาณ 500,000 บาท ขณะเดียวกัน ที่ตนเชื่อใจเขา เนื่องจากลักษณะการพูดของเขาค่อนข้างมีน้ำหนัก แถมยังโกหกว่าอายุ 24 ตนเลยคิดว่าเขาโตกว่า 

 

 

            อีกเคสที่โกงตน คือเด็กอายุ 19 คนนี้ก็หลอกว่าอายุ 26 ปี โดยเหตุการณ์ตอนนั้น ตนโพสต์หาทีมการตลาด เข้ามาดูแลแบรนด์ที่ตนทำอยู่ เพื่อยอดขายจะได้ดีขึ้น จากนั้นมีคนแนะนำ เด็กอายุ 19 คนดังกล่าว ซึ่งพอตนเข้าไปดูโปรไฟล์ก็ค่อนข้างโอเค มีตัวตนอยู่จริง แถมยังอ้างว่าทำงานกับบริษัทดัง หลังจากคุยรายละเอียดกัน จึงตกลงโอนค่ามัดจำการตลาดไป 150,000 บาท ถัดไปอีก 2 วัน เขามาหาตนที่ จ.ลพบุรี เพื่อทำสัญญา จ่ายเงินไปอีก 270,000 บาท และมีค่ายิงแอดโฆษณาอีก 400,000 บาท นอกจากนี้เขายังชวนเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเพิ่ม ตนก็ตัดสินใจเรียน ทั้งนี้ที่ตนเชื่อเขา เนื่องจากเขาดูมีความรู้ด้านนี้จริง ๆ  ต่อมา ตนได้ถามเขาเรื่องหาทนาย เพื่อจะมาฟ้องเด็กอายุ 16 ที่โกงตนไปตอนแรก เขาก็จัดหามาให้โดยโอนเงินค่าทำคดีให้เขา 120,000 ซึ่งพอโอนเงินไป เขาก็ส่งทะเบียนราษฎร์ของเด็กคนนั้นให้ตนเลย ตนจึงเกิดความเชื่อใจ จากนั้นเขาก็ขอเงินค่าทนายอยู่เรื่อย ๆ 

 

            มาโป๊ะแตก ตอนที่เพื่อนของตน มาดูบัญชีให้ ซึ่งเห็นว่าเลขใบภาษีของเขามันแปลก ๆ เขาทำบริษัทดัง แต่เลขใบภาษีกลับลงท้ายด้วย 001 ส่วนทนายขอดูตั๋ว เขาก็ปิดชื่อ และเลขประจำตัว 3 ตัวท้าย พอเห็นแบบนี้จึงนัดตัวเด็ก 19 ออกมาคุย โดยไม่ให้เขารู้ตัวว่าตนจับโป๊ะได้ พอคุยกัน เขากลับบอกว่า "ถ้าไม่สบายใจจะทำการตลาดด้วยกัน คืนเงินได้นะ" เค้นไปเค้นมา ถึงยอมสารภาพว่าหลอกทั้งหมด รวม ๆ แล้วกับเคสแรก ตนเสียเงินไป 1,600,000 บาท จึงให้แม่สิตางศุ์ช่วย 

 

 

            ด้าน สิตางศุ์ บัวทอง เผยว่า ทีแรกตนฟังเรื่องนี้ ยังไม่อยากเชื่อ ว่าถูกหลอกไปเยอะขนาดนั้น แต่พอเห็นเอกสารต่าง ๆ ก็พอเข้าใจ ถ้าเป็นตนก็คงหลงโอนเงินไป แต่ทว่าจริง ๆ แล้วเฟิร์สทโดนโกงไป เกือบ 3 ล้าน แต่จากหลักฐาน มันได้แค่นี้ ที่สำคัญเลยคือ แม่ของผู้ก่อเหตุท้าให้ไปฟ้องร้อง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เนื่องจากลูกเขายังเป็นเยาวชน พอตีเข้ากฎหมายเยาวชนแล้วมันเบามาก อยากให้ช่องข่าวช่วยขยี้เรื่องนี้ เพื่อเป็นความรู้ให้คนต่าง ๆ ดู เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ

 

 

            ขณะที่ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า เคสนี้ตัวผู้เสียหาย เขาเป็นคนซื่อ เขาคิดว่าโลกออนไลน์ไม่น่ากลัว คิดดีกับทุกคน แล้วคิดว่าทุกคนจะคิดดีเหมือนกัน ล่าสุดได้พาผู้เสียหายไปร้องเรียนกับกองปราบฯ ซึ่งส่วนใหญ่ ถ้าตนไปร้องเรียนกับกองปราบฯให้ ก็จะสำเร็จเกือบหมด จะได้เงินคืน ส่วนข้อหา จะเป็นข้อหาฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้บริษัทที่เขาใช้แอบอ้าง กรมสรรพากร สภาทนายความ พวกนี้ก็เป็นผู้เสียหายด้วย สัปดาห์หน้าตนก็จะไปสภาทนายความ หารือว่าจะออกมาตรการอย่างไร เนื่องจากมีทนายปลอม ทนายเก๊ ทนายทิพย์ เยอะขึ้นมาก