พ่อค้าส้มตำร้อง นอนอยู่บ้าน แต่ตกเป็นแพะคดีลักทรัพย์ เจ้าทุกข์ยัน ถูกตร.บังคับชี้ตัว

พ่อค้าส้มตำร้อง ตกเป็นแพะคดีลักทรัพย์ ถูกจับนอนคุก สุดงง วันที่เกิดเหตุนอนรักษาตัวอยู่ รพ. กลับกลายเป็นจำเลยสังคม เจ้าของบ้านที่ถูกขโมย เผย ตร. บังคับให้ชี้ตัว เร่งให้เซ็น ลั่น "หิวข้าวแล้ว" 

 

 

            วันที่ 24 ต.ค. 65 เกรียงไกร โภคทวี (แดง) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 65 ตนกำลังขายส้มตำอยู่ที่ ตลาดกรุงนนท์ ตำรวจเข้ามาหาตน แล้วนำหมายจับบอกว่าตนเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ตอนนั้นตนก็ช็อก เพราะตนไม่ได้ไปลักทรัพย์ใคร ตอบปฏิเสธไป แต่ตำรวจก็ให้ตนเซ็น และไปคุยกันที่ สน. พอไปถึง ตนขอดูรูปของผู้ที่ถูกแจ้งจับ ตนก็บอกว่าตนไม่รู้จัก ไม่ใช่ตน ชื่อก็ไม่ตรงกับตน อายุก็ไม่ตรง ตนปฏิเสธทั้งหมด แต่ก็ถูกจับเข้าห้องขัง 

 

            ด้าน เอ (นามสมมติ) ญาติของผู้เสียหาย เล่าว่า พอตนรู้ว่า แดง ถูกจับเข้าห้องขังก็ได้สอบถามว่าโดนจับเรื่องอะไร จึงทราบว่า ถูกแจ้งจับเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ แต่พอปฏิเสธ ตำรวจบอกให้รีบหาเงินมาประกันตัวด่วน เขาไม่อยากจับผิดตัว สุดท้ายต้องจ่ายเงินประกัน 2.6 หมื่นบาท 

 

 

            ส่วนผลกระทบจากเรื่องนี้ แดงเครียดมากจากเรื่องนี้ จนต้องเข้าโรงพยาบาล ต้องไปนอนคุกโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นอะไรที่รับไม่ได้ ของก็ไม่ได้ขายปิดร้าน 4 เดือน ขาดรายได้กว่า 3 แสนบาท ลูกเขาก็โดนเพื่อนล้อว่าพ่อเป็นขโมย 

 

            ทั้งนี้ คุณแดง เล่าเพิ่มว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 63 ตนเกิดอุบัติเหตุรถชน อาการหนัก ใส่เฝือกที่คอ ไม่สามารถขยับคอได้ เอ็นนิ้วกลางฉีก ตอนนั้นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านนาน จนเดือน ก.ค. ก็ยังไม่หายดี หมอยังนัดอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ได้คุยกับตัวผู้แจ้งความ ยืนยันว่าจะรอความชัดเจนก่อนดำเนินการแจ้งความกลับ 

 

 

            ขณะที่ แองเจิ้ล (นามสมมติ) เจ้าของบ้านที่ถูกขโมยทรัพย์สิน เผยว่า วันที่ 27 มิ.ย. 63 ตนถูกขโมยขึ้นบ้าน วันถัดไปเลยเข้าไปแจ้งความ โดยขโมยที่ขึ้นบ้าน ชื่อ หนึ่ง กับ ต๊ะ เป็นช่างที่เข้ามาซ่อมบ้านตอนนั้น จากนั้นพอไปแจ้งความตำรวจก็นำรูปมาเพื่อให้ยืนยัน ซึ่งตนก็ยืนยันรูปของ หนึ่ง แต่ของต๊ะ ตนยืนยันว่าในรูปไม่ใช่ต๊ะ ที่เป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนของที่ถูกขโมยนั้น เป็นพระเครื่อง 7 รายการ แต่ 5 รายการ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นของพี่น้องที่บ้านหรือไม่ ทางตำรวจจึงบอกว่า ให้ยกเป็นของตนให้หมด แล้วเขาจะตีราคาให้เอง โดยตีราคาองค์ละหมื่น รวมเป็น 5 หมื่น จากนั้นเขาก็ให้ตนเซ็นใบบันทึกคดี โดยเขาบอกให้ตนรีบเซ็น ไม่ต้องอ่านมาก เขาหิวข้าวแล้ว ซึ่งตนก็คิดว่าเขาเขียนในนั้นว่าไม่ยืนยันรูปของนายต๊ะ ตนจึงเซ็นไป ตนไม่ได้มีเจตนาอยากแจ้งความจับคุณแดง หากจะเรียกร้องค่าเสียหาย  ต้องไปเรียกร้องกับนายตำรวจผู้ทำคดี 

 

 

            ทั้งนี้ ในระหว่าง 2 ปี ไม่ได้มีความคืบหน้าใด ๆ ยังไม่สามารถจับโจรได้ รวมทั้งพระก็ยังไม่ได้คืน นอกจากนี้ตนได้ไปถามพี่ชายเรื่องพระ พี่ชายก็บอกว่าเป็นของสามีเก่าตน ตนจึงโทรให้ตำรวจที่รับคดีนี้ต่อ เปลี่ยนมูลค่าพระเป็นองค์ละ 2 แสน มูลค่ารวม 1 ล้านบาท 

 

 

            ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า เคสนี้ คุณแองเจิ้ล เข้ามาร้องเรียนกับตนก่อน บอกว่า กำลังจะถูกฝ่ายคุณแดงฟ้องกลับ ทั้งที่ตอนชี้ตัว หรือตอนให้ปากคำเขาให้การปฏิเสธว่าคนในรูปไม่ใช่นายต๊ะ ผ่านไปสัก 1 สัปดาห์ ฝ่ายคุณแดงก็เข้ามาร้องเรียนเช่นกัน ว่าตกเป็นแพะ แต่ที่หนักที่สุด คือลูกสาวของคุณแดงถูกเพื่อน ๆ ล้อว่าพ่อเป็นขโมย อีกทั้งตัวคุณแดงยังถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นขโมย ต่อไปเขาจะขายของได้อย่างไร สำหรับการช่วยเหลือ ตนจะช่วยทั้ง 2 เคส พรุ่งนี้ (24 ต.ค.) จะพาไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มด้วย 

 

 

            ฟาก พ.ต.อ.พิชิต กอปรกิจงาม ผกก.สน.บางขุนนนท์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าคุณแดง เป็นแพะหรือไม่ ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามสำนวนก่อน เนื่องจากตอนที่เกิดเหตุ ตนยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่ง แต่น้อมรับฟังทุกอย่าง ซึ่งคุณแดงมีหลักฐานยืนยันว่าตอนที่เกิดเหตุ เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนจึงต้องมีการสรุปสำนวนส่งอัยการว่าไม่ฟ้อง จากนั้นจะมีการเร่งเยียวยาโดยเร็วที่สุด ส่วนตัวตำรวจ เจ้าของคดีนี้ ตนได้สอบถามเบื้องต้นไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่แน่ชัด ตนจึงได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนเร่งรัดคดีนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมโดยเร็วที่สุด สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนแน่นอน