เหยื่อร้อง หลังถูกหนุ่มบิกไบก์ ขับชนเบา ๆ สุดท้ายเรียกค่าเสียหายหลักล้าน ข้องใจว่าจะถูกจัดฉาก ด้านบริษัทประกัน กับ ตร. เผยมิจฉาชีพก่อเหตุแบบนี้มีไม่ต่ำกว่า 100 เคส !
วันที่ 20 ต.ค. 65 สมบัติ เซี่ยงเห็น (อ้น) กับ นราทิพย์ พานวิจิตรกุล (เบลล์) เจ้าของรถยนต์ที่ถูกชน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 9 มิ.ย. 65 วันนั้นตนกับภรรยา กำลังขับรถเลี้ยวออกจากซอย ตนรอจนมั่นใจว่าจะปลอดภัยจึงเลี้ยวออก แต่กลับได้ยินเสียงอะไรมาสะกิดอยู่ท้ายรถ ซึ่งก็คือมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายตน จึงได้ลงไปคุยกับคู่กรณี เขาบอกว่า เขามัวแต่มองซ้ายมองขวาหาบ้านเพื่อน เลยไม่ทันระวัง พอตนไปดูท้ายรถที่ถูกชนกลับเป็นรอยแค่นิดหน่อย ฝั่งเขาก็แทบไม่มีรอย ตนไม่ได้ซีเรียส เลยให้ต่างคนต่างไป อีกฝ่ายก็บอกว่าจะเรียกประกันมาเคลมเหมือนกัน ต่อมาฝ่ายมอเตอร์ไซค์มาบอกตนว่า ทนายของเขาให้ตนชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมอ้างว่า ยังไงรถใหญ่ก็ผิด ให้ไปเจรจากันที่ สน. แต่ที่ สน. ตำรวจกลับบอกว่าตนก็ผิดเนื่องด้วยตนเลี้ยวออกมาจากซอย แล้วยังไม่พ้นระยะตามกฎหมาย จึงเซ็นรับข้อกล่าวหา ไม่ได้คิดอะไร อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นยังไม่ได้หากล้องวงจรปิดให้ตำรวจดู
ทั้งนี้ ฝ่ายคู่กรณีเรียกค่าซ่อมไปทั้งหมด 6.3 แสน ประกันเขาเลยยังไม่ออกใบเคลมให้ เขาคงมองว่าเรียกค่าเสียหายเกินจริง ไม่สมเหตุสมผล ทนายของเขาเลยจะยื่นฟ้องตน กับบริษัทประกัน ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 1.1 ล้าน ซึ่งตนก็มองว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเขามันไม่ได้เสียหายขนาดนั้น แต่เขาอ้างว่ารถของเขาไม่สามารถใช้การได้ 80 วัน เขาเสียค่าขาดประโยชน์ไปวันละ 5 พัน อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ยินมาว่าช่วงระหว่างที่เขาอ้างว่ารถไม่สามารถใช้ได้ เขาได้นำไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน สุดท้ายประกันของตนก็ชดใช้ให้เพียงแค่ 5 พัน เขาบอกว่าอยากได้เพิ่มก็ไปฟ้องเอาเลย
สำหรับเรื่องที่น่าสงสัย คือตอนที่เกิดเหตุเขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใด ๆ ยังเข็นรถเข้าข้างทางได้ปกติ แถมยังขับรถไป สน. เองได้ด้วย แต่พอตอนที่อยู่ สน. เขากลับเดินกะเพลกเหมือนคนกระดูกแตก สุดท้ายเขาก็ขี่รถไปโรงพยาบาลเองด้วย ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่แถวซอยลาซาล แต่เขายืนยันจะไปโรงพยาบาลแถวรามอินทรา
ด้าน บี นามสมมติ คนขับรถบิกไบก์ เผยว่า ตนเจ็บหนักจริง ๆ โดยบาดเจ็บบริเวณเอ็นข้อเท้า และหน้าอก เพราะถูกรถบิกไบก์ล้มทับ ส่วนตอนไป สน. ตนขี่บิกไบก์ไปจริง แต่ตอนไปโรงพยาบาลตนไม่ได้ขี่บิกไบก์ไป ซึ่งตอนแรกที่สามารถเข็นรถเข้าข้างทางได้ เพราะตอนนั้นยังไม่รู้สึกเจ็บ ขณะที่การรักษา ตนมีหลักฐานยืนยันหมด ทั้ง ใบรับรองแพทย์ ใบชันสูตรของพนักงานสอบสวน ภาพถ่ายการรักษาตัว ส่วนความเสียหายของรถยืนยันว่าไม่ได้ล้มแปะ รถน้ำหนักเยอะ พอล้มแล้วความเสียหายเลยเยอะ มีพวกของแต่งด้วยที่เสียหาย
ทั้งนี้ตนได้ส่งจดหมายร้องถึงบริษัทประกันภัย ว่าให้นำรถบิกไบก์ไปจัดซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิม 3 ครั้ง แต่บริษัทประกันภัยก็ไม่เอารถไปจัดซ่อม ถามเหตุผลเขาก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่ายินยอมชดใช้ 5 พันบาท ซึ่งตนก็ไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ ยืนยันว่าจะฟ้องร้อง ซึ่งถ้าเขาคิดว่าตนจัดฉาก ทำผิดกฎหมาย ก็แจ้งความได้เลย ตนพร้อมไปพิสูจน์ในชั้นศาล สุดท้ายยืนยันว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้จัดฉาก
ฟาก สุวัฒน์ ระดมสุทธิกุล รองประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จริง ๆ แล้วเคสนี้อาจจะเป็นประมาททั้งสองฝั่งได้ มันเป็นทางร่วมทางแยก ฝั่งมอเตอร์ไซค์ต้องระมัดระวังชลอความเร็วด้วย แต่รถใหญ่อาจจะเสียเปรียบมากกว่า เพราะออกมาจากซอย นอกจากเคสนี้ ยังมีอีกหลายเคสที่มาร้องเรียนพฤติกรรมลักษณะนี้ ซึ่งตอนนี้บริษัทประกันที่มีหลักฐาน เขาก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับคุณบีแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันหลายครั้ง จึงมีข้อน่าสงสัย
ขณะที่ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายความ ให้ความเห็นว่า ตัวของคุณบี ถ้ามั่นใจในสิ่งที่ได้รับความเสียหาย ก็ต้องใช้สิทธิทางศาล แต่ถ้าศาลพิจารณาว่าไม่ได้เป็นการฟ้องด้วยความสุจริต อีกฝั่งก็มีสิทธิฟ้องกลับได้ ขณะเดียวกันฝั่งของคุณเบลล์ กับคุณอ้น แม้ว่าจะให้การรับสารภาพไปแล้ว เราก็สามารถให้การใหม่ได้ เพราะเรามาดูพยานหลักฐานใหม่ คือกล้องวงจรปิด จึงแนะนำให้ไปให้การใหม่ เพื่อรอการพิสูจน์ใหม่
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35