จับเคลียร์ปม หนุ่มวิน จยย. หลังถูกกลุ่มวุยรุ่น ใช้นกต่อเรียกออกมารุมทำร้ายอาการสาหัส ต้องแกล้งตายเอาตัวรอด ส่อแววคดีพลิก หลังชาวบ้านแฉวีรกรรมเพียบ !
วันที่ 18 ต.ค. 65 ฉัตรชัย อังคษร วินมอเตอร์ไซค์ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนถูกทำร้ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ต.ค. วันนั้นตนนั่งอยู่เฉย ๆ กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาถามทาง แต่ยังไม่ทันตอบ ก็ถูกทำร้าย แล้วเขาก็อ้างว่าตนไปมองหน้าเขา รอบที่สอง เมื่อวันที่ 13 ต.ค. มีผู้โดยสารเรียกตนให้ไปส่งที่ ซอยตากสิน24 พอไปถึงที่หมาย ก็มีกลุุ่มวัยรุ่นใส่หมวกกันน็อกยืนรออยู่ และเข้ามาทำร้ายจนเลือดอาบหน้า ตนเห็นว่าทั้งสองกลุ่มที่ทำร้ายตนใส่หมวกกันน็อกเหมือนกัน เลยคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนอาการบาดเจ็บ ตนแขนซ้ายหักผิดรูป และหัวแตก พร้อมทั้งฟกช้ำทั่วตัว ทั้งนี้ตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร คนละแวกนั้นตนก็รู้จักหมด อยู่แถวนั้นมาตั้งแต่เกิด
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า ตนได้สอบถามนายฉัตรฉัยว่ามูลเหตุที่ถูกทำร้ายมาจากอะไร เขาก็บอกว่าไม่มี แต่ตนก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ จึงประสานไปหาผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ท่านผู้การฯ บอกว่า มันเคยมีการไปทุบรถ ขับรถไล่กันมาก่อน มันเลยอาจจะเป็นที่มาที่ไปของการก่อเหตุในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้คุณพ่อของ นายฉัตรฉัย ได้บอกอีกว่ามันมีการไปทุบรถเขาจริง สาเหตุน่าจะเกิดจากเรื่องการแฮกโทรศัพท์ แฮกอีเมลล์กัน
ขณะที่ อาร์ม (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ มูลเหตุที่ก่อเรื่องมาจาก เรื่องที่นายฉัตรชัย ไปฟันรถมอเตอร์ไซค์ เอาหินไปทุบรถ ที่สำคัญไปขับรถไล่ชนน้องสาวที่ท้องอยู่ ตนได้ยินวีรกรรมเขามาตลอด ซึ่งวันที่ 13 ต.ค. จึงออกไปรอดัก และให้เพื่อนไปเรียกรถนายฉัตรชัย ออกมาที่ที่คนพลุกพล่านน้อย จากนั้นก็ลงมือก่อเหตุ แต่ไม่ได้ใช้อาวุธ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับผิด พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
ฟาก กิ๊ฟ ญาติผู้ก่อเหตุ เผยว่า สาวท้องที่ถูกไล่ชนเป็นลูกของตน ตนไม่คิดว่าลูกจะไปกวักมือเรียกให้เขามาขับรถไล่ เพราะเด็กมันก็กลัว เรื่องราวมันเกิดจากที่เขามากล่าวหาว่า ครอบครัวตนไปเอาเงินของเขา 2.2 พันล้าน ด้วยการดูดเงินจากเฟซบุ๊ก คนในซอยโดนกันหลายคน บางคนเคยโดนเอามีดไปไล่ฟันด้วย
ทั้งนี้ ตนไม่ได้แจ้งความเรื่องที่เขาขับรถไล่ชนลูกสาว กับที่มาทุบรถเบนซ์ เพราะครอบครัวของนายฉัตรชัยมีบุญคุณกับตน ปู่เขาให้เงินเดือนตน ตอนช่วงโควิด รวมทั้งให้เงินซื้อสร้อยคอทองคำด้วย จริง ๆ ก็คุ้นเคยกันดีกับนายฉัตรชัย แต่ไม่รู้ว่าทำไม 3 เดือนหลัง เขาแปลกไป อย่างไรก็ตามอยากให้เขาเลิกยุ่งกับครอบครัวตน
คุณฉัตรฉัย กล่าวเพิ่มเติม ขณะที่ข้อมูลต่าง ๆ ที่ออกมาแฉตนนั้นไม่เป็นความจริง กรณีข้อมูลที่ตนขับรถไล่ชนสาวท้องนั้น ตนแค่ขับไล่ตาม เนื่องจากเขามาเบิ้ลรถใส่ และกวักมือเรียกตน ตนจึงขับตาม ไม่นานก็ขับกลับบ้าน ตนไม่ได้ไปทำอะไรเขา ส่วนเรื่องที่เอาหินไปทุบรถเบนซ์ เป็นเรื่องจริง ทำไปเพราะบันดาลโทสะ แต่ก็ได้มีการเคลียร์ค่าเสียหายไปแล้ว เรื่องที่ไปฟันรถ ก็เคลียร์ไปแล้วเช่นกัน ขณะที่เรื่องเงิน 2.2 พันล้าน ตนก็ไม่เคยไปพูด อย่างไรก็ตาม ยินที่จะคุยไกล่เกลี่ย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35