เป็นหนี้ ! มีโครงการรัฐฯ ช่วยเหลือไหม ? - 3 ทริก เพื่อมนุษย์เงินเดือน สู่ความมั่งคั่งในวันหน้า

606 ครั้ง

13 ต.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

การเป็นหนี้ ไม่มีใครชอบ ถ้าเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ต่าง ๆ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วย “ทางด่วนแก้หนี้”

เงินทองของจริง : เป็นหนี้ ! มีโครงการรัฐฯ ช่วยเห

สำหรับคนที่ผ่อนชำระหนี้ไม่ไหว สิ่งที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปกู้เพื่อผ่อน แต่ควรหันหน้ามาคุยกับเจ้าหนี้ เพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้

ปัจจุบัน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีช่องทางให้ เรียกว่า ‘ทางด่วนแก้หนี้’ สามารถเข้าไปใน Google แล้วพิมพ์คำว่า ทางด่วนแก้หนี้ ได้ ดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

1. กรอกชื่อ

2. เป็นหนี้สถาบันการเงินอะไร

3. เป็นหนี้ประเภทไหน

4. มีสินเชื่อที่ผ่อนไม่ไหว อยากจะขออะไรกับธนาคาร ขอพักชำระ ขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย ขอยืดสั้นเป็นยาว ขอสินเชื่อใหม่ ขอปรับโครงสร้าง และ อื่น ๆ

ในกรณีที่ไม่ผ่อนมาแล้ว 3 เดือน ก็จะต้องเป็น ‘คลีนิกแก้หนี้’ ทำเหมือนกันกับ ทางด่วนแก้หนี้ แต่จะต้องไม่เกิน 2 ล้านบาท

ข้อดี

1. เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการผ่อน ให้ผ่อนน้อยลง

2. ทำให้มีแผนการชำระคืนที่แน่นอน

สำหรับคนที่เป็นหนี้ สิ่งสำคัญที่สุด อยากให้มีความรับผิดชอบกับหนี้ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ไม่ควรทำคือการกู้เงินมาแก้ปัญหา ถ้ายังไม่ถึงขั้นหนัก ก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วย ‘ทางด่วนแก้หนี้’ และ 'คลีนิกแก้หนี้'

ในช่วงนี้ที่ข้าวของกำลังแพง เงินหายาก คนทำงานมีเงินเดือนถือว่ามีความโชคดีที่มีรายได้ประจำ ทำให้วางแผนและคาดการณ์รายรับได้แน่นอน แต่ถ้ามนุษย์เงินเดือนอยากมีความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ ควรจะต้องรู้จักวางแผนออมเงินไว้ตั้งแต่วันนี้ด้วย 3 เคล็ดลับ ดี ๆ

1.ศึกษาข้อมูล และใช้สิทธิ์สวัสดิการการออมของที่ทำงาน

หากที่ทำงานมีกองทุนเพื่อการออมต่างๆ เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และสหกรณ์ออมทรัพย์ ก็ถือเป็นแหล่งเงินออมชั้นดีที่เราจะสามารถสมัครเพื่อสะสมเงินลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน จะทำให้คนทำงานอย่างเราสามารถ “ออมก่อนใช้” ได้ง่าย เพราะจะถูกหักเงินออมจากเงินเดือนทำให้เราไม่ได้เห็นหรือนำเงินจำนวนนั้น มาใช้ ถือเป็นวิธีการออมที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง

2.อย่าลืมใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ใครมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีแบบไหนทำได้ควรเช็กด้วย ถ้าเรามีการวางแผนภาษีด้านการออมและลงทุนเพิ่มเติมในทางอื่น เช่น การทำประกันชีวิต กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ก็จะสามารถนำเงินส่วนทำไว้นั้นมาช่วยประหยัดภาษีได้มากขึ้น แถมยังมีเงินออมเพิ่มเพื่อไปต่อยอดความมั่นคงสะสมต่อในปีถัดๆ ด้วย

3.วางแผนออมและลงทุนเพิ่มเติม