เจ้าของรถสุดจะทน คนอย่างเจ้าของอู่ อ้างดองรถ ชำแหละเละ อะไหล่หาย สุดท้ายเหลือแค่ซาก !

กลุ่มผู้เสียหายเจ้าของรถ โวย หลังเอารถเข้าอู่ แต่รอนานกว่าครึ่งปี บางรายออกมาสภาพรถไม่เหมือนเดิม อะไหล่หาย สับเปลี่ยนอะไหล่ พอคุยกับเจ้าของกลับถูกข่มขู่ ! 

 

 

            วันที่ 12 ต.ค. 65 ศุภรัตน์ ทองวนิช (ออมสิน) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนติดต่ออู่เข้าไปเนื่องจากว่าต้องการเอากันชนหน้าที่ใส่อยู่ที่รถ ไปขายเทิร์นให้เขา เพราะว่ามันเป็นกันชนหน้าของ Mu X ซึ่งมีมูลค่าสูงในตลาดคนเล่นรถ เนื่องด้วยตอนนั้นตนร้อนเงิน โดยจะเอาของใหม่ที่มีมูลค่าน้อยกว่ามาใส่ ซึ่งตกลงกับทางอู่ได้ว่า เขาจะต้องให้เงินตนเพิ่ม 3 หมื่นบาท และตกลงกันว่า 3 วันจะเสร็จ ตนเห็นว่ามันเร็วมาก เลยไม่ได้คิดอะไรแต่พอครบ 3 วันแล้ว ก็ยังไม่เสร็จ ตามเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 65 จนเมื่อไม่กี่วันก่อน (ต.ค. 65) เพิ่งไปเอารถออกมา 

 

 

            ซึ่งสภาพรถ หลังจากไปเอาออกมา คือ ชุดแต่งหน้ารถ ฝากระโปรงหน้า ฝาท้าย ไฟท้ายหายหมด ฝุ่นเลอะเทอะทั่วทั้งคัน มีสนิมขึ้น (หมายเหตุ : ข้อมูลความเสียหายยังไม่ได้ประเมินจากศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการ) ทั้งนี้ตอนไปเอารถออกจากอู่ก็ไม่เจอตัวเจ้าของอู่ ไม่สามารถติดต่อได้เลย เจอแต่แม่เขา โดยแม่เขาบอกว่าไม่รู้เรื่อง

 

 

            ด้าน ตั๊ก เจ้าของอู่รถ เผยว่า เคสนี้ ตกลงกันไว้ที่ 3 วัน หลังจากตนเทิร์นกันชนหน้าตามที่เขาต้องการแล้ว เขาต้องการให้ตนโกงประกันให้ เขาบอกว่าเขาค้างค่างวดไฟแนนซ์อยู่ 5 งวด รถจะถูกยึดมาขอให้ตนช่วย โดยจัดฉากที่จะซ่อม เพื่อเบิกเงินจากประกัน เขาจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และขออะไหล่ใหม่เพิ่มเป็นฝากระโปรงคาร์บอน เอาเงินประกันมาช่วยแทน แต่ตนไม่ได้ทำ  เลยทำให้ช้า 

 

            ขณะที่เรื่องไฟหน้า ไฟท้าย ของลูกค้า ที่เขาบอกว่ามันหายไป จริง ๆ แล้วตนถอดไปเก็บไว้ เนื่องจากอู่ของตน ติดกับทางรถไฟเปลี่ยวตลอดทาง มีแค่รั้วเหล็กกั้นเท่านั้น คนเฝ้าก็มีแค่คนเดียว ซึ่งมีรถจอดเป็น 10 คัน และไฟรถของแต่ละคันก็มีมูลค่า เลยถอดเก็บ ถ้าตนถอดไปขายรถลูกค้าที่ตนทำเสร็จไปสมบูรณ์ตลอด ตนทำรถออกมาเป็น 100 คันแล้ว ไม่เคยมีปัญหา เพิ่งมามีปัญหากับกลุ่มนี้ 

 

            คุณ ออมสิน กล่าวเพิ่มว่า เรื่องการเคลมประกันเขาเป็นคนยื่นข้อเสนอมา เขาบอกว่าไหน ๆ ก็จอด 3 วันแล้ว จะเอาอะไรเพิ่มบ้าง ถามตนว่า จะเอาฝากระโปรงคาร์บอนเพิ่มไหม เอาเบาะเพิ่มไหม เขาเป็นคนถาม ถ้าเขาไม่ยื่นข้อเสนอให้ตน ตนจะขอเพิ่มทำไม ตนไม่เข้าใจว่าที่เขาบอกว่าจัดฉากหมายความว่าอะไร

 

 

            ขณะที่ ดาราธิป ไชยชนะ (ฟิล์ม) ผู้เสียหาย เผยว่า ของตนเอารถไปเข้าซ่อมที่อู่เมื่อเดือน ก.พ. 65 โดยเคลมประกันอะไหล่เป็น กระจกมองข้างทั้งสองข้าง  สเกิร์ตหน้ารถ และกันชนหน้า โดยอู่บอกจะทำให้เสร็จภายใน 1-2 เดือน แต่ก็ยังไม่ได้สักที มีการโทรขอเลื่อนนัด ไกล่เกลี่ยกันก็แล้ว จนไปเอารถออกตอนเดือน ต.ค. 65 กลายเป็นว่า ฝากระโปรงหาย ฝาท้าย ไฟท้ายข้างซ้ายหาย ไฟหน้า 2 ข้างหาย รวมถึงไฟตัดหมอกด้วย (หมายเหตุ : ข้อมูลความเสียหายยังไม่ได้ประเมินจากศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการ) เมื่อวาน (11 ต.ค. 65) เทศบาลพาไปลงพื้นที่ พวกตนก็ไปรื้อที่ห้องเก็บอะไหล่ หาแล้วมันไม่เจอจริง ๆ 

 

            คุณตั๊ก กล่าวเพิ่มว่า ของฟิล์ม มาเคลมไหล่กระจกมองข้างทั้งสองข้าง  สเกิร์ตหน้ารถ และกันชนหน้า ส่วนฝากระโปรงเป็นอะไหล่ที่แต่งเพิ่ม ตนคุยกับตัวน้องชายเขา เขาอยากได้อะไหล่แต่งเพิ่ม ซึ่งกันชนหน้า กับกระโปรงตนทำสีเสร็จแล้ว เหลือแค่ใส่เท่านั้น ส่วนชุดไฟต่าง ๆ ตนถอดเก็บไว้ที่บ้าน เนื่องจากมันมูลค่า และที่อู่มันเปลี่ยว นอกจากนี้ตนยังแถมเบาะซิ่งไปให้ฟรีอีกด้วย แต่พอใส่เสร็จแล้วเขาไม่เอา ส่วนเรื่องที่ตนติดต่อยาก เนื่องจากเมื่อวานตนติดธุระเลยไม่ได้รับสายโทรศัพท์ จริง ๆ แล้วใครโทรมาตนรับหมด  

 

 

            อีกอย่างที่ตนอยากพูดคือเรื่องของโซเชียล ตนเสียหาย ฝั่งเขาโพสต์อยู่ฝ่ายเดียว ข่าวก็ออกฝั่งเขาฝั่งเดียว ฝั่งตนยังไม่ได้พูดเลย ตนขอให้มีพื้นที่ได้พูดบ้าง จนมีบางคอมเมนต์ออกมาต่อว่าตน แต่อยากบอกว่ายังมีลูกค้าเข้ามาให้กำลังใจบอกให้ตนทำรถต่อ มีเพียงกลุ่มนี้ที่มีปัญหา ส่วนเรื่องที่มีปัญหาว่าตนออกมาโวยวายลูกค้า ตนอยากอธิบายว่า เหตุการณ์มันมีมากกว่าในคลิป เนื่องจากวันนั้นตนไม่อยู่อู่ แต่มีวัยรุ่น 10 กว่าคนเข้าไปโวยวายกับแม่ตน ซึ่งก็มีลูก ๆ อยู่ด้วย ตนเลยโวยวายกลับไป 

 

 

            ด้าน ศุภกิตติ์ สายกัญญา (เกมส์) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเอารถเข้าซ่อมเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 65 เนื่องจากกระจังหน้าแตก แต่พอออกมาก็เหมือนเคสอื่น ๆ ที่มีอะไหล่หาย แต่ที่สำคัญคือเลขไมล์ขึ้น 3 พันกิโลเมตร (หมายเหตุ : ข้อมูลความเสียหายยังไม่ได้ประเมินจากศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการ) โดยตนสืบทราบมาว่าเขาเอารถไปให้ลูกน้องใช้ มีทั้งให้ไปรับลูกของเขาด้วย โดยไม่เคยบอกตนมาก่อน อีกทั้งยังเอารถไปให้ลูกค้าคนอื่นสำรองใช้อีก ส่วนเรื่องประกันเขาก็เป็นคนเสนอมาเองเช่นกัน ตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง ใจความว่า เขาอยากไม่ได้อยากได้เงินจากตน แต่อยากได้เงินประกันมากกว่า 

 

 

            ขณะเดียวกัน กฤษฎา อินทรภิรมย์ (เก่ง) ผู้เสียหาย เผยว่า ก่อนเข้าอู่รถตนถูกชนข้างหน้าและข้างหลัง เอาเข้าอู่เพื่อซ่อม ตกลงราคาที่ 7 หมื่นเป็นค่าซ่อม และอีก 1.3 หมื่นเป็นค่าทำสี ตนจ่ายเงินสด แต่ปัจจุบันรถของตนถูกยำเละ มีสายไฟขาดด้วย ตนไม่เข้าใจว่ารถถูกชน แต่ตัดสายไฟที่ไม่เกี่ยวข้องทำไม ทุกวันนี้ก็กลัวรถจะไฟไหม้อยู่ เอาเข้าอู่ตั้งแต่ 3 เม.ย. 65 เพิ่งได้กลับมาไม่กี่วันนี้เอง ปัญหาตอนนี้ คือรถมันไฟตก ไฟดับ ไฟกระพริบ เหมือนวงจรไฟมันรวน (หมายเหตุ : ข้อมูลความเสียหายยังไม่ได้ประเมินจากศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการ) 

 

             นอกจากนี้ ที่ตนโพสต์ว่าเบรก ABS หาย วันนั้นเขาก็มาที่บ้านตน เพื่อนบ้านก็ยังบอกว่าปากทางมีวัยรุ่นเต็มเลย ตนเห็นว่ามีอาวุธด้วย ซึ่งจริง ๆ เรื่องเบรก ABS ตนเข้าใจผิด   

 

 

            ด้าน อิน ลูกน้องเจ้าของอู่ กล่าว่า เผยว่า วันที่เขามาเอารถออก เขามาเร่งให้ตนประกอบให้เสร็จวภายในวันนั้นเลย ตนก็ประกอบให้เท่าที่ทำได้ ซึ่งก็นัดว่าเดี๋ยวให้มาเก็บรายละเอียดอีกทีภายหลัง แต่พอรถออกไปก็มาเกิดเรื่องว่าเขาโพสต์ด่าว่า เบรกABS ของเขาหาย แต่จริง ๆ แล้วรถรุ่นของเขามันไม่มีอยู่แล้ว ตนจึงเข้าไปชี้แจงที่บ้านเขา และได้โทรหาเขาเพื่อขออนุญาตก่อนด้วย 

 

            ทั้งนี้ ผู้เสียหายทุกราย ต้องการให้ทางอู่รับผิดชอบชดใช้อะไหล่ที่หายไปกลับมาให้เหมือนเดิม ประกอบรถให้เสร็จ ซ่อมให้เหมือนเดิม แต่ยืนยันว่าจะขอเปลี่ยนอู่ ส่วนค่าซ่อม ค่าช่างต่าง ๆ ทางตั๊กต้องเป็นคนรับผิดชอบ 

 

            ฟาก ตั๊ก กล่าวเพิ่มว่า เรื่องที่เอารถไปใช้ เรื่องนั้นตนยอมรับผิดทั้งหมด ตนยืนยันว่าจะชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกคนทั้งหมด ถ้าจะไปซ่อมที่อู่อื่นตนก็ยินดี เดี๋ยวตนจะเอาอะไหล่ไปให้ ค่าซ่อมต่าง ๆ ทางตนยินดีจ่ายให้เช่นกัน แต่อยากให้เป็นไปทีละเคส 

 

 

            นอกจากนี้ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า แนะนำว่าทางอู่อันไหนผิดก็ยอมรับผิดไป และอยากให้มีสภาพบังคับ เพื่อให้ทางเจ้าของรถเขาสบายใจ เจ้าของอู่เองก็จะได้สบายใจ ให้ไปที่ศาล ไปยื่นเรื่องขอไกล่เกลี่ย เอาเอกสารไปให้ เขาจะจัดตั้งคณะออกเลขคดีให้ ก็คุยตกลงกันว่าจะชดใช้ความเสียหายอย่างไร ภายในระยะเวลากี่วัน หลังจากนั้นก็จะมีการบันทึกเอาไว้ ศาลจะมีการพิพากษาตามยอม ที่ตกลงกันไว้ได้เลย มันจะได้มีสภาพบังคับตามกฎหมายไม่ได้พูดปากเปล่า