อดีตครู ป่วยเป็นโรคจิตเวช ถูกพี่ชายหว่านล้อม พากินเที่ยวให้ตายใจ ก่อนจะหลอกให้เซ็นเอกสารมอบที่ดินมรดก 9 ไร่ ได้ตามต้องการก็ ปล่อยทิ้งให้อดอยาก สุดน่าเวทนา จนชาวบ้านทนไม่ไหวต้องคอยดูแล มาทราบเรื่องหลังรักษาหายเป็นปกติ
วันที่ 11 ต.ค. 65 บัญชา บุญฉิม อดีตคุณครูที่ถูกหลอกจนหมดตัว ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยตนเป็นลูกคนที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2539 แม่ได้แบ่งทรัพย์สินเป็นที่ดินให้ลูกทุกคน คนละ 9 ไร่ ซึ่งครูบัญชาได้รับมาจำนวน 9 ไร่เศษ แต่ตนมีอาการป่วยจิตเวช ต้องเข้ารับการรักษา รพ.ศรีธัญญา จึงได้ฝากโฉนดที่กินไว้กับน้องสาว เนื่องจากไปอาศัยบ้านน้องสาวอยู่ เพราะอยู่ใกล้กับ รพ.ศรีธัญญา ต่อมาในปี 59 พี่ชายได้มารับตน อ้างว่าจะพาไปเที่ยวพักผ่อน คลายความเครียด
แต่ตอนนั้น ก็พยายามหว่านล้อมตน ให้เซ็นเอกสารโอนที่ดินให้กับลูก 3 คนของเขา โดยให้ทำธุรกรรมในลักษณะซื้อขายที่ดิน ให้ไปคนละ 1 ไร่ รวมเป็น 3 ไร่ จากนั้น 1 สัปดาห์ลูกหนึ่งคนได้โอนที่ดิน 1 ไร่ให้กับพี่ชาย ต่อมา 4 พ่อลูกได้หว่านล้อมตนอีกครั้ง ให้โอนที่ดินเพิ่มให้กับลูก 3 คน อีกคนละ 1 ไร่ ครั้งนี้ระบุว่าให้โดยเสน่หา รวมแล้ว ลูก 3 คน ได้ที่ดินของตนไปคนละ 2 ไร่ รวมเป็น 6 ไร่ ส่วนตัวพี่ชายก็เอาไป 1 ไร่ 2 ไร่สุดท้ายที่ตนเหลืออยู่พี่ชายได้ชักชวนให้ตนเอาไปจำนอง ได้เงินมาทั้งหมด 3 ล้านบาท บอกว่าจะนำไปลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน แต่กลายเป็นว่าเขาเอาเงินที่ได้มาไปซื้อรถยนต์กระบะ และใช้จ่ายจนหมดไป ทำให้ไม่มีเงินไปไถ่ที่คืน สุดท้ายก็ถูกยึดไป พอเสร็จเรื่องทั้งหมดก็ปล่อยทิ้งให้ตนอดอยาก กระทั่งโต้งทนเห็นไม่ไหว เลยเข้ามาดูแลแทน หายาให้กิน จนตนหายเป็นปกติ จึงมาร้องผ่านสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ตนเจอกับพี่ชายล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 วันที่ขึ้นศาล ซึ่งวันนั้นเขาโกหกศาล โดยการบอกว่า ตนโอนที่ให้เขาโดยมีค่าตอบแทน ตนยืนยันว่าไม่เคยได้เงินสักบาทเลย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากได้ อยากให้เขามาดูแลตนบ้าง ถ้าไม่ดูแลก็อยากได้ที่คืน
ด้าน พสิษฐ์ รัตนอุดมธนวิไล (โต้ง) เพื่อนบ้านที่ช่วยดูแลอดีตคุณครู เผยว่า ตนรู้จักกับครูบัญชามากว่า 20 ปี เคยไปเช่าที่ของพ่อแม่ครูบัญชาเพื่อทำมาหากิน ทั้งนี้ตนดูแลครูบัญชามา 4 ปีแล้ว ครอบครัวของแกไม่ได้มาดูแลอะไร ตนคอยดูแลให้กินยา ข้าวปลาหาให้หมด ครอบครัวแกไม่ได้ดูแลให้แกกินยา ซึ่งถ้าครูบัญชาไม่ได้กินยาเขาจะเป็นอีกคนเลย ใครมาชักชวนให้ทำอะไร ครูบัญชา จะทำตามทุกอย่างโดยไม่รู้เรื่อง ว่าจะถูกหรือผิด รวมถึงฉีดยาแก้โรคเบาหวานที่สะดือด้วย
อย่างไรก็ตาม มีการโอนชื่อฉโนดให้ลูกของพี่ชายครูบัญชาทั้ง 3 คนจริง แล้วมีการเอาที่ดินของครูบัญชาไปจำนอง ให้ได้เงินจำนวน 3 ล้านบาทด้วย ตอนนี้คุณครูบัญชาไม่เหลือสมบัติอะไรแล้ว ส่วนตัวพี่ชาย ตนคุยอยู่ตลอด แต่เขาไม่เคยพูดถึงประเด็นนี้ ตนก็รู้จักทั้ง 2 คนมานาน นับถือทั้งคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เขาทะเลาะกัน ส่วนเรื่องที่ตนดูแลคุณครู ตนไม่ได้หวังผลประโยชน์ใด ๆ เลยตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง ตนทำอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ นอกจากคุณครูก็ยังรับเลี้ยงดูอีก 4-5 คน
ขณะที่ ศักดา ฉั่วยั่งยืน (เจี๊ยบ) ผู้ที่ใกล้ชิดกับอดีตคุณครู เผยว่า ตนเป็นนักข่าวในท้องถิ่น ซึ่งก็ทราบเรื่องของคุณครูมาพอสมควร ทางพี่โต้งเขาติดต่อมาให้ตนช่วยตีแผ่ความจริง และขอความเป็นธรรมให้กับคุณครู ตนก็ช่วยประสานนักข่าวสื่อหลัก ๆ ช่วยดูอาการของคุณครู รวมถึงเอกสารต่าง ๆ ตามจนกระทั่งไปขึ้นศาลเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 ซึ่งประเด็นนี้ทนายที่เข้ามาดูแลคดี เขาบอกว่ามันมีข้อพิรุธการปลอมลายเซ็นอยู่ ซึ่งคุณครูเขาก็บอกว่าจำคุณครูเขาได้เช่นกัน ส่วนตัวพี่ชายตอนขึ้นศาล ศาลมีการถามว่าจะประณีประนอมไหม เขาก็บอกว่าจะสู้ ไม่ประณีประนอม
ขณะเดียวกัน นายกิตติณรงค์ ไหมศรีกรด ทนายความ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่าเป็นการถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร ภาษากฎหมายเรียกว่า นิติกรรมเป็นโมฆะ หลังจากนี้ ตนจะยื่นฟ้อง เรียกคืนที่ดิน ในลักษณะ นิติกรรมเป็นโมฆะ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมให้กับ ครูบัญชา
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35