เจอแบบนี้ถึงกับเซ็ง ผู้เสียหายต้องเข้าร้องให้สายไหมต้องรอดช่วย หลังจ่ายเงินสดซื้อรถป้ายแดงให้เซลล์ไป 1.5 ล้าน แต่ผ่านมา 7 เดือนยังไม่ได้รถ ทางโชว์รูมอ้างไม่สามารถส่งมอบรถได้ เซลล์ดังกล่าวโกงเงินบริษัท!
วันที่ 10 ต.ค. 65 ก้อย และ มอญ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนสนใจซื้อรถ จึงเข้าไปดูที่โชว์รูม คุยกับเซลล์ก็ตกลงซื้อขาย และโอนมัดจำจองรถ 1.5 หมื่นบาท ซึ่งเขาบอกว่าจะได้รถหลังจากนี้ 60 วัน ซึ่งจะประมาณวันที่ 3 เม.ย. ตนจึงจัดการกู้สหกรณ์ และสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คจำนวน 1.5 ล้านบาท จ่ายให้ในนามบริษัทฯ ของโชว์รูม วันที่ 8 มี.ค. กระทั่งตนเอะใจว่ามีการเลื่อนบ่อย โดยเซลล์อ้างว่า คนจองรถเยอะบ้าง หรือเขาติดโควิดบ้าง เลยขอเลื่อน ตนจึงเข้าไปดูที่โชว์รูม ปรากฎว่า เซลล์โกงเงินบริษัทฯไป ทำให้ตนไม่ได้รถ
โดยวิธีการที่เซลล์โกงนั้น ทางโชว์รูมอธิบายว่า ในช่วงเดียวกับที่ตนซื้อรถ มีนาย ก. เข้ามาซื้อรถเช่นกันในราคา 1 ล้านบาท และนาย ก. ได้จ่ายเงินให้เซลล์หมดแล้ว จนกระทั่งเขาเอาแคชเชียร์เช็คของตนมูลค่า 1.5 ล้านบาทของตนไปให้การเงินของบริษัทฯ โดยบอกว่าเป็นเงินค่ารถของนาย ก. ก่อนจะบอกว่านาย ก. จ่ายเงินเกินมาให้ทอนเงินให้นาย ก. 5 แสนบาท และเขาก็บอกให้นาย ก. โอนเงินให้เขา โดยอ้างว่าบริษัทฯทำเรื่องผิดพลาด ส่วนที่ตนจ่ายเงินให้เขาก่อนจะได้รถ เพราะว่ามีความเชื่อมั่น เนื่องจากเขาเป็นโชว์รูมใหญ่ และเซลล์ยังบอกให้ตนจ่ายก่อน จะได้นำรถไปเคลือบแก้วให้เสร็จทันวันรับรถพอดี ไม่ต้องเสียเวลารอรถอีก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ผ่านมาแล้ว 7 เดือน ตนก็ยังไม่ได้รถ ต้องผ่อนเงินที่กู้มาอีกด้วย ทางบริษัทฯ บอกว่าเขาจะแจ้งความดำเนินคดีกับเซลล์ควบคู่ไปกับทำเรื่องรถให้ตนรอ แต่ก็ไม่ได้สักที และเขาก็ไม่เคยติดต่อมาก่อน มีแต่ฝั่งตนติดต่อตามเรื่องเอง ขณะเดียวกัน ตอนนี้ก็ไม่อยากได้รถแล้ว เพราะสูญเสียความเชื่อมั่นกับโชว์รูมไปแล้ว อยากได้เงิน เพื่อไปคุยกับดีลเลอร์อีกมากกว่า ตนรอจนสุขภาพจิตเสียกันแล้ว
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า ความจริงเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับ คุณก้อย และคุณมอญ เขาโอนเงินจ่ายไปให้กับบริษัทฯโชว์รูมรถ แล้วพนักงานของเขาไปฉ้อโกงอย่างไร เขาไม่รู้เรื่องด้วย บริษัทฯ จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเซลล์อะไรก็ทำไป ควรจะเอารถให้ลูกค้าไปเลย
ขณะที่ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ มีการไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว ทาง สคบ. จะรีบเร่งรัดให้ กระบวนการต่อไป ก็จะเชิญผู้ประกอบการมาเจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาก็จะขึ้นอยู่กับว่าผู้เสียหายจะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ ถ้าเจรจาแล้วจบ ก็ยุติเรื่อง แต่ถ้าเจรจาไม่จบก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าควรจะฟ้องร้องหรือเปล่า เราจะมีเกณฑ์อยู่ ซึ่งจากที่ตนดูข้อเท็จจริงส่วนตัวตนมองว่าน่าจะฟ้องร้องให้ และเรียกร้องค่าเสียหาย อย่างในกรณีนี้ก็เป็นเรื่องค่ารถ ค่ามัดจำทะเบียน เรื่องของการจดทะเบียน ดอกเบี้ยต่าง ๆ ที่เราเสียไปก็สามารถเรียกร้องได้
ทั้งนี้ ทางโชว์รูมได้ติดต่อมายังทีมงาน "ถกไม่เถียง" แจ้งว่า ทางโชว์รูมยินดีจะชดใช้ทุกอย่างที่ผู้เสียหายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือว่าจะเป็นรถก็ได้ ทั้งนี้ทางโชว์รูมเพิ่งได้รับทราบเรื่องเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 65 จึงต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการ ทำให้กินเวลานาน อย่างไรก็ตามผู้เสียหายสามารถติดต่อทางโชว์รูมได้เลย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35