logo ถกไม่เถียง

หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ 7 เดือนไม่ได้รถ โชว์รูมอ้างพนักงานโกง แบบนี้ก็ได้เหรอ ?

ถกไม่เถียง : คู่รักพนักงานแบงก์สุดเซ็ง กู้สหกรณ์มาซื้อรถป้ายแดงหวังไว้เป็นรถคันแรก จ่ายสดไป 1,566,000 บาท ผ่านมา 7 เดือนยังไม่ได้รับรถ โชว์รูมอ้า ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,พนักงานแบงก์,แคชเชียร์เช็ค,โชว์รูม,โกงเงิน,เซลล์โกงเงิน,ฟอร์จูนเนอร์,เงินล้าน,กู้สหกรณ์,คู่รักพนักงานแบงก์,รถป้ายแดง,รถคันแรก,การเงิน,โชว์รูมย่านศรีนครินทร์,รถทิพย์,ผ่อนทิพย์,สายไหมต้องรอด,สคบ.,สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค,หลอกลูกค้า

3,130 ครั้ง
|
10 ต.ค. 2565
คู่รักพนักงานแบงก์สุดเซ็ง กู้สหกรณ์มาซื้อรถป้ายแดงหวังไว้เป็นรถคันแรก จ่ายสดไป 1,566,000 บาท ผ่านมา 7 เดือนยังไม่ได้รับรถ โชว์รูมอ้างเซลล์ที่ขายรถโกงเงินบริษัทฯไป เลยส่งมอบรถให้ไม่ได้ จึงเร่งเข้าร้องเรียนสายไหมต้องรอดให้ช่วย  
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ
 
            วันที่ 10 ต.ค. 65 ก้อย และ มอญ ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนตัดสินใจซื้อรถตั้งแต่ 3 ก.พ. 65 จึงเข้าไปที่โชว์รูม คุยกับเซลล์ ก็ตกลงกันได้ว่าจะเอาคันไหน จึงได้วางเงินมัดจำด้วยเงินสด 15,000 บาท ซึ่งเซลล์บอกว่าจะได้รถหลังจากวันที่ตกลงกัน 60 วัน ซึ่งก็จะเป็นช่วง 3-4 เม.ย. 65 ตนจึงได้ไปทำการเตรียมเงินในส่วนที่เหลือ โดยการกู้สหกรณ์ของบริษัทฯที่ทำงานอยู่ ได้เป็นแคชเชียร์เช็คมา สั่งจ่ายในนามบริษัทโชว์รูมรถเป็นจำนวน 1,566,000 บาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 65 ซึ่งเซลล์ได้มีการขอเลื่อน อยู่เรื่อย ๆ โดยอ้างว่าเขาเป็นโควิด รวมทั้งอ้างอีกว่ารถมีการจองเข้ามาเป็นจำนวนมาก ต้องรออะไหล่ รอผลิต แล้วก็ขอเลื่อน ตนก็รอ จนกระทั่งตนมาเกิดความสงสัยเอง จึงกลับไปที่โชว์รูม ทางโชว์รูมก็แจ้งว่ารถของตนยังไม่ได้ เพราะเซลล์โกงเงินบริษัทฯไป 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ
 
            ทางบริษัทฯ แจ้งว่าเซลล์เขาโกงเงินไป โดยการที่ในช่วงระยะเดียวกับที่ตนซื้อรถ ก็มี นาย ก. เขามาซื้อรถเช่นกัน โดยรถของนาย ก. มีราคาประมาณ 1,000,000 ซึ่งราคา และระยะเวลามันใกล้เคียงกัน ทางนาย ก. เขาก็ทยอยจ่ายเงินให้เซลล์จนครบแล้ว กระทั่งตนเอาแคชเชียร์เช็คมูลค้า 1,566,000 ไปให้เซลล์ เขาก็นำแคชเชียร์เช็คของตนไปให้การเงินของบริษัทฯ โดยบอกว่าเป็นของนาย ก. และอ้างว่า นาย ก. จ่ายเงินเกินมูลค่ารถของเขา ทางการเงินต้องทอนเงินให้นาย ก. 500,000 บาท และเซลล์ก็ไปบอกนาย ก. ว่าทางบริษัทฯทำเงินผิดพลาด ให้นาย ก. คืนเงิน 500,000 ให้เซลล์ เท่ากับว่าแคชเชียร์เช็คของตนนำไปซื้อรถของนาย ก.
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ
 
            ทั้งนี้ ที่ตนจ่ายเงินเขาก่อนที่จะได้รับรถ เนื่องจากว่าตนก็มั่นใจในแคชเชียร์เช็ค เพราะสั่งจ่ายไปในนามบริษัทฯโชว์รูม จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และเราก็เชื่อมั่นในโชว์รูมด้วย เพราะเป็นโชว์รูปขนาดใหญ่ มีอีกหลายสาขา และตนก็จ่ายล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดการวันรับรถไม่นาน อีกประเด็นก็คือเขาบอกว่าถ้าจ่ายตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 65 โชว์รูมจะได้ทำการเคลือบแก้วให้ตั้งแต่วันนั้นเลย พอถึงวันรับรถเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลารออีก ขณะเดียวกันเขาก็มีการออกใบเสร็จให้ตนในนามของบริษัทฯเขา ระบุเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์รถหมดแล้ว แต่กลับไม่ได้รถ 
 
            ตอนนี้ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องผ่อนจ่ายดอกเบี้ยของเงินที่กู้มาอยู่ ผ่อนลอย ๆ เพราะกุญแจก็ยังไม่ได้ ตอนนี้ผ่านมา 7 เดือน ก็ผ่อนไปเป็นหลักแสนบาทแล้ว คุยกับทางบริษัทฯ บอกว่าเขาจะแจ้งความดำเนินคดีกับเซลล์ควบคู่ไปกับทำเรื่องรถให้ตน ให้ตนรอ ตนเข้าไปที่โชว์รูมตลอดทุกวันเสาร์ ส่วนใหญ่ต้องเป็นฝ่ายตนติดต่อตามเรื่องกับเขา น้อยครั้งที่เขาจะติดต่อมา ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยเจอทางผู้บริหารระดับสูงออกมาคุยเลย ไม่เคยได้รับคำขอโทษจากเขาด้วย อีกทั้งผลักภาระให้ตนไปแจ้งความเซลล์ หลังจากที่เซลล์ถูกจับแล้ว ทางตำรวจยังต่อว่าบริษัทฯ ว่าทำไมผลักภาระมาให้ลูกค้าทำไม ควรจะให้รถตนได้แล้ว
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ
 
            ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า ความจริงเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับ คุณก้อย และคุณมอญ เขาโอนเงินจ่ายไปให้กับบริษัทฯโชว์รูมรถ แล้วพนักงานของเขาไปฉ้อโกงกระบวนอะไรอย่างไร เขาไม่รู้เรื่องด้วย บริษัทฯ จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเซลล์อะไรก็ทำไป เขาเป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่งที่เชื่อมั่นเชื่อถือในบริษัทฯเป็นอย่างมาก ถึงกับจ่ายเงินให้ไปก่อน แต่กลับมาปฏิบัติอย่างนี้กับลูกค้าได้อย่างไร จริง ๆ ควรจะเอารถให้ลูกค้าไปเลย และต้องยกมือไหว้เขาด้วย แล้วบริษัทฯก็ไปเคลียร์หลังบ้านเอา 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มแบงก์ ซื้อรถเงินสด 1.5 ล้าน รอ
 
            ขณะที่ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ มีการไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว ทาง สคบ. จะรีบเร่งรัดให้ กระบวนการต่อไป ก็จะเชิญผู้ประกอบการมาเจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาก็จะขึ้นอยู่กับว่าผู้เสียหายจะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่ ถ้าเจรจาแล้วจบ ก็ยุติเรื่อง แต่ถ้าเจรจาไม่จบก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าควรจะฟ้องร้องหรือเปล่า เราจะมีเกณฑ์อยู่ ซึ่งจากที่ตนดูข้อเท็จจริงส่วนตัวตนมองว่าน่าจะฟ้องร้องให้ สคบ. ก็จะรับช่วงสิทธิ์ไปฟ้องให้ และเรียกร้องค่าเสียหาย อย่างในกรณีนี้ก็เป็นเรื่องค่ารถ ค่ามัดจำทะเบียน เรื่องของการจดทะเบียน ดอกเบี้ยต่าง ๆ ที่เราเสียไปก็สามารถเรียกร้องได้ นอกจากนี้เท่าที่ตนดูจากข้อเท็จจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในองค์กร ไม่เกี่ยวกับผู้เสียหายเลย 
 
            คุณก้อย  และคุณมอญ กล่าวต่อว่า ตอนนี้เราไม่อยากได้รถแล้ว เพราะตอนนี้เราขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว เราให้โอกาสเขามามากพอสมควรแล้ว เราทำตามเขาทุกอย่าง แต่กลับมาทำกับตนแบบนี้ ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย อยากได้เงินคืนเพื่อไปหาดีลเลอร์อื่นดีกว่า รอทุกวันมันทำให้สุขภาพจิตเสีย 
 
            ทั้งนี้ ทางโชว์รูมได้ติดต่อมายังทีมงาน "ถกไม่เถียง" แจ้งว่า ทางโชว์รูมยินดีจะชดใช้ทุกอย่างที่ผู้เสียหายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือว่าจะเป็นรถก็ได้ ทั้งนี้ทางโชว์รูมเพิ่งได้รับทราบเรื่องเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 65 จึงต้องมีการตรวจสอบตามกระบวนการ ทำให้กินเวลานาน อย่างไรก็ตามผู้เสียหายสามารถติดต่อทางโชว์รูมได้เลย
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/tfdbJm66ydY