เหตุการณ์โศกนาฏกรรม กราดยิง ที่หนองบัวลำภู คาด อดีตตำรวจไตร่ตรองก่อนลงมือ ตั้งใจให้สั่นสะเทือนทั้งวงการ เหตุถูกกดดันจากงาน ไม่ได้คลั่งยา !
วันที่ 7 ต.ค. 65 สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เผยว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ เขาไม่ได้คลั่งจากยา คลั่งจากนาย เครียดจากอาชีพตำรวจ คนที่คลั่งยามันไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ อันนี้เขาจงใจ เตรียมการมาก่อเหตุ เขาตั้งใจให้เหตุการณ์ครั้งนี้ มีผลต่อสังคม ทำด้วยเหตุผลที่เขาถูกกระทำมาจากองค์กร ปัญหานี้เกิดจากองค์กร เกิดจากระบอบ และระบบ ของข้าราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากที่ตนทราบมา เขาเข้ารับราชกาโดย เป็นสายตรวจของ สน.ยานนาวา ที่ถือว่าเป็น สน.เกรด B+ และตัวเขาก็ถูกย้ายมาที่ สน.ลุมพิณี ซึ่งเป็นเกรด A ถ้าตัวเขาทำงานบกพร่องคงไม่ได้ย้ายมา เท่าที่ตนทราบมาเขาทำหน้าที่ปกติ เหมือนตำรวจทั่วไป ส่วนสาเหตุที่เขาถูกไล่ออกจากราชการ เพราะตอนนั้นเขาถูกพบยาเสพติดแค่ 1 เม็ด แต่เหตุน่าสงสัยคือตรวจปัสสาวะแล้วก็ไม่พบสารเสพติด ขณะที่เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่มา 7 ปี ทำให้เขามองว่าเขาถูกกระทำ เหมือนพยายามจะโทษเขา และปัดความรับผิดชอบออกไป และโยนเขากลับมาให้สังคมรับผิดชอบ อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างมาให้เขาก่อเหตุ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าองค์กรควรใส่ใจข้าราชการชั้นผู้น้อยมากกว่านี้ ข้าราชการชั้นสูงเขาไม่ได้รู้จริง ๆ ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเขาอยู่อย่างไร มีปัญหาอย่างไร นี่เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำในองค์กร ต่อไปมันก็จะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นองค์กร อย่าทำให้สังคมหลงประเด็น อย่าออกมาบิดเบือน มันคือความรับผิดชอบของพวกคุณโดยตรง
ด้าน ผศ.ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนคาดไว้แล้วว่า ไม่น่าจะมีสารเสพติดมาเกี่ยวข้อง เนื่องจากปกติถ้าคนเมายาบ้า เขาจะจับคนเป็นตัวประกัน เพื่อไม่ให้คนมาทำร้ายเขา เขาจะอยู่ในภาวะหวาดระแวง แต่ว่าอันนี้มันเป็นลักษณะของการสังหารหมู่ โดยการสังหารหมู่ส่วนใหญ่ เขาจะมีเหตุจูงใจ ต้องการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้สังคมรู้สึกว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง อย่างเคสนี้ที่เรารู้กันว่าวันที่เกิดเหตุ เป็นวันตัดสินให้เขาพ้นการรับราชการ เป็นไปได้ว่าเขาคิดไตร่ตรองมาแล้ว ส่วนที่เขาเลือกก่อเหตุกับเด็ก คิดว่าเขาน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็ก อาจจะมีเรื่องของลูก หรือว่าเหตุที่ทำให้เขาอยากจะทำลายตรงนั้น หรือไม่ก็เขาอาจจะอยากก่อเหตุให้ดูสะเทือนขวัญมาก ๆ จึงเลือกฆ่าเด็ก
ทั้งนี้ ในองค์กร ทหาร ตำรวจ ก็มีการพบจิตแพทย์อยู่เรื่อย ๆ แต่แค่ไม่จริงจังเท่านั้นเอง มีการพบจิตแพทย์อยู่เรื่อย ๆ แต่การประเมินโดยจิตแพทย์ก็ยังไม่ลึกพอที่จะทำให้เจออาการสำคัญได้ ขณะเดียวกันตนก็มองว่าการตรวจตรงนี้สำคัญ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ ที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือ อย่างต่างประเทศเขาจะมีการตรวจอย่างละเอียดมาก มีการฝึกตัดสินใจ ฝึกจากสถานการณ์จริงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันบุคคลากรก่อปัญหาแบบนี้ อีกทั้งเรื่องของการมีอาวุธส่วนตัวก็เป็นเหตุ เนื่องจากตำรวจไทยต้องซื้อปืนเอง เพราะว่าปืนที่ไปเบิกมันไม่ได้มีคุณภาพพอที่จะเอาไปใช้ทำงานได้ ทำให้ตำรวจมีปืนส่วนตัว ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหากับผู้อื่น ตำรวจยิงตัวตายก็มีเยอะเช่นกัน
ขณะที่การป้องกันตนมองว่า ควรจะพัฒนาระบบการเบิกจ่ายที่ดีขึ้น ให้มันคล่องตัวขึ้น รวมทั้งคุณภาพปืนที่ดีพอ ไม่ให้ราชการมาซื้อปืนเอง ควรจะทบทวนกันได้แล้ว ว่าจริง ๆ ตำรวจไม่จำเป็นจะต้องมีอาวุธปืนเป็นส่วนตัวก็ได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35