เกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อหนูน้อยวัยเพียง 8 เดือน ได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา และที่บริเวณท้ายทอยมีรอยช้ำ ซึ่งการเสียชีวิตของเด็ก เกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่ได้นำลูกน้อยไปฝากเลี้ยงกับพี่เลี้ยงเด็กที่อยู่ในละแวกบ้าน โดยรู้จักผ่านจากอินเทอร์เน็ต ได้จ่ายค่าเลี้ยงดูวันละ 100 บาท แต่พอฝากเลี้ยงเพียงแค่ 2 วัน ลูกชายกลับเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่กำลังเร่งช่วยชีวิตเด็กชายวัย 8 เดือน ซึ่งมีอาการชัก หมดสติ ในสถานที่รับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ โดยหนูน้อยรายนี้ อยู่ในอาการนอนหมดสติ มือเท้าเริ่มเขียว สุดท้ายน้องเสียชีวิตลง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5 ซึ่งสภาพศพของน้อง พบว่า บริเวณริมฝีปากเขียว ที่ท้ายทอยมีแผลช้ำเป็นสีม่วง และบริเวณแผ่นหลังก็มีรอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ เบื้องต้นแพทย์ได้ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
ด้านตำรวจ สภ.บางเสาธง ซึ่งได้รับแจ้งเหตุว่า มีเด็กเสียชีวิตผิดปกติที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5 ได้เข้าตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ
คุณแม่ของหนูน้อย 8 เดือน ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเสียใจ เล่าว่า ก่อนหน้านี้พ่อเป็นคนเลี้ยงน้องด้วยตัวเอง แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้เอาน้องไปฝากเลี้ยงกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้ข้อมูลมาจากในอินเทอร์เน็ต และอยู่ในเคหะเมืองใหม่ บางพลีโครงการ 4 โดยพี่เลี้ยงจะคิดค่าจ้างวันละ 100 บาท
จากนั้นตนได้นำลูกไปส่งที่ห้องของผู้หญิงคนนี้ ที่อยู่ที่ชั้น 3 โดยในห้องไม่มีอะไรผิดปกติ มีเด็กอายุไม่เกิน 2 ขวบ อีก 5-6 คนนอนอยู่ และวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปรับลูกกลับมา ก็พบว่า ลูกมีอาการอาเจียน ซึม แต่ไม่ได้เอะใจ และเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ก็ได้นำไปฝากเลี้ยงอีกตอนช่วงเช้า ก่อนไปทำงาน แต่พอช่วงบ่ายพี่เลี้ยงได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ลูกอาเจียนอย่างหนักให้รีบกลับมาดู เมื่อไปถึงก็พบว่า ลูกหมดสติ ตนจึงแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ
คุณแม่ยังบอกอีกว่า ตนพบมีรอยช้ำที่ท้ายทอยและบริเวณหลัง ทำให้แม่คาใจในเรื่องนี้ เพราะไม่รู้ว่ารอยช้ำมาจากไหน และคนในครอบครัวก็ไม่มีการทำร้ายลูกแน่นอน และที่ผ่านมาลูกไม่เคยเป็นเด็กงอแง ไม่มีประวัติป่วยเป็นลมชักมาก่อน
นอกจากนี้ ตำรวจ สภ.บางเสาธง ได้เชิญพี่เลี้ยงเด็กมาสอบสวน ซึ่งให้การว่า ช่วงวันที่ 4-5 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนสังเกตว่า น้องมีอาการซึม งอแงมาก อาเจียน และร้องไห้ถี่ขึ้น จึงอุ้มมาป้อนนม แต่น้องก็ยังร้องไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีอาการชักเกร็ง โดยขอยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายเด็ก หรือทำให้เด็กตาย ส่วนรอยช้ำที่ท้ายทอยและรอยฟกช้ำที่แผ่นหลัง ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะเด็กเพิ่งมาได้แค่ 2 วัน ไม่มีการตกจากที่สูงหรือกระแทกอะไรทั้งสิ้น เพราะตนดูแลไม่ได้คลาดสายตา
ด้านสามีของพี่เลี้ยงเชื่อว่า ภรรยาตนเองไม่ได้ทำร้ายเด็ก รอยช้ำของเด็กมีมาแต่แรก แต่ตอนนั้นภรรยาคิดว่าเป็นปานของเด็ก จึงไม่ได้เอะใจ และเด็กก็นำมาฝากได้เพียง 2 วัน ซึ่งภรรยารับเลี้ยงเด็กได้ 1 ปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยทำร้ายหรือตีเด็กสักคน
มีรายงานระบุว่า หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวน ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำแล้ว 3 ปาก โดยมี พ่อ แม่ ของเด็ก และ คนรับเลี้ยง ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ก็ได้เรียกกู้ภัยและพยาบาลที่ไปจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มอีก 2 ปาก ส่วนในเรื่องทางคดีต้องรอผลชันสูจน์ของสถาบันนิติเวช โดยที่เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหากับใคร
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ภายในเคหะบางพลี เมืองใหม่ โครงการ 4 บริเวณห้องที่เกิดเหตุ พบว่า มีขวดนมวางอยู่หน้าห้อง 1 ขวด โดยทีมข่าวพยายามเคาะห้องเพื่อสอบถามกับพี่เลี้ยงเด็ก แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล และบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดได้ให้การกับตำรวจไว้แล้ว หลังจากนี้ให้เป็นขั้นตอนของทางตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งตนเองยังยืนยันคำให้การเดิมแต่ต้นตั้งแต่วานนี้ วันนี้ขอพักผ่อน เนื่องจากเมื่อคืนตำรวจสอบถึงเที่ยงคืนส่วนการเปิดรับเลี้ยงเด็ก วันนี้คงต้องปิดรับเลี้ยงก่อน
ทีมข่าวยังได้พยายามติดต่อไปที่พ่อแม่ของน้อง ซึ่งก็ยืนยันกับเช่นเดียวกันว่า ตัวพ่อแม่ก็ไม่ได้ทำร้ายลูกชายแน่นอน หลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของตำรวจไปดำเนินการ ซึ่งผลตรวจศพจะสามารถยืนยันได้ว่าลูกตายเพราะอะไร
และได้ไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคาร 23 โดยพบเมื่อช่วงประมาณ 07.00 น. ของเมื่อวานนี้ พ่อกับแม่ของน้องที่เสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์และอุ้มน้องไปส่งตอนเมื่อเวลาประมาณ 07.09 น. และท่าทางน้องก็ยังอยู่ในอาการปกติเหมือนเด็กทั่วไป แต่พอเวลาประมาณ 13.27 น. กล้องวงจรปิดได้จับภาพขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้อุ้มน้องและพบว่าแม่ของน้องที่เดินตามมา ก่อนจะขึ้นรถพยาบาลไปด้วย
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35