เสียหายวงการทนาย หลังพ่อค้าไก่หมุน ปลอมเอกสาร อ้างเป็นทนาย เนียนว่าความอยู่หลายปี ขนาดทนายจริงยังหลงเชื่อ !
วันที่ 5 ต.ค. 65 ณัฐกานต์ รัตนกัณฑ์แก้ว (อ๋อมแอ๋ม) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อ ธ.ค. 63 ตนได้โพสต์ขอคำปรึกษาภายในเพจไปเกี่ยวกับคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นทนายปลอมคนดังกล่าวก็ติดต่อมาให้คำปรึกษา ซึ่งช่วยแนะนำ และติดตามในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดี ประสานกับตำรวจให้ โดยไม่ได้เรียกเงินเลยสักบาท จนกระทั่งตนมาว่าจ้างเขาตอนเดือน เม.ย. 64 เนื่องจากคดีไม่คืบหน้า โดยเขาเรียกเงินก้อนแรกเป็นจำนวนเงิน 2.5 หมื่นบาท เป็นค่าวิชาชีพทนาย 2 หมื่น อีก 5 พันเป็นค่าคัดเอกสารและการสืบข้อมูล ซึ่งระหว่างดำเนินการก็มีการเรียกเก็บอยู่เรื่อย ๆ รวมแล้วตนจ่ายให้เขาไปทั้งหมด 3.9 หมื่นบาท
ทั้งนี้ตนมาจับโป๊ะได้ตอนที่นัดเจอกันที่ ศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งเขาไม่ได้มา จึงขอเลขบัตรประชาชน และเลขคดีดำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ศาล ปรากฏว่าไม่มีชื่ออยู่ในสารบบ ส่วนเลขคดีดำก็เป็นของคดียาเสพติด ไม่ใช่ของตน ตนเริ่มเอะใจ เลยเข้าร้องเรียนกับทนายพจน์
ด้าน ประพจน์ วงศ์ก่อเกื่อ (พจน์) ทนายความที่รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย เผยว่า ตอนทราบเรื่องตนก็ยังไม่เชื่อว่าเขาเป็นทนายปลอม คิดว่าอาจจะทำงานไม่ทัน ดองงานไว้ เนื่องจากโปรไฟล์เขาค่อนข้างน่าเชื่อถือ ในสำนวนที่เขาทำก็ถูกต้องตามแบบฟอร์มทุกอย่าง แต่มาเอะใจเมื่อดูบัตรประจำตัวทนายของเขา ซึ่งพบว่าบัตรออกตั้งแต่ปี 54 ส่วนตัวเขามีอายุ 30 กว่า ตนมองว่าไม่น่าจะใช่ กระทั่งตนเดินทางไปตรวจสอบที่สภาทนายความ ก็พบว่าเจ้าของบัตรจริง ๆ เป็นผู้หญิง จึงแจ้งไปทางคุณอ๋อมแอ๋ม
พอตนรู้เรื่องแล้วว่าเป็นทนายปลอม ตนจึงสืบเรื่องไปยังทนายบุ๋ย ซึ่งเป็นทนายที่ทนายปลอมแท็กชื่อไว้ในเฟซบุ๊ก แต่ตัวทนายบุ๋ยได้รับการยืนยันว่าเป็นทนายตัวจริง ว่าความมาแล้วหลายเรื่อง นอกจากนั้นทนายบุ๋ยยืนยันมาว่า ทนายปลอมคนนี้ไปว่าความหลายที่ ทั้งจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร ถ้ารวมคดีนี้ด้วยก็ที่ชลบุรีอีก
คุณ อ๋อมแอ๋ม กล่าวต่อว่า หลังจากทราบเรื่องว่าเขาเป็นทนายปลอม ตนก็ยังติดต่อเขาอยู่ แต่ไม่ได้บอกว่าเรารู้ความจริง แต่เขากลับบอกว่าจะคืนเงินค่าทำคดีให้ เนื่องจากคดีมีปัญหา ไม่ขอทำต่อ โดยจะผ่อนคืน ซึ่งคืนมาได้แค่ 3 งวดก็ไม่คืนต่อ บอกให้ตนไปแจ้งความเอาผิดได้เลย พอตนไปแจ้งความเขากลับติดต่อกลับมาขอให้ตนถอนแจ้งความ แล้วจะเพิ่มเงินที่คืนให้ แต่ตนยืนยันว่าจะถอนแจ้งความ ส่วนคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ของตนตอนแรก จะไม่เอาผิดแล้ว แต่จะเดินหน้าเอาผิดทนายปลอม ตอนนี้รวบรวมผู้เสียหายได้หลายรายแล้ว
ฟาก วัชรพล ยานะเครือ (ทนายบุ๋ย) ทนายที่เคยขึ้นว่าความกับทนายไก่หมุน กล่าวว่า ตนรู้จักตัวทนายปลอมคนนี้ตั้งแต่ปี 53 ตอนนั้นตนเป็นทนายประจำสำนักงานแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ ตัวทนายปลอมเขา มาขอฝึกภาคปฏิบัติที่สำนักงานที่ตนอยู่ พอฝึกปฏิบัติเสร็จก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนกระทั่งเมื่อปี 64 เขาติดต่อมาหาตนอีกครั้งหนึ่ง ให้ตนช่วยทำคดี อย่างไรก็ตามจากข่าวที่ออกไปซึ่งมีชื่อของตนอยู่ในข่าว ตนขอแจ้งว่าตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือได้รับผลประโยชน์จากการกระทำของทนายคนดังกล่าว
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบมาก่อนว่าเขาเป็นทนายปลอม เขาปฏิบัติตนเหมือนทนายทั่ว ๆ ไป ไม่มีพิรุธใด ๆ ส่วนฝีมือของเขาเท่าที่ตนเห็น เขาเหมือนเป็นทนายที่มีประสบการณ์มาแล้ว 10 ปี ขณะที่คดีที่ว่าความด้วยกันมีแค่คดีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ตนเป็นคนดำเนินคดี เขาจะทำหน้าที่ในการซักถามจำเลย
ด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายความ ให้ความเห็นว่า กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนตาม พ.ร.บ.ทนายความ ปี 2528 มาตรา 33 กำหนดไว้ชัดเจนว่าบุคคลที่ไม่ได้เป็นทนายความ ไม่มีอำนาจในการไปว่าความ เมื่อบุคคลนั้นมากระทำการว่าความต่อศาล ศาลก็ต้องเพิกถอนคดีความนั้น ๆ ส่วนตัวบุคคลนั้นก็จะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ส่วนคดีความก็ต้องมีการรื้อร้องขึ้นมาพิจารณากันใหม่ ขณะที่ตัวผู้ว่าจ้างกับตัวทนายความกำมะลอนั้น ต้องไปแจ้งความฐานปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม ตัวทนายเองก็จะมีความผิดฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ ในการหลอกลวงประชาชน เคสนี้ตนฟันธงเลยว่าศาลไม่มีรอลงอาญาแน่นอน เพราะเขาตั้งใจกระทำ เล็งเห็นผลได้อย่างชัดเจน ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบทนายความมาก
ขณะเดียวกัน ทางทีมงาน "ถกไม่เถียง" ได้ติดต่อไปยัง มหาวิทยาลัยภาคกลาง นครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการศึกษาของทนายปลอมคนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยยืนยันว่า คน ๆ นี้ได้จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคกลาง นครสวรรค์ เมื่อปี 54
อีกทั้ง ผู้ใหญ่บ้านยังระบุว่า ทนายปลอมคนนี้ เป็นคนดี ตั้งใจเรียนแต่ไม่สุงสิงกับคนในหมู่บ้าน ให้ความรู้ทางกฎหมายมาแล้วกว่า 10 ปี เพิ่งเลิกขายไก่หมุนได้ 2 ปี และออกมารับว่าความ ซึ่งคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาไม่ได้เป็นทนายจริง
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35