“บิ๊กโจ๊ก” แถลงรวบหนุ่มโหด อดีตเซลส์ขายคอนโดมิเนียม ฆ่าหั่นศพแฟนสาวในห้องพักโรงแรมเมืองปากน้ำ ขนขึ้นรถเก๋งนำไปฝังดินบริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ แต่ความแตกแม่บ้านโรงแรมได้กลิ่นคาวเลือด ในห้อง แจ้งตำรวจขยายผลก่อนรวบตัวได้ขณะย้อนเข้าห้องที่เกิดเหตุเพื่อสำรวจความเรียบร้อย สารภาพแค้นฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง เลยวางแผนสังหารมีดแทงคอ ก่อนชำแหละ
“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีโหดนายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี อดีตเซลส์ขายคอนโดมิเนียม ฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ หรือพินนราทร อายุ 30 ปี คู่กิ๊ก ในโรงแรมกลางเมืองสมุทรปราการ นำชิ้นส่วนศพไปฝังอำพรางบริเวณตอม่อสะพานทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ อ้างฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ สภ.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ แถลงผลจับกุมนายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยวัชรพล 1/1 แยก 1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ คนร้ายฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมของกลางรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีขาว ทะเบียน ฎล 8211 กรุงเทพมหานคร ขวานและเลื่อยมืออย่างละ 1 อัน เสียมเหล็กยาวประมาณ 120 ซม. 1 อัน กระเป๋าผ้าสีน้ำตาล ภายในบรรจุกระเป๋าผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบกระเป๋าใส่ของสีดำ ยี่ห้อ EDSEASONS จำนวน 1 ใบ กระเป๋าใส่ของสีดำ ยี่ห้อ URBANSEASON จำนวน 1 ใบ ถุงมือผ้าสีเหลือง-ดำ 1 คู่ เสื้อยืดแขนสั้น สีเขียว 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำลายพราง มีแถบคาดสีขาว 1 ตัว และรองเท้าแตะสีขาว 1 คู่ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์แม็คบุ๊ก โปร 1 เครื่อง จับกุมได้หน้าอาคารแอทเอส 115 เรสซิเดนซ์ เลขที่ 334 หมู่ 4 ซอยสุขุมวิท 115 (อภิชาติ) ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงเบื้องหลังการจับกุมว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งจากแม่บ้านของอาคาร แอทเอส 115 เรสซิเดนซ์ ว่าพบความผิดปกติในห้องพักเลขที่ 402 เนื่องจากได้กลิ่นคาวเลือด และพบน้ำยาล้างห้องน้ำจำนวนมาก ตำรวจตรวจสอบเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุฆาตกรรม รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา โดยมี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ ร่วมสอบสวนขยายผล ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัยคือนายชาญวิทย์ สะพายกระเป๋า และถือถุงดำขนาดใหญ่ลงมาจากห้องพัก กระทั่งช่วงสายวันเดียวกัน นายชาญวิทย์ย้อนกลับมาที่ห้องเพื่อที่จะสำรวจความเรียบร้อยและทำลายหลักฐานที่เหลืออยู่ ถูกตำรวจคุมตัวไปสอบสวนจนเปิดปากรับสารภาพ