บิ๊กโจ๊กแถลง ! รวบหนุ่มโหดฆ่าหั่นศพแฟนสาว งมขวาน 6 ชั่วโมงจนเจอ
logo ข่าวอัพเดท

บิ๊กโจ๊กแถลง ! รวบหนุ่มโหดฆ่าหั่นศพแฟนสาว งมขวาน 6 ชั่วโมงจนเจอ

ข่าวอัพเดท : “บิ๊กโจ๊ก” แถลงรวบหนุ่มโหด อดีตเซลส์ขายคอนโดมิเนียม ฆ่าหั่นศพแฟนสาวในห้องพักโรงแรมเมืองปากน้ำ ขนขึ้นรถเก๋งนำไปฝังดินบริเวณตอม่อทางด่ ฆ่าหั่นศพ,หนุ่มโหด,ฆาตกรรม,ฆาตกร,ฆ่าโหด,ฆ่าฝังศพ,ข่าว,ข่าววันนี้,แค้น

1,007 ครั้ง
|
03 ต.ค. 2565

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงรวบหนุ่มโหด อดีตเซลส์ขายคอนโดมิเนียม ฆ่าหั่นศพแฟนสาวในห้องพักโรงแรมเมืองปากน้ำ ขนขึ้นรถเก๋งนำไปฝังดินบริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ แต่ความแตกแม่บ้านโรงแรมได้กลิ่นคาวเลือด ในห้อง แจ้งตำรวจขยายผลก่อนรวบตัวได้ขณะย้อนเข้าห้องที่เกิดเหตุเพื่อสำรวจความเรียบร้อย สารภาพแค้นฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง เลยวางแผนสังหารมีดแทงคอ ก่อนชำแหละ

ข่าวอัพเดท : บิ๊กโจ๊กแถลง ! รวบหนุ่มโหดฆ่าหั่นศพ

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีโหดนายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี อดีตเซลส์ขายคอนโดมิเนียม ฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ หรือพินนราทร อายุ 30 ปี คู่กิ๊ก ในโรงแรมกลางเมืองสมุทรปราการ นำชิ้นส่วนศพไปฝังอำพรางบริเวณตอม่อสะพานทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ อ้างฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ สภ.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ แถลงผลจับกุมนายชาญวิทย์ หรือดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยวัชรพล 1/1 แยก 1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ คนร้ายฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมของกลางรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีขาว ทะเบียน ฎล 8211 กรุงเทพมหานคร ขวานและเลื่อยมืออย่างละ 1 อัน เสียมเหล็กยาวประมาณ 120 ซม. 1 อัน กระเป๋าผ้าสีน้ำตาล ภายในบรรจุกระเป๋าผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบกระเป๋าใส่ของสีดำ ยี่ห้อ EDSEASONS จำนวน 1 ใบ กระเป๋าใส่ของสีดำ ยี่ห้อ URBANSEASON จำนวน 1 ใบ ถุงมือผ้าสีเหลือง-ดำ 1 คู่ เสื้อยืดแขนสั้น สีเขียว 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำลายพราง มีแถบคาดสีขาว 1 ตัว และรองเท้าแตะสีขาว 1 คู่ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์แม็คบุ๊ก โปร 1 เครื่อง จับกุมได้หน้าอาคารแอทเอส 115 เรสซิเดนซ์ เลขที่ 334 หมู่ 4 ซอยสุขุมวิท 115 (อภิชาติ) ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงเบื้องหลังการจับกุมว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งจากแม่บ้านของอาคาร แอทเอส 115 เรสซิเดนซ์ ว่าพบความผิดปกติในห้องพักเลขที่ 402 เนื่องจากได้กลิ่นคาวเลือด และพบน้ำยาล้างห้องน้ำจำนวนมาก ตำรวจตรวจสอบเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุฆาตกรรม รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา โดยมี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ ร่วมสอบสวนขยายผล ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัยคือนายชาญวิทย์ สะพายกระเป๋า และถือถุงดำขนาดใหญ่ลงมาจากห้องพัก กระทั่งช่วงสายวันเดียวกัน นายชาญวิทย์ย้อนกลับมาที่ห้องเพื่อที่จะสำรวจความเรียบร้อยและทำลายหลักฐานที่เหลืออยู่ ถูกตำรวจคุมตัวไปสอบสวนจนเปิดปากรับสารภาพ

 

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า นายชาญวิทย์ให้การอ้างว่า มีภรรยาแล้วและได้แอบคบหากับ น.ส.อรนันท์ ผู้ตาย มานานกว่า 1 ปี ตั้งแต่ทำงานเป็นเซลส์ขายคอนโดมิเนียมด้วยกัน ระยะหลัง น.ส.อรนันท์มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม และพยายามตีตัวออกห่าง เลยวางแผนสังหารนานกว่า 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เตรียมขุดหลุมฝังศพ และซื้อมีด เลื่อย รวมถึงน้ำยาล้างห้องน้ำมาเก็บไว้ที่ท้ายรถ กระทั่งวันเกิดเหตุ 28 ก.ย. ตนเองนัดเจอกับ น.ส.อรนันท์ ย่านซอยลาซาล ก่อนที่จะเข้ามาเปิดห้องพักระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-2 ต.ค. แล้วอาศัยจังหวะที่ น.ส.อรนันท์นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ใช้มีดปักเข้าที่บริเวณลำคอจนล้มฟุบ แล้วกระหน่ำแทงอีกหลายครั้งจนมั่นใจว่าตาย ก่อนลากศพเข้าไปไว้ในห้องน้ำ แล้วตนกลับไปนอนพักที่บ้านย่านรามอินทรา
 
 
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ต่อมาวันที่ 29 ก.ย. กลับมาที่ห้องพักที่เกิดเหตุเพื่อชำแหละศพ โดยเริ่มหั่นชิ้นส่วนแขนและขาก่อน และชิ้นส่วนอื่นๆ รวม 7 ชิ้น ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. จากนั้นคืนวันที่ 30 ก.ย.นำศพใส่กระเป๋า และถุงดำถือลงจากห้อง ไปใส่ท้ายรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ของกลาง เพื่อนำไปฝังบริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ริมถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งมุ่งหน้ารามอินทรา แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพราะอยู่ใกล้บ้าน ส่วนขวานและเลื่อยรวมถึงทรัพย์สินของผู้ตาย นำไปโยนทิ้งคลองใกล้หมู่บ้านมณียา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กระทั่งเจ้าหน้าที่ให้นักประดาน้ำงมกว่า 6 ชม.นำของกลางขึ้นมาได้
 
 
นายชาญวิทย์กล่าวว่า ตนสำนึกผิด และอยากขอโทษครอบครัวของผู้ตาย สาเหตุที่ลงมือเพราะรักผู้ตายมากจึงแค้นใจที่ตีตัวออกห่าง ตำรวจเร่งสอบสวนเพิ่มเติมเตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทร ปราการในวันที่ 3 ต.ค.นี้