logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ผอ.โรงเรียน แจ้งความคดีอาญา เด็กอายุ 11 ปี เหตุทำกล้องวงจรปิดโรงเรียนพัง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ดรามาใหญ่ ! โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพหมาย เรียกผู้ต้องหาและรูปภาพเด็กนักเรียนชาย พร้อมมีการระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ

303 ครั้ง
|
30 ก.ย. 2565
ดรามาใหญ่ ! โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพหมาย เรียกผู้ต้องหาและรูปภาพเด็กนักเรียนชาย พร้อมมีการระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ใน จ.กำแพงเพชร ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเด็กนักเรียนรายนี้ เพราะทำกล้องวงจรปิดในโรงเรียนพัง และเรียกค่าเสียหายกว่า 3,000 บาท
 
ภาพวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ ขณะที่เด็กนักเรียนชาย 2 คน กำลังเดินผ่านหน้ากล้องวงจรปิดที่โรงเรียนได้ติดตั้งไว้ ซึ่งในมือของของเด็กชายทั้ง 2 คน ได้ถือวัตถุคล้าย ๆ กับไม้ยาวมาด้วย แต่พอหลังจากเดินผ่านหน้ากล้องวงจรปิดไปแล้ว ปรากฎว่ากล้องก็ดับและพังทันที
 
หลังจากที่เพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง “สายไหมต้องรอด” ได้โพสต์ภาพหมายเรียกผู้ต้องหาและภาพของเด็กนักเรียน พร้อมระบุข้อความว่า # จังหวัดกำแพงเพชร น้องมะพร้าว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ถูก ผอ.โรงเรียน แจ้งความดำเนินคดี หลังน้องและเพื่อน ๆ นักเรียนเล่นบอลไปโดนกล้องวงจรปิดที่โรงเรียนได้รับความเสียหาย เด็ก ๆ กลัวความผิด จึงไปตัดสายไฟขาด ทางโรงเรียนเรียกเก็บค่าซ่อม 3,300 บาท โดยให้หารกับเพื่อนนักเรียน 2 คน ๆ ละ 1,650 บาท น้องอีกคนครอบครัวหาเงินมาจ่ายได้ ส่วนน้องมะพร้าว ครอบครัวยากจนไม่มีเงินจ่าย จึงถูกดำเนินคดี
 
เบื้องต้น พี่เอก ประสานร้อยเวรเจ้าของคดีเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้หากทางโรงเรียนยอมถอนแจ้งความ # สายไหมต้องรอด จะช่วยจ่ายค่าเสียหาย 1,650 บาท ให้ เพื่อให้น้องไม่ต้องถูกดำเนินคดี
 
หลังจากมีการแชร์เรื่องนี้ออกไปทำให้ชาวเนตต่างกันวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นดรามาร้อนเกี่ยวกับความเหมาะสมที่โรงเรียนได้ทำกับเด็กนักเรียน
 
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองกำแพงเพชร โดยได้สอบถามกับผู้อำนวยการโรงเรียน คือ นายสมชาย ศรีสุข เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ 
 
ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้เรียกผู้ปกครองของเด็กที่ทำกล้องวงจรปิดพังเสียหายเข้ามารับทราบแล้ว และตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 3,000 บาท ซึ่งมีนักเรียน 2 คน ที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน คือ ด.ช.สิงหา อายุ 12 ปี และ ด.ช.มะพร้าว อายุ 11 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน โดยผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองคน ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้และจบเรื่องดังกล่าว 
 
แต่พอวันต่อมา พ่อของ ด.ช.มะพร้าว ได้ทราบเรื่องก็บอกว่า ขอไม่ชดใช้และอ้างว่าลูกตนเองไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้หน่วยงานปกครองและตำรวจในพื้นที่ก็ทราบดีและเข้ามาไกล่เกลี่ย จนมีความเห็นว่า ควรจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่รับผิดชอบ คือ ด.ช.มะพร้าว ส่วน ด.ช.สิงหา ได้จ่ายค่าเสียหายแล้ว ซึ่งเหตุผลที่ต้องดำเนินการทางคดีนั้น เพราะต้องการปรามเด็กไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง 
 
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังได้เล่าถึงพฤติกรรมของเด็กชายทั้งสองคนอีกว่า ทั้งคู่ได้มีวีรกรรมในโรงเรียนและชุมชนในลักษณะนี้หลายครั้งจนเอือมระอา ทั้งงัดเข้าไปขโมยของในร้านค้าสหกรณ์ งัดห้องเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อเข้าไปขโมยกระปุกออมสินและขนม
 
ล่าสุด ตัว ด.ช.สิงหา ได้มีปัญหากับเพื่อนในโรงเรียนด้วยกันถึงขนาดพกมีดดาบเข้ามาจะทำร้ายกันในโรงเรียน โดยทางฝ่ายปกครองได้เข้าห้ามและเรียกผู้ปกครองมารับทราบ แต่สุดท้ายก็มีกระแสดรามาขึ้นในโลกออนไลน์ 
ส่วน ด.ช.มะพร้าว เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อนเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น และมี ด.ช.ตูมตาม กับ ด.ช.สิงหา ไปทำลายตีกล้องวงจรปิดหน้าห้องศูนย์เด็กเล็ก เพื่อเข้าไปขโมยกระปุกออมสินและขนม
 
ทางผู้อำนวยการยังบอกอีกว่า จากยังมีกรณีที่เล่นวอลเล่ย์บอลจนกล้องวงจรปิดพัง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา และกรณีขังนักศึกษาฝึกสอนผู้หญิงไว้ในห้อง เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา (เคสนี้เป็นวีรกรรมของ ด.ช.สิงหา) โดยทางผู้อำนวยการและคณะครู ได้พาทีมข่าวเดินดูตามจุดที่ถูกงัดเสียหายภายในโรงเรียน เพื่อยืนยันความชัดเจนอีกด้วย 
 
ทีมข่าวยังได้ไปสอบถามกับแม่ค้าสหกรณ์ในโรงเรียน คือ น.ส.อริสรา เล่าว่า ร้านของตนเองถูก ด.ช.สิงหา ขโมยของในร้านถึง 3 ครั้ง พร้อมทั้งทำลายกลอนประตู กล้องวงจรปิด และสายอินเตอร์เน็ต ซึ่งตนเองพึ่งจะเข้ามาขายของยังร้านค้าสหกรณ์เพียง 2 เดือน โดยมองว่าเขาจะมุ่งเป้าหมายไปที่การทำลายกล้องวงจรปิดก่อน
 
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายธวัชชัย ไทยตัน กำนันตำบลนาบ่อคำ เปิดเผยว่า กลุ่มนี้จะมีเด็กคนหนึ่งเป็นหัวโจก และเป็นเด็กอันตรายกับชุมชน เพราะที่ผ่านมาไปงัดแงะขโมยของและตั้งกลุ่มแก๊ง ซึ่งทางโรงเรียนเคยเรียกมาตักเตือนแล้ว แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเดิมๆอยู่ ซึ่งการแจ้งความไม่ได้ต้องการจะแจ้งจับกุมอะไร แต่เป็นการป้องปรามไม่ให้เด็กเหล่านี้โตขึ้นมาเป็นปัญหาของสังคม 
 
มีรายงานข่าวว่า เด็กกลุ่มนี้จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มแค่ในโรงเรียน และจะก่อเหตุทำลายข้าวของของโรงเรียน แถมวันหยุดก็จะเข้ามาขโมยของในโรงเรียนด้วย
 
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/xQeW6B9c4Z4

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง