กลายเป็นดรามาร้อนทันที หลังจากที่คุณยายวัย 55 ปี ได้ร้องเอาผิดกับครูประจำชั้น ป.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม โดยอ้างว่า คุณครูใช้รองเท้าตบหลานสาวจนฟันร่วง
สาเหตุเพราะคัดลายมือภาษาไทยไม่สวย และหลานเพิ่งย้ายมาเรียนได้แค่ 2 วัน ล่าสุด ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ออกมาโต้กลับว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และขอให้คุณยายอย่าสร้างเรื่องเท็จ หากโรงเรียนและครูทำผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัย แต่หากเป็นเรื่องเท็จก็จะดำเนินการเอาผิดคืน
เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อคุณยายวัย 55 ปี ได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อขอความเป็นธรรมหลังจากเจ้าตัวได้เคยไปร้องทุกข์กับ ตำรวจ สภ.นาแก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครพนม เขต 1
คุณยายวัย 55 ปีท่านนี้ กล่าวอ้างว่า หลานสาววัย 7 ขวบ ได้ถูกครูประจำชั้น ป.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาแก ทำร้ายร่างกาย โดยใช้รองเท้าตบไปที่ใบหน้าเด็กจนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลัง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา และตนเองได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เอาผิดกับคุณครูคนนี้ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า
คุณยายท่านนี้ เปิดเผยว่า ตนเองได้ย้ายหลานกลางคันจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพราะมีปัญหาเรื่องการดูแลของครู ก่อนที่จะมาเรียนโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งหลานสาวได้ไปเรียนแค่ 2 วัน ก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ซึ่งหลานได้มาฟ้องว่าถูกครูประจำชั้นทำร้าย เหตุจากไม่พอใจที่คัดไทยลายมือไม่สวย จึงใช้รองเท้าตบที่ใบหน้า จนฟันหลุด 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลังอีก 2-3 ครั้ง
คุณยายบอกอีกว่า ตนไม่พอใจและได้พาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยต้องการให้โรงเรียนชดเชยเยียวยาเป็นเงิน 1 แสนบาท พร้อมแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาผิดครูประจำชั้น แต่สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงไม่มีความคืบหน้า
ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยไปพบกับครูแป้ง ซึ่งถูกคุณยายกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายหลานสาว ครูแป้ง บอกว่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และพร้อมจะให้มีการตรวจสอบ ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะตนบริสุทธิ์ใจ น้องนักเรียนพึ่งย้ายมาเรียนกลางคัน แค่ 2 วัน โดยยายมาฝากตนดูแลด้วยซ้ำ สุดท้ายไม่เข้าใจเจตนาที่ออกมากล่าวหาว่าตนทำร้ายหลาน
ส่วนเรื่องที่อ้างว่าตบจนฟันหลุด วันเกิดเหตุตนยังเห็นว่าน้องนักเรียนคนดังกล่าว นำฟันมาให้ดูว่าเป็นฟันน้ำนมที่หลุด ซึ่งตนไม่พบว่า มีเลือดไหลหรือบาดแผลใด ๆ พร้อมแนะนำให้ทิ้ง หรือเก็บไว้ จนวันต่อมากลายเป็นคนละเรื่องยายอ้างว่า ตนเป็นคนใช้รองเท้าตบหลาน
ครูแป้งบอกอีกว่า ตนเองอยากให้คุณยายทบทวนเรื่องที่กระทำอยู่ และที่ห่วงที่สุด ก็คืออนาคตของหลานสาว หากยายพูดเท็จมากล่าวหาคนอื่น ก็จะอยู่ในสังคมยาก เพื่อนนักเรียนจะไม่ยอมรับ ตนพร้อมที่จะขอพิสูจน์เพื่อความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง และยังหวังดีกับเด็กนักเรียนเสมอ
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามเพิ่มเติมกับผู้อำนวยการโรงเรียน ดร.หงษา วงค์จำปา เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงตั้งแต่วันเกิดเหตุ และจากการตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างเด็กแต่อย่างใด
ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังบอกอีกว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ยายออกมากล่าวหาว่า ตนยืนยันไม่ได้ปกป้องลูกน้อง หากผิดจริงพร้อมดำเนินการทางวินัยและเอาผิดตามกฎหมายอาญาด้วย แต่จากการสอบสวน ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน เป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน จึงขอวิงวอนให้คุณยายทบทวนหรือพูดคุยกันด้วยเหตุผล หากคุณยายไม่พูดความจริง ตนจำเป็นจะต้องเอาผิดคืน เพราะทำให้โรงเรียนเกิดความเสียหาย และฝากสังคมว่า อย่าฟังความข้างเดียว
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35