หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปมนายกฯ 8 ปี ผลสรุปว่ามติ 6 ต่อ 3 ให้ บิ๊กตู่อยู่ต่อ แนวทางการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป !?
วันที่ 30 ก.ย. 65 กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เผยว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินนิจฉัยให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯต่อ สำหรับตนคิดว่า ฝั่งรัฐบาลเองจะไม่มีแรงกระเพื่อมใด ๆ จะออกหัวออกก้อยอย่างไรก็แล้วแต่ ศาลฯตัดสินแล้วทุกอย่างจบ บ้านเมืองเราถึงจะสงบ ส่วนแรงกระเพื่อมจากฝั่งด้านนอกนั้น ตนคิดว่า มีอยู่แล้ว มันเป็นปกติที่จะมีคนไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามต้องคิดวอเคราะห์ความถูกต้องเป็นหลัก เหมือนตอนที่ตนก้มกราบ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอนนั้นตนทำเพื่อขอโทษ เพราะตนขัดคำสั่งท่าน โหวตสวนมติพรรค แต่ตนก็มีเหตุผลของตน เนื่องจากตนไม่เคยได้อะไรเลยจากการบริหารของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
ด้าน กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สำหรับตนคิดว่า น่าจะมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชารัฐเอง อย่างที่เราเห็นกันว่ามีการแยกไปตั้งภรรคใหม่ และคนภายในพรรคพลังประชารัฐ มีทั้งลาออก ย้ายพรรค ในปริมาณที่สังเกตุเห็นได้ว่ามีความผิดปกติภายในพรรค นอกจากนี้ยังต้องรอดูอีกว่าหลังจาก พล.อ. ประยุทธ์ กลับมารับหน้าที่นายกฯ จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีไหม เพราะว่ารัฐมนตรีหลายตำแหน่งก็ยังเป็นปัญหาอยู่ จะเกิดการชิงตำแหน่งกันขึ้น เนื่องจากตนเองก็ได้ยินเสียงนกเสียงกาจากในสภาฯ ว่า แม้อายุงานของรัฐบาลชุดนี้จะอยู่อีกไม่ถึง 180 วัน แต่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีก็เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล ถ้ายุบสภาฯก็ยังเป็นอดีตรัฐมนตรีเวลาขึ้นกล่าวพูดต่าง ๆ รวมทั้งโอกาสที่รัฐมนตรีนำงบประมาณก้อนสุดท้ายมาแจกจ่ายให้ประชาชน สามารถทำได้ แม้ตามกฎหมาย 180 วัน ของกกต. จะห้ามผู้สมัคร ส.ส. หรือตัว ส.ส. ไม่สามารถแจกของได้ ทำให้คนที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีมีโอกาสสร้างความประทับใจได้ ตรงนี้จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมแน่นอน
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตร เราจะเห็นได้ว่าคณะรัฐมนตรีที่ พล.อ. ประยุทธ์แต่งตั้งไว้ถูกรื้อ ชี้ให้เห็นได้ว่าภายในคณะรัฐมนตรีก็มีความเห็นแตกต่างกัน ทั้งนี้หลังจาก พล.อ.ประวิตรขึ้นมารักษาการแทนนายกฯ บรรยากาศคนภายในพรรคดีขึ้น และในมุมของตน มองว่าคนที่กุมอำนาจในพรรคฯ เป็น พล.อ.ประวิตร ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นน้อง อีกทั้งตอนเป็นทหาร พล.อ.ประวิตรก็ส่งเสริมมา ซึ่งในสายทหารการที่น้องจะขัดขืนพี่ มันเป็นไปได้ยาก แต่ความไม่พอใจก็คงมี
สำหรับผลงานของ พล.อ. ประยุทธ์ ตลอดระยะเวลา 8 ปี ตนพูดในฐานะชาวบ้าน พิสูจน์จากตัวเลขสถิติแล้ว ตัวเลขหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ตัวเลขหนี้ประเทศสูงขึ้น การเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน การส่งออกสินค้าเกษตร หรืออิเล็กทรอนิกส์ ตลาดหายไป เรากลายเป็นผู้ค้าที่ประเทศรอบด้านไม่หวาดกลัวอีกแล้ว ทั้งนี้ถ้าจะมองว่าโควิดทำให้ 3 ปีนี้แย่ลง แต่ก่อนหน้านั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรดี ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินรัฐบาลบอกว่าภายในปีไหน ๆ คนจนจะหมดไป ซึ่งตอนนี้ก็หมดไปจริง ตายหมดแล้ว สุดท้ายก็ต้องเปิดลงทะเบียนคนจน และมีคนลงทะเบียนเป็นหลักล้าน กลับกลายเป็นภูมิใจ เอามาเป็นผลงาน ทั้งที่ประชาชนไม่สามารถดูแลสภาพเศรษฐกิจของครัวเรือนตัวเองได้
กรุงศรีวิไล กล่าวเพิ่มว่า ตัว พล.อ.ประวิตร ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีปัญหากันแน่นอน และเขาทั้งคู่ใครได้อยู่ใกล้ต้องรักทุกคน ตัวพล.อ.ประวิตร ท่านไม่แข็งกระด่าง ไม่เคยดูถูกเหยียดหยามใคร หรือแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ตนมองว่าไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลง เพราะเหลือเวลาทำงานอีกแค่ไม่ถึง 180 วัน เข้าไปไม่ทำงาน จะเข้าไปทำไม แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านนายกฯ ขณะเดียวกัน เราก็ต้องให้โอกาสรัฐบาลที่มาจากทหารด้วย มันมาเจอวิกฤติโควิด มันเป็นกันไปทั่วโลก เศรษฐกิจเละกันทั้งโลก เป็นหนี้กันโลก น้ำมันก็แพงทั้งโลก สำหรับเรื่องการเตรียมตัวลงเลือกตั้งในปีหน้า(2566) คนในพรรคต่างคนต่างคิด แต่ว่าเอาแผนงานออกมาให้ประชาชนทราบเท่านั้นเอง
เพชร เผยเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม หลังการตัดสิน จะต้องมีกลุ่มคนลุกฮือขึ้นมาแน่นอน แต่เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความเห็นทางการเมือง แต่ตนกลัวอีกอย่างหนึ่งคือ ศาลฯไม่ได้ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มดำรงตำแหน่งวันที่เท่าไหร่ เนื่องจากว่าศาลฯระบุว่า นับว่าเป็นนายกฯตั้งแต่ 6 เม.ย. 60 แต่ยังอธิบายอีกว่าต้องมาจากการแต่งตั้งสมาชิกสภาฯ ซึ่งคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้งตอนปี 62 ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะต้องมาตีความกันอีกไหมว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ได้อีกกี่ปี
ส่วนเรื่องการหาเสียงลงเลือกตั้งปีหน้านั้น มีการอบรมผู้สมัครส.ส. ในแต่ละภูมิภาค และนโยบายที่เราเน้นมาก ๆ คือการกระจายอำนาจ เพราะเราเชื่อว่าการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมีงบประมาณ มีนโยบายของตัวเอง มันจะตรงกับความต้องการของท้องถิ่น และจะทำให้ท้องถิ่นสามารถยกระดับความเจริญขึ้นได้ เมื่อเป็นแบบนั้นคนในเมืองก็จะกลับไปที่ท้องถิ่น ทำให้ตัวเมืองเกิดความหนาแน่นน้อยลง การจราจร ปัญหาสังคมก็จะน้อยลง รวมถึงนโยบายการยกเลิกเกณฑ์ทหารด้วย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35