ผลกระทบที่เกิดจาก “พายุโนรู” ที่กำลังเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่แถบภาคอีสานตอนล่าง ต้องพบกับความเสียหายที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนอีกครั้งแล้ว
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า “พายุโนรู” ได้ก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งมีรายงานกว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยด้วย
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า “พายุโนรู” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ก.ย. ซึ่งก็คือวันนี้ และจะเข้าสู่บ้านเราทางภาคอีสานตอนล่าง แถบ ๆ จ.อุบลราชธานี ที่จะเป็นหน้าด่านในการรับพายุโนรู
ส่วนเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุโนรู เราจะมาไล่เรียงกันให้ดูกันอีกครั้ง โดยสำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย. มีระดับความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 75 นอต และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 80 นอต
จากนั้นในช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ย. เวลา 18.00 น. จะมีระดับความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 90 นอต และในวันนี้ 28 ก.ย. จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ซึ่งระดับความรุนแรงลดลงจากพายุไต้ฝุ่น จะเป็นพายุโซนร้อน มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 55 นอต และเมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง จะลดลงเหลือ 35 นอต อันนี้ที่ประเทศเวียดนามนะครับ
แต่ในวันพรุ่งนี้ คือ วันที่ 29 ก.ย. คาดจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย โดยระดับความรุนแรงจะลดลงจากพายุโซนร้อน เป็นดีเปรสชัน มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 30 นอต และจะสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในเวลา 12.00 น.ของวันพรุ่งนี้
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แถลงความคืบหน้าสถานการณ์พายุโนรูล่าสุด โดยพายุไต้ฝุ่นโนรู กำลังเคลื่อนตัวทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างรอยต่อเวียดนามและลาว มีศูนย์กลางอยู่ห่างจาก อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 200 กิโลเมตร และคาดว่า จะลดระดับเป็นดีเปรสชัน ก่อนจะเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในแนวของ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.คืนนี้
แม้พายุจะยังไม่เข้าสู่ประเทศไทย แต่หลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมกว่า 14 จังหวัด ก็ได้รับผลกระทบจากพายุโนรูแล้ว และคาดว่า เมื่อพายุโนรีเข้าสู่ประเทศไทยจะกลายเป็นดีเปรสชัน ทำให้ความเร็วลมจะลดลง แต่ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ราบเชิงเขา ลุ่มแม่น้ำ โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำมูล แม่น้ำชี อาจเกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
และในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พายุโนรูที่เคลื่อนตัวผ่านภาคอีสานตอนล่างไปแล้ว จะเคลื่อนตัวต่อไปยังบริเวณภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง โดยจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนภาคกลาง ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.สิงห์บุรี และ จ.อ่างทอง
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นโนรู ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกห่างจาก อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ประมาณ 243 กิโลเมตร จึงส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงในวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค.นี้
และเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งเตือนจากท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ว่า ผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี จะต้องทำการเผื่อเวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศใน จ.อุบลราชธานี มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลให้การจราจรติดขัด
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วง 13.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศฉบับที่ 14 ระบุว่า พายุโซนร้อน “โนรู” บริเวณแขวงสาละวัน ประเทศลาว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 90 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง บริเวณ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ในคืนนี้ และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35