จากกรณีเพจอยากดังเดียวจัดให้โพสต์คลิปคุณยายวัย 62 ปี ได้ระบายความอัดอั้น อ้างว่า ถูกตำรวจอุ้มไปทำร้ายจนตาบวมปิด พอไปแจ้งความโรงพักไหนก็ถูกเจ้าหน้าที่บ่ายเบี่ยง จนเวลาผ่านมานานกว่า 9 เดือน ก็ยังไม่ได้ความเป็นธรรม จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องออกมาแฉผ่านเพจ
คุณยายบัวสา วัย 62 ปี ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวที่เธออ้างว่า ถูกตำรวจสืบสวนรายหนึ่ง ทำร้ายร่างกายทุบตีจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของคุณยายบัวสา ใน อ.วารินชำราบ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนางบัวสา เล่าว่า ช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ตนกำลังจะออกไปตัดมันที่ไร่ ซึ่งมีชาย 2 คน อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะมาถามหาคนชื่ออ้อย ซึ่งตอนแรกตนเข้าใจว่า เป็นลูกสาวของตนที่ชื่อ “อ้อย” เหมือนกัน แต่ตนได้ตอบไปว่า ลูกสาวไม่อยู่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำที่กรุงเทพมหานคร และติดต่อไม่ได้ด้วย
ยายบัวสา เล่าอีกว่า ตำรวจ 1 ใน 2 คนที่มาถามหาคนชื่ออ้อย ตนจำได้ว่า เขาชื่อว่า “จ่าน้อย” โดยจ่าน้อยได้พยายามสอบถามว่า อ้อยอยู่ไหน ให้โทรหาเดี๋ยวนี้ ตนเองก็ยังยืนยันว่าติดต่อไม่ได้ เพราะเรือนจำไม่ให้ใช้โทรศัพท์ จ่าน้อยก็ไม่ยอมเชื่อจนมีปากเสียงกัน
และสุดท้ายจ่าน้อยได้ขอค้นบ้านจนไปพบตู้สล็อตของลูกสาวที่เคยเอามาลงไว้ก่อนติดคุก จ่าน้อยจึงได้ยึดแล้ว นำตัวไปห้องสืบสวน แต่ระหว่างเดินทางจ่าน้อยก็ยังไม่ยอมหยุด คอยเค้นถามและ พยายามให้ตนติดต่อลูกสาวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนก็ยืนยันคำเดิม
สถานการณ์เริ่มแย่ลง เพราะจ่าน้อยได้ตบเข้าไปที่บ้องหูของตน จนกระแทกกับตัวรถ เมื่อถึงห้องสืบสวน ตนถูกทำร้ายร่างกายอีกหลายครั้ง จนมีตำรวจเอารูปถ่ายของคนชื่ออ้อยตัวจริงที่จ่าน้อยมาตามหา เอามาให้ตนดูว่า รู้จักไหม ตนจึงบอกว่า คนในรูปชื่ออ้อยจริง แต่ไม่ใช่ลูกสาวของตน เป็นน้องสาวของลูกเขย ซึ่งตนก็ไม่รู้อยู่ที่ไหนเหมือนกัน
พอรู้ความจริงจากปากตน จ่าน้อยจึงเริ่มมีท่าทีอ่อนลง ก่อนจะชวนคุยเรื่องค่าปรับตู้สล็อต จำนวน 30,000 บาท โดยตู้สล็อตนั้น คุณยายบัวสา อ้างกับทีมข่าวว่า เจ้าของตู้สล็อตตัวจริง ได้เอาเงินมาเครียร์ให้ แต่ไม่รู้เคลียร์กับใคร และเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวออกมา (เรื่องตู้สล็อตเป็นข้อมูลที่คุณยายกล่าวอ้างกับทีมข่าวเท่านั้น)
ทีมข่าวได้สอบถามคุณยายบัวสา ว่าได้แจ้งความที่ไหนบ้าง คุณยายบัวสา บอกว่า ได้แจ้งความที่ สภ.วารินชำราบ ท้องที่ภูมิลำเนา แต่กลับถูกปฏิเสธ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี
นอกจากนี้ คุณยายยังบอกอีกว่า ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนหลักฐานการตรวจร่างกายนั้น คุณยายบัวสา บอกว่า ได้ไปตรวจ แต่ไม่ได้รับใบรับรองแพทย์ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีเสียที
สำหรับ จ่าน้อย ซึ่งเป็นคู่กรณีที่ยายบัวสากล่าวอ้างนั้น เบื้องต้นทีมทราบว่า เป็นสารวัตงานสืบสวน ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว โดยอยู่ระหว่างการติดตามข้อเท็จจริง
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35