หญิงสาวรายหนึ่งเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรพล เพื่อขอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล ซึ่งสาเหตุที่ผู้หญิงคนนี้ต้องเข้าแจ้งความเอาผิดกับตำรวจ เพราะว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านของเธอ สามารถบันทึกภาพในช่วงที่เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาภายในบริเวณบ้านของเธอในยามวิกาล แถมยังมีการยัดวัตถุอะไรบางอย่างไว้ใต้รถยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้านอีกด้วย
ภาพวงจรปิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ได้บันทึกภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล ได้ขับรถกระบะตราโล่ห์ มาจอดบริเวณหน้าบ้านของเธอ ก่อนจะส่องไฟฉายเข้ามาในบ้าน และได้ถอยรถออกไป แต่เพียงไม่นาน รถกระบะตราโล่ห์คันเดิมก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านจุดเดิม จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง เปิดประตูรถลงมา ก่อนจะมุ่งตรงไปผ่านแนวประตูรั้วบ้านของเธอ และตรงมาที่รถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณบ้าน และทำท่าทางเหมือนยัดวัตถุอะไรบางอย่างเข้าไปใต้รถเธอ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.พล จ.ขอนแก่น โดย น.ส. กชกร เจ้าของบ้าน พร้อมด้วยทนายความ ได้พาทีมข่าวเดินดูจุดที่รถจอด และจุดที่รถตำรวจขับมา จากการตรวจสอบที่เกิดพบว่า เป็นจุดจอดรถของบ้าน โดยมีรถยนต์สีดำ จอดอยู่ 2 คน คันแรกที่จอดใกล้ประตูรั้วทางเข้า คือ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ และคันที่สอง เป็นรถยนต์ยี่ห้อ BMW
น.ส. กชกร กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุเกิดขึ้นเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 24 ก.ย.65 โดยตอนแรกเจ้าหน้าที่ได้ขับรถผ่านหน้าบ้านตนเองไป ก่อนจะถอยมาบริเวณหน้าบ้านและส่องไฟฉายเข้ามา ก่อนจะถอยรถออกไป แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 3 นาที คือ เวลา 00.33 น. รถกระบะของเจ้าหน้าที่ก็ขับมาจอดหน้าบ้านอีกครั้ง แต่รอบนี้ตำรวจที่นั่งบริเวณเบาะหลังของรถก็เดินลงจากรถ และเดินเข้าไปในลานจอดภายในบ้านตัวเอง และได้นั่งยอง ๆ โดยมือข้างขวาเหมือนกับจะควานหาสิ่งของ หรือยัดวัตถุบางอย่าง จากนั้นก็เดินขึ้นรถ และถอยรถออกจากซอยไป
จากพฤติกรรมที่ตนเองได้เห็นในภาพวงจรปิด ตนจึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสเกี่ยวกับพฤติกรรมของตำรวจกลุ่มนี้ เพราะการที่เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาภายในบริเวณบ้านยามวิกาลแบบนี้ มีพฤติกรรมน่าสงสัย และขอยืนยันว่าจะร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้ดำเนินคดีกับตำรวจที่ปรากฏตามภาพในวงจรปิดตามกฎหมาย
หลังจากที่เจ้าของบ้านสาวเข้าแจ้งความแล้ว ทาง สภ.พล ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักเข้ามาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ และได้ให้มุดเข้าไปดูสิ่งแปลกปลอมใต้ท้องรถ แต่ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ก่อนที่จะได้รับแจ้งจากตำรวจชุดปราบปราม สภ.พล ว่า กรณีที่เกิดขึ้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่หลังได้รับแจ้งว่า ในคืนดังกล่าวมีเหตุยิงปืนอยู่ใกล้บริเวณนี้ และคนยิงปืนหลบหนีมาทางนี้ เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัวมาตามเส้นทางนี้ แต่ก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด
ด้านนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล เผยว่า หลังจากดูคลิปจากวงจรปิด ตนเองก็เกิดความคลางแคลงใจเหมือนกัน เพราะตำรวจควรรู้ว่าไม่สามารถเข้าบ้านประชาชนในยามวิกาลได้ ขนาดมีหมายจับ หมายค้น ยังต้องปฏิบัติหน้าที่เวลากลางวัน แต่ตามคลิปเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน ที่สำคัญตำรวจจะเข้าไปนั่งทำอะไรที่ลานจอดรถในบ้านของประชาชน และหากเจ้าของบ้านไม่ยินยอมและต้องการแจ้งความจับตำรวจสายตรวจรายนี้ จึงควรดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะตามพฤติกรรมมีความชัดเจนในข้อหา บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
ด้าน พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล ขอชี้แจงเรื่องนี้ว่า ไม่ใช่จู่ ๆ ตำรวจจะบุกรุกบ้านใครก็ได้ แต่เนื่องจาก คืนวันที่ 23 ก.ย. เวลา 23.43 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีชายวัยรุ่นเอาอาวุธปืนไปข่มขู่คู่อริที่ร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวทราบว่า คนก่อเหตุมีชื่อว่า “ยีน” ขับขี่รถยนต์สีดำ ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีออกจากร้านไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงออกตามหาตัวนายยีน โดยขับรถเข้าไปในซอยดังกล่าว กระทั่งพบรถเก๋งสีดำจอดเรียงกันอยู่ 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ลักษณะคล้ายที่จอดรถของหอพัก บ้านเช่า และประตูทางเข้าไม่ได้ปิด ตำรวจสายตรวจจึงลงจากรถ เข้าไปจับดูท่อไอเสียว่า ร้อนหรือไม่ เมื่อจับแล้วไม่ร้อนก็กลับออกไป
พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ ยังบอกอีกว่า หากเจ้าของบ้านยังรับไม่ได้ และประสงค์จะดำเนินคดี ก็ต้องปล่อยไปตามขบวนการของกฎหมาย โดยให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่า ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ เป็นการบุกรุกหรือไม่ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35