ครอบครัวร้องสื่อ ยันน้องสาวไม่ได้แซงซ้าย ! หลังถูกกระบะตัดหน้า กระโหลกร้าว เสี่ยงเป็นเจ้าหญิงนิทรา : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

พี่สาวร้อง น้องขี่จักรยานยนต์ถูกกระบะตัดหน้า กระโหลกร้าว นอนห้องไอซียูเสี่ยงเป็นเจ้าหญิงนิทรา คู่กรณีอ้างมอเตอร์ไซค์ขับแซงซ้าย 

 

 

            วันที่ 26 ก.ย. 65 ญาณญา วรจิระกรวิช (จุ๋ม) พี่สาวของผู้บาดเจ็บ  เล่าว่า น้องถูกรถชนตั้งแต่ 31 ส.ค. หลังจากถูกชนมีอาการสมองบวมทั้ง 2 ข้าง ต้องรีบผ่าตัดด่วน ทั้งนี้น้องใส่หมวกกันน็อค แต่ถูกชนจนหมวกกันน็อคหลุดหัวเลยกระแทกพื้น เลยกลายเป็นว่ากระโหลกศีรษะแตก จากการสอบถามแม่ค้าที่อยู่แถวที่เกิดเหตุ เขาเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเขาไม่ได้ลงมาดูน้องเลยว่าเป็นยังไง แม่ค้าต้องเอาร่มไปกางให้เพราะว่าฝนตก แม่ค้ายังเล่าอีกว่าน้องพยายามจะลุก แต่ได้ห้ามไว้ กลัวว่าจะมีกระดูกหัก แต่ไม่นานน้องก็ชักเกร็งแล้วก็หมดสติไป 

 

 

            ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุเขาอ้างว่าน้องของตนขับแซงซ้ายขึ้นมา แต่จากที่ตนดูภาพกล้องวงจรปิด ตนว่าไม่ใช่ อีกทั้งตำรวจยังบอกว่าภาพจากกล้องในรถมันได้ยินเสียงว่าเขาเปิดไฟเลี้ยวมาแต่ไกล แต่ตนและครอบครัวฟังแล้วไม่มีใครได้ยินเลย ตนอยากได้ไฟล์จากเขามาฟังให้ชัด ๆ แต่เขาไม่ให้ ได้มาเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ตนได้ไปร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาได้แนะนำให้ตนรีบไปเอาไฟล์กล้อง ก่อนที่มันจะถูกลบไป แต่ตำรวจกลับบอกว่า ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมทำไม ทำไมไม่คุยกับร้อยเวรก่อน ถ้ามีอะไรก็คุยกัน อย่ามาแทงข้างหลัง เขาเลยขอให้แม่ถอนคำร้อง แต่ตนบอกว่าจะถอนให้ถ้าได้ไฟล์กล้อง 

 

            สำหรับเรื่องของคดี ตำรวจบอกว่า ไม่ใช่เขาไม่ทำเรื่องแต่เขาต้องรอน้องมาให้ปากคำก่อน เพราะมันสามารถฟ้องได้ครั้งเดียว ถ้าน้องเกิดเสียชีวิตจะไม่สามารถฟ้องเพิ่มได้ ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ เพิ่งจะได้คุยกับคู่กรณีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 ก.ย.) โดยคู่กรณีจะเยียวยาเบื้องต้น 2 หมื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาก็มาเยี่ยมน้อง 2 รอบ ได้เอาเงินให้แม่เป็นค่าสินน้ำใจ 5 พัน ไม่เกี่ยวกับคดี

 

 

            ขณะที่อาการน้องตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ยังคงอยู่ในห้องไอซียู คุณหมอแจ้งว่าในกรณีที่ดีที่สุดก็คือเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่ที่ต้องดูอาการใกล้ชิด เพราะว่า ความดันยังไม่คงที่ มีอาการหอบ และบริเวณที่เจาะคอมันติดเชื้อ หมอต้องให้ยาฆ่าเชื้อเพิ่มทุกวัน และให้ยากันชัก อีกทั้งต้องให้ยานอนหลับ เพื่อให้เขาพักผ่อน 

 

 

            ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เคสนี้จริง ๆ แล้ว เราเป็นผู้เสียหาย ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับตัวของคนที่ขับรถกระบะ ข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าเกิดว่าน้องที่ถูกชนเสียชีวิต ต้องดำเนินคดีแจ้งข้อหาเพิ่ม โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสน ซึ่งตำรวจสามารถแจ้งข้อหาได้ก่อนเลย ถ้าเกิดน้องเสียชีวิตจริง ๆ ก็มาแจ้งข้อหาเพิ่มได้  

 

 

            ฟาก พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค เผยว่า เคสนี้พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ที่สำคัญต้องให้ความสำคัญกับคนเจ็บ เขายังไม่สามารถให้การได้ และแพทย์เองก็ยังไม่ได้ลงความเห็น แต่ได้สอบสวนเบื้องต้นแล้ว ภาพหลักฐานก็มีหมด เพียงแต่รอน้องคนเจ็บให้การได้ ส่วนประเด็นที่ว่าคนเจ็บ แซงซ้ายมาหรือไม่ เรายังไม่สามารถสรุปได้ เราไม่ใช่ศาลไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูกได้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน ขอให้ผู้เสียหายใจเย็น