logo เงินทองของจริง

อยากมี Passive Income ทำอย่างไร - Retention หรือ Refinance แบบไหนเหมาะกับเรา

เงินทองของจริง : Passive Income ถือว่าเป็นคำยอดฮิต เพราะ คนในยุคปัจจุบัน มีความต้องการที่อยากจะมีความสุขทางการเงินเร็ว แล้วมันคืออะไร สำคัญขนาดไห เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,ทิน โชคกมลกิจ,เงินทองของจริง7HD,เงินทองของจริง,The standard,เรื่องเงิน,เรื่องทอง,CH7HDNEWS,TERODigital,ข่าวช่อง7,กด35,ch7hdnews,ช่อง7,ข่าวล่าสุด,เดอะสแตนดาร์ด,เศรษฐกิจ,หนี้สิน,เงินออมเงินทองของจริง,เทโรเอ็นเทอร์เทนเม้นท์,ช่อง7HD,CH7HDNEWS,เดอะสแตนดาร์ด,เศรษฐกิจ,ทิน โชคกมลกิจ,เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,หนุ่ม Money Coach,ปัญหาปากท้อง,การออม,ออมเงิน,การลงทุน,ลดหนี้,ปลดหนี้,รถยนต์,EV,บัตรเครดิต,Retention,Refinance,ลดอัตราดอกเบี้ย,ผ่อนบ้าน,Passive Income,Active Income,กองทุน

284 ครั้ง
|
23 ก.ย. 2565
“Passive Income” ถือว่าเป็นคำยอดฮิต เพราะ คนในยุคปัจจุบัน มีความต้องการที่อยากจะมีความสุขทางการเงินเร็ว แล้วมันคืออะไร สำคัญขนาดไหนในชีวิต เงินทองของจริงมีคำตอบ
 
เงินทองของจริง : อยากมี Passive Income ทำอย่างไร
 
การแบ่งรายได้จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ 
 
1. Active Income การทำงานหาเงิน เช่น พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ ส่งงานเสร็จก็ได้เงินกลับมา  
 
2. Passive Income คือ รายได้จากทรัพย์สิน คนที่จะมีได้ ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างหนึ่ง และเอาทรัพย์สินตรงนี้ไปใช้ประโยชน์สร้างรายได้ขึ้นมา เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์ 
 
จะสังเกตได้ว่า เราจะมีรายได้จาก Passive Income ก็ต่อเมื่อ เป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างอย่าง การที่มีรายได้ทั้งทาง Passive Income, Active Income ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ลืมว่า ทรัพย์สินต่าง ๆ สามารถด้อยค่าได้เหมือนกัน แต่มองในมุมหนึ่ง เป็นเครื่องแรงทำให้ได้พัก 
 
Active Income ก็สำคัญเหมือนกัน รายได้จากการทำงาน เป็นรายได้เสริมให้กับตัวเอง ในอีกมุมทำให้ชีวิตมีคุณค่า ดีที่สุดคือ ผสมผสาน มีรายได้จากหลากหลายช่องทาง 
 
เงินทองของจริง : อยากมี Passive Income ทำอย่างไร
 
วิธีการสร้าง Passive Income คือ มาจากกสรออม เอาเงินไปซื้อหุ้น กองทุนปันผล หรือลงทุนอสังหาฯ หรือในปัจจุบัน การสร้างค่าลิขสิทธิ์
 
1.ฝากเงิน ซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน 
2.ซื้อหุ้น 
3.มีทรัพย์สินให้เช่า 
4.สร้างค่าลิขสิทธิ์ของตัวเอง เช่น ถ่ายรูป YouTube
 
 
 
ผู้ผ่อนบ้านควรรู้ เมื่อผ่อนครบ 3 ปี อยากลดอัตราดอกเบี้ย วิธี Refinance และ Retention 2 วิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร เงินทองของจริงมีคำตอบ
 
เงินทองของจริง : อยากมี Passive Income ทำอย่างไร
 
Refinance คือ การชำระเงินกู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมดด้วยเงินกู้ใหม่ และใช้สินทรัพย์ตัวเดิมเป็นหลักประกัน โดยขอกู้เงินจากธนาคารแห่งใหม่เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ เป้าหมายของการรีไฟแนนซ์ คือ เราจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนลดลง แต่อาจจะต้องแลกมากับการเตรียมเอกสารใหม่เพื่อขอยื่นเรื่อง และอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าจำนอง ค่าประกัน ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น แต่บางครั้งเมื่อลองคำนวณค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยดูแล้ว อาจจะมียอดผ่อนต่อเดือนน้อยกว่าการ Retention ก็เป็นได้
 
เงินทองของจริง : อยากมี Passive Income ทำอย่างไร
 
Retention คือ การไปต่อรองขอลดดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเดิมที่ผ่อนอยู่ โดยทางธนาคารจะตรวจสอบประวัติการผ่อนชำระของเดิมผู้กู้ประกอบด้วย จุดเด่นของ Retention คือ การที่ผู้กู้ได้ดำเนินธุรกรรมกับธนาคารเดิม ดังนั้นจึงไม่ต้องมีภาระในการจัดเตรียมเอกสารใหม่ ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติไม่นาน เพราะธนาคารมีข้อมูลของเราอยู่แล้วนั่นเองครับ ส่วนข้อเสียคือจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยไม่เยอะ โดยอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
 
โดยกระบวนการทั้งสองก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ตามข้อมูลที่ขึ้นให้อยู่ที่หน้าจอในขณะนี้เลยนะครับ ถ้าหากคุณผู้ชมกำลังผ่อนบ้าน หรือเริ่มมีความคิดที่จะกู้บ้าน ก็สามารถพิจารณาเลือกได้ใช้ตามความเหมาะสมทางการเงินของแต่ละคน
 
ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
 
 
รับชมผ่าน Youtube https://youtu.be/go37KqiTWaE