“Passive Income” ถือว่าเป็นคำยอดฮิต เพราะ คนในยุคปัจจุบัน มีความต้องการที่อยากจะมีความสุขทางการเงินเร็ว แล้วมันคืออะไร สำคัญขนาดไหนในชีวิต เงินทองของจริงมีคำตอบ
การแบ่งรายได้จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1. Active Income การทำงานหาเงิน เช่น พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ ส่งงานเสร็จก็ได้เงินกลับมา
2. Passive Income คือ รายได้จากทรัพย์สิน คนที่จะมีได้ ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างหนึ่ง และเอาทรัพย์สินตรงนี้ไปใช้ประโยชน์สร้างรายได้ขึ้นมา เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์
จะสังเกตได้ว่า เราจะมีรายได้จาก Passive Income ก็ต่อเมื่อ เป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรบ้างอย่าง การที่มีรายได้ทั้งทาง Passive Income, Active Income ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ลืมว่า ทรัพย์สินต่าง ๆ สามารถด้อยค่าได้เหมือนกัน แต่มองในมุมหนึ่ง เป็นเครื่องแรงทำให้ได้พัก
Active Income ก็สำคัญเหมือนกัน รายได้จากการทำงาน เป็นรายได้เสริมให้กับตัวเอง ในอีกมุมทำให้ชีวิตมีคุณค่า ดีที่สุดคือ ผสมผสาน มีรายได้จากหลากหลายช่องทาง
วิธีการสร้าง Passive Income คือ มาจากกสรออม เอาเงินไปซื้อหุ้น กองทุนปันผล หรือลงทุนอสังหาฯ หรือในปัจจุบัน การสร้างค่าลิขสิทธิ์
1.ฝากเงิน ซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน
2.ซื้อหุ้น
3.มีทรัพย์สินให้เช่า
4.สร้างค่าลิขสิทธิ์ของตัวเอง เช่น ถ่ายรูป YouTube
ผู้ผ่อนบ้านควรรู้ เมื่อผ่อนครบ 3 ปี อยากลดอัตราดอกเบี้ย วิธี Refinance และ Retention 2 วิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร เงินทองของจริงมีคำตอบ
Refinance คือ การชำระเงินกู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมดด้วยเงินกู้ใหม่ และใช้สินทรัพย์ตัวเดิมเป็นหลักประกัน โดยขอกู้เงินจากธนาคารแห่งใหม่เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ เป้าหมายของการรีไฟแนนซ์ คือ เราจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนลดลง แต่อาจจะต้องแลกมากับการเตรียมเอกสารใหม่เพื่อขอยื่นเรื่อง และอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าจำนอง ค่าประกัน ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น แต่บางครั้งเมื่อลองคำนวณค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้ง อัตราดอกเบี้ยดูแล้ว อาจจะมียอดผ่อนต่อเดือนน้อยกว่าการ Retention ก็เป็นได้
Retention คือ การไปต่อรองขอลดดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเดิมที่ผ่อนอยู่ โดยทางธนาคารจะตรวจสอบประวัติการผ่อนชำระของเดิมผู้กู้ประกอบด้วย จุดเด่นของ Retention คือ การที่ผู้กู้ได้ดำเนินธุรกรรมกับธนาคารเดิม ดังนั้นจึงไม่ต้องมีภาระในการจัดเตรียมเอกสารใหม่ ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติไม่นาน เพราะธนาคารมีข้อมูลของเราอยู่แล้วนั่นเองครับ ส่วนข้อเสียคือจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยไม่เยอะ โดยอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
โดยกระบวนการทั้งสองก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ตามข้อมูลที่ขึ้นให้อยู่ที่หน้าจอในขณะนี้เลยนะครับ ถ้าหากคุณผู้ชมกำลังผ่อนบ้าน หรือเริ่มมีความคิดที่จะกู้บ้าน ก็สามารถพิจารณาเลือกได้ใช้ตามความเหมาะสมทางการเงินของแต่ละคน
ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35