บุกรวบ ! หนุ่มลักลอบขาย “ปลาปิรันยา” กลางกรุง หวั่นหลุดทำลายระบบนิเวศ

505 ครั้ง

20 ก.ย. 2565

แชร์ข่าวไปที่

บุกรวบหนุ่มลักลอบค้าปลาปิรันยากลางกรุงฯ เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ทางน้ำ พบ เป็นกลุ่มปลาปิรันย่าแดงสายพันธุ์ดุร้ายลำดับต้น ๆ

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และ เจ้าหน้าที่กรมประมง บุกจับ นายอภิสิทธิ์ อายุ 21 ปี เจ้าของบ้าน ที่ลักลอบขายปลาต้องห้าม อย่าง ปลาปิรันยา

การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในย่านสายไหม กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่า บ้านหลังนี้ลักลอบเลี้ยงปลาปิรันยาเพื่อการค้า และ เป็นจุดส่งมอบ โดยติดต่อประกาศซื้อขายกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และ เพจเฟซบุ๊ก จากการตรวจค้น พบ ปลาปิรันยา 6 ตัว ขนาด 6-7 เซนติเมตร ถูกเลี้ยงอยู่ในตู้ปลา เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

นายอภิสิทธิ์ รับสารภาพว่า รับซื้อปลาปิรันยามาจากเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้นำเข้ามาจาก สปป.ลาว และนำมาเลี้ยงไว้เพื่อขายต่อให้ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยกำหนดราคาตามขนาดและความสวยงาม ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลถึงเพจเฟซบุ๊กที่ผู้ต้องหาสั่งซื้อปลาปิรันยามา รวมทั้ง ลูกค้าที่ซื้อปลาปิรันยาจากผู้ต้องหาไป ซึ่งตรวจสอบพบว่า ได้ขายให้ลูกค้าไปหลายรายแล้ว จำนวนเกือบ 20 ตัว

กรมประมง เผย ปลาปิรันยา เป็นปลาน้ำจืด มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้และแอฟริกา มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ เมื่อกินอาหารจะใช้วิธีล่าด้วยการพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว และ รุมกัดแทะ จนถูกขนานนามว่า “เพชฌฆาตแห่งลุ่มน้ำจืด” สามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่เขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย

หากหลุดรอดลงแหล่งน้ำธรรมชาติจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก เพราะ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำพื้นเมืองแล้ว ยังเป็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ จนก่อให้เกิดความสูญเสียต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง เป็นอันตรายต่อประชาชน ที่ลงไปใช้ประโยชน์ในแหล่งน้ำสาธารณะด้วย

ดังนั้น การครอบครองปลาปิรันยาเป็นความผิดตามกฎหมาย แม้กระทั่งนำเข้ามาในราชอาณาจักรก็ผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง โทษปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของปลาปิรันยา หากพบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบเพาะเลี้ยงแจ้งได้ที่ กรมประมง โทร.0-2561-4689 หรือ สำนักงานประมงจังหวัดทั่วประเทศ

ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35