TikTok รายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวคุณยายพาวัย 80 ปี ที่ออกมาขอความช่วยเหลือว่าโดนหลานตัวเองทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับหลานสาว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าห้องน้ำตลาดเทศบาลนครนครราชสีมา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์
แม่ค้าขายไก่ทอด เผยว่า ตนเองและคุณยายพา เคยรู้จักกัน เมื่อก่อนคุณยายพา เคยเป็นแม่ค้าขายขนมข้าวต้มมัดอยู่ในตลาดเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมา ตอนนี้คุณยายไม่ได้ขายของที่ตลาดแล้ว เนื่องจากมีอายุเยอะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ทราบว่าไปอยู่บ้านกับหลานสาว
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเองและกลุ่มแม่ค้าได้เห็นคุณยายนั่งตัวสั่น ตาปูด หน้าผากและใบหน้าซ้ายเขียวช้ำ นั่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงเข้าไปสอบถามว่าไปโดนอะไรมา คุณยาย เล่าว่า โดนหลานสาวทำร้ายร่างกายมา กลุ่มแม่ค้าเลยจะพาคุณยายไปโรงพยาบาล แต่คุณยายปฏิเสธ อยากให้พาไปแจ้งความ ตนเองจึงได้แจ้งไปยังประธานชุมชนในพื้นที่ ให้มาดูคุณยาย ประธานชุมชนมาถึงจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังกล่าว ยายก็ยังยืนยันว่าถูกหลานสาวทำร้ายจริง อยากให้พาไปแจ้งความ ประธานชุมชนจึงได้พาคุณยายพาไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา และได้นำเรื่องราวลงในสื่อโซเชียล
แม่ค้าขายไก่ทอด ยังเล่าอีกว่า รู้สึกตกใจที่เห็นคุณยายมีสภาพแบบนี้ รู้สึกสงสาร เพราะคุณยายตัวคนเดียว ไม่มีลูก ไม่มีสามี เพิ่งจะมาอาศัยอยู่กับหลานสาวตอนที่เลิกขายขนม ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอยากจะถามหลานสาวว่าทำไมถึงได้ทำคุณยายขนาดนี้ ทั้งนี้จึงอยากฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาตรวจสอบด้วย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านเพ็ญมาศ ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พบนางเกษราภรณ์ มหาอุดม หรือฝน หลานสาวที่ยายพาอ้างว่าเป็นคนทำร้าย เล่าว่า ยายภาเป็นน้องสาวของแม่ อาศัยอยู่กับคุณแม่ของตน เมื่อแม่ตนได้เสียชีวิต ยายพาจึงไม่มีคนอยู่ด้วย เนื่องจากไม่มีสามีและครอบครัว ตนสงสาร จึงชวนยายพามาเลี้ยงดูที่บ้านประมาณ 3-4 ปีแล้ว
โดยนิสัยของยายภาชอบโวยวายทำร้ายสิ่งของภายในบ้าน ก่อนหน้านี้ได้บอกว่าจะทุบรถ ถ้าไม่ปล่อยให้ออกไปข้างนอก แต่ด้วยยายภามีอายุเยอะแล้ว และมีโรคประจำตัว ตนเป็นห่วงว่า ถ้าออกไปข้างนอกกลัวจะไปประสบอุบัติเหตุ หรืออาการกำเริบ จึงได้ล็อกประตูรั้วเอาไว้ แต่ยายภาก็โวยวาย และตัวเองจึงได้ถ่ายคลิปไว้
นางเกษราภรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีคนถ่ายคลิปยายภาอ้างว่าถูกหลานทำร้าย ตนขอปฏิเสธว่า ไม่เคยทำร้ายยายภาแต่อย่างใด ส่วนรอยช้ำบนใบหน้า คาดว่าน่าจะเกิดจากยายภาเอาศีรษะและใบหน้าไปกระแทกประตูรั้วหน้าบ้านหรือรถที่จอดอยู่ที่บ้าน เพราะยายภาเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ต่อมาตนเองก็เห็นว่ามีรอยช้ำที่ใบหน้า จึงได้โทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลว่า อาการแบบนี้รุนแรงหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งว่าเป็นอาการที่เกิดจากคุณยายกินยาสลายลิ่มเลือด มีรอยฟกช้ำเล็กน้อย จะทำให้เกิดรอยช้ำขนาดใหญ่ได้
จึงรู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางเกษราภรณ์ กล่าวต่อว่า สังคมมองว่าตนเองเป็นคนทำร้ายยาย ก่อนหน้านี้คุณยายป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกฝั่งซ้าย และมีโรคความดันนอนติดเตียงประมาณ 2 เดือน ตนและครอบครัวก็เป็นคนดูแลมาตลอด เวลาไปทำงานก็ต้องรีบกลับมาป้อนข้าวป้อนน้ำคุณยาย เป็นไปไม่ได้เลยที่ตนจะทำร้ายคุณยาย
ทั้งนี้ อุปนิสัยคุณยายภาเป็นคนชอบเรียกร้องความสนใจและชอบไปบอกกับคนอื่นว่าตนเองทำร้ายร่างกาย เพื่อนบ้านในชุมชนรู้ดีว่าตนเองดูแลคุณยายอย่างดี จึงวอนขอความเห็นใจจากสังคม อย่าเพิ่งฟังความข้างเดียว ขอให้ฟังข้อเท็จจริงก่อนที่จะวิจารณ์ทำให้ตนเองเสียหาย
ตอนนี้คุณยายได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และหลังจากนี้ถ้าคุณยายไม่อยากอยู่กับเธอก็จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับคุณยายไปช่วยดูแลต่อไป
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35