แม่ใจสลาย หลังลูกชายคนแรกเสียชีวิต เพราะสำลักน้ำคร่ำ ข้องใจ หมอวิดีโอคอลสอนพยาบาลทำคลอดได้หรอ
วันที่ 8 ก.ย. 65 น้อย อุ่นน้อย (แอน) แม่เด็กทารกที่เสียชีวิต เล่าว่า ตนเจ็บท้องตั้งแต่ นที่ 19 ส.ค. 65 จึงเดินทางไปโรงพยาบาล แต่หมอให้กลับบ้าน ตกดึกก็กลับมาปวดท้องอีกครั้ง และปวดขึ้นเรื่อย ๆ จึงไปโรงพยาบาลอีกรอบ พยาบาลแจ้งว่า มดลูกเปิด 2 ซม. และมีความดันสูง หมอเลยให้แอดมิด 1 คืน ตนได้มีการขอให้ผ่าคลอด เพราะปวดจนทนไม่ไหว แต่พยาบาลตอบว่า ที่นี่คลอดธรรมชาติทั้งหมด ถ้าจะไปที่อื่น เราต้องเซ็นปฏิเสธการรักษาโรงพยาบาลนี้ และเราต้องเดินทางไปเอง ตนจึงตัดสินใจอยู่ต่อ เพราะไม่มีเงิน วันรุ่งขึ้น ช่วงเที่ยง พยาบาลมาพาตนไปทำคลอด ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ลูกก็ยังไม่ออกมา โดยพยาบาลก็เริ่มมีการพูดหยาบคาย ดุตน ว่าทำไมไม่เบ่ง แต่ตนยืนยันเลยว่าตอนนั้นเบ่งจนหมดแรงแล้ว
จากนั้นพยาบาลเขาก็โทรตามหมอ พอหมอตรวจเสร็จก็จะส่งตัวไปผ่าคลอด แต่มาเกิดเรื่องว่า โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ที่จะส่งตัวไปผ่าคลอด หมอผ่าคลอดเขาออกเวรไปแล้ว หมอที่โรงพยาบาลนี้เขาเลยวิดีโอคอลคุยกับหมอโรงพยาบาลแห่งที่ 2 เพื่อผ่าคลอด สุดท้ายลูกก็ออกมาได้โดยการใช้เครื่องดูด แต่ตนสังเกตุได้ว่าตอนนั้นลูกไม่ร้อง ไม่ดิ้นเหมือนเด็กปกติ เขาก็พยายามตีลูกตนให้ตื่น
ด้าน พรชัย ลายเงิน (เป้) พ่อเด็กทารกที่เสียชีวิต เล่าว่า พอคลอดเสร็จ หมอแจ้งว่า ลูกของตนอาการไม่ค่อยดี เพราะสำลักน้ำคร่ำ ตัวเหลือง อาจทำให้เซลล์สมองเสียหาย จำเป็นต้องส่งต่อไปอีกโรงพยาบาลหนึ่งเพื่อรักษา พอไปโรงพยาบาลแห่งที่ 2 เขาประเมินว่า ต้องส่งไปที่โรงพยาบาลสระบุรี เพื่อทำการคูลลิ่ง รักษาเซลล์สมองไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ ใช้เวลารักษาที่นั่นประมาณ 5-6 วัน
วันที่ 5 ก.ย. พยาบาลแจ้งว่า ถ้ารักษาต่อลูกจะอาการโคม่ามาก เพราะเซลล์สมองมันตายแล้ว ถึงรักษาไปน้องก็ต้องอยู่ติดเตียง ต้องเจาะคอ เจาะท้อง ตนเลยคิดว่าถ้าลูกอยู่แบบนั้น น้องคงไม่มีความสุข เลยขอยุติการรักษา และน้องก็มาเสียชีวิตวันที่ 6 ก.ย. 65 อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากโรงพยาบาลต้นเหตุเลยแม้แต่อย่างเดียว อยากให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงอย่างจริงจัง
เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้ตนได้ประสานไปยัง ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แล้ว ให้ท่านช่วยดูในเรื่องนี้ ซึ่งท่านก็แจ้งว่า สปสช. มีพ.ร.บ.คุ้มครองในส่วนนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้ตนมีข้อสงสัยว่า ทำไมที่โรงพยาบาลถึงไม่มีหมอผ่าคลอด ทั้งที่ไม่ได้เป็นเคสฉุกเฉิน
ฟาก นพ.ศราวุธ ธนเสรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญบุรี เผยว่า ประเด็นที่คุณหมอไม่เข้ามาตรวจ อันนั้นเป็นการทำงานตามปกติอยู่แล้ว เพราะจะให้พยาบาลเป็นคนคอยรายงานเป็นระยะ ๆ และคุณหมอจะเข้ามาตามเวลาที่เหมาะสม ส่วนเรื่องการวิดีโอคอล ณ ตอนนั้นคุณหมอประเมินแล้วว่าแรงเบ่งจากมดลูก หรือแรงจากคุณแม่ช่วยกันแล้ว ไม่พอ มันอาจจะเกินเวลา เลยต้องโทรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ขณะที่เรื่องการผ่าคลอด โรงพยาบาลตนรับผ่าตัดคลอดลูกได้ แต่ต้องมีข้อบ่งชี้ อย่างเช่น เด็กตัวใหญ่เกินไป คุณแม่ตัวเล็กเกินไปเป็นต้น แต่จู่ ๆ จะขอผ่าเลยเราจะไม่ทำ สำหรับเรื่องที่พยาบาลพูดจาหยาบคาย ตนต้องขออภัยด้วย ทั้งนี้ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า แนะนำให้ ให้ใช้สิทธิ์ทางศาลฯไป ฟ้อง กระทรวงสาธารณสุขเป็นจำเลยที่ 1 โรงพยาบาลแห่งรัฐเป็นจำเลยที่ 2 หมอเป็นจำเลยที่ 3 เพราะเคยมีกรณีคล้าย ๆ กัน ศาลตัดสินให้ กระทรวงสาธารณสุข ชดเชยให้ผู้เสียหายรายนั้น 2 ล้านบาท
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35