สยบชายคลั่งยา ญาติต้องหามผู้ป่วยติดเตียงหนีตายอลหม่าน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุ ว่ามีชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธทุบทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน ที่บ้านกล้วย หมู่ 5 ตำบลบ้านกร่าง จึงนำกำลังสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน และ อส.อำเภอศรีประจันต์ พร้อมอุปกรณ์อาวุธตามยุทธวิธีมี เหล็กง่าม ปืนช็อตไฟฟ้า และปืนยิงกระสุนยาง เตรียมระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศาลตาเจ้าบ้านเก่าแก่อยู่ใกล้กับต้นมะขามยักษ์อายุเกือบ 200 ปี สภาพถูกทุบข้าวของภายในศาลพังเสียหายกระจายเกลื่อน ส่วนผู้ก่อเหตุซ่อนตัวอยู่ในบ้านปูนชั้นเดียว ใกล้กัน เจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ครบมือจึงกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณรอบบ้านเอาไว้ แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติการ ทางญาติผู้ก่อเหตุได้พากันหามร่างคนแก่ซึ่งเป็นผู้ป่วยพิการติดเตียงออกจากห้องซึ่งอยู่ติดกัน ไปไว้บ้านญาติซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 80 เมตร
จากนั้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุชื่อว่าชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุทราบออกมามอบตัวเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเจรจานานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมออกมา ได้แต่มาชะโงกหน้าดูเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่องหน้าต่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่กล้าผลีผลามบุกเข้าไปภายในบ้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธขวาน และค้อน
จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยกับทุกฝ่าย พร้อมกับรอโอกาส เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหลอกล่อให้ผู้ก่อเหตุมายืนคุยที่ช่องหน้าต่างเพื่อจะได้ใช้ปืนช็อตไฟฟ้ายิง แต่ผู้ก่อเหตุรู้ทัน จนกระทั่งผู้ก่อนเหตุได้เดินไปนอนห่มผ้านวมเปิดพัดลมเป่าอยู่ที่ห้องกลางบ้าน เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมจึงใช้ชะแลงงัดประตูก่อนจะกรูเข้าไปชาร์จจับกุมตัวไว้ได้อย่างปลอดภัย พบว่าผู้ก่อเหตุไม่ยอมออกจากห้อง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันยกร่างหามออกมาจากห้องได้สำเร็จ
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังล็อกกุญแจมือไขว้หลังผู้ก่อเหตุบอกเอามือไว้ด้านหน้าได้ไหมตนจะนั่งสมาธิ จากนั้นก็นั่งหลับตา ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพเก็บไว้ผู้ก่อเหตุพูดออกมาด้วยเสียงอันดังว่าจะถ่ายทำไมคนกำลังแก้ผ้า บ้าหรือเปล่าทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติ ๆ พากันหัวเราะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปขึ้นกระบะท้ายรถโดยลูกกุญแจมือไขว้หลังเมื่อขึ้นไปอยู่บนกระรถผู้ก่อเหตุได้โชว์ความเก๋าด้วยการก้มตัวยกขาก่อนเอามือที่ถูกล็อกด้วยกุญแจจากด้านหลังมาไว้ด้านหน้าที่ด้วยความชำนาญ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุเดินทางกลับโรงพักเพื่อทำเรื่องส่งตัวผู้ก่อเหตุไปรักษาต่อไป
นางสุทิน ผิวแดง 62 ปี แม่ของนายศักดิ์สิทธิ์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ยอมรับว่าลูกชายติดยาเสพติดและเสพยาเสพติดประเภทยาบ้ามานานเมื่อก่อนจะเสพวันละหลายเม็ด จนเกิดอาการหลอน และครอบครัวได้พาไปบำบัดรักษามาแล้วหลายครั้ง เมื่อก่อนยังพอคุยกันรู้เรื่องแต่มาระยะหลังมักจะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะเขาพูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง กระทั่งช่วงเช้าประมาณตีห้ากว่าตนได้ยินเสียงดังโครมครามหน้าบ้านจึงออกมาดูก็เห็นลูกชาย ใช้ขวานทุบทำลายข้าวของบนศาลตาเจ้าที่ซึ่งเป็นศาลประจำหมู่บ้านจนพังเสียหาย จากนั้นได้เดินไปป่วนที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันด้วยการตีระฆังเสียงดังลั่น แล้วก็กลับมาบ้านมาทำข้าวของในศาลต่ออีก ตนจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยแจ้งตำรวจมาช่วยจับตัวไปถ้าปล่อยไว้กลัวจะเป็นอันตรายกับญาติพี่น้องซึ่งมีทั้งคนแก่ เด็กเล็กและผู้ป่วยติดเตียง ระยะหลังถึงแม้จะไม่ได้เสพยาก็มีอาการคลุ้มคลั่งตนรู้สึกเครียดมากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยหาวิธีเอาตัวไปรักษาให้ด้วย
พ.ต.อ.วรภพ จำปาเงิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ กล่าวว่าได้รับรายงานว่ามีคนคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและมีอาวุธจึงนำกำลังมาตรวจสอบเพื่อระงับเหตุก็พบผู้ก่อเหตุอยู่ในบ้านจึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและก็สามารถควบคุมตัวไว้ได้อย่างปลอดภัยทั้งผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่ หลังจากนี้ก็จะทำเรื่องส่งตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ไปบำบัดรักษาตามขั้นตอนต่อไป
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35