logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

นึกว่าโรงแรมร้าง ! โจรแสบยกเค้าโรงแรมหรูเกาะสมุย เกลี้ยงกว่า 70 ล้าน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : กรณีนี้เป็น เหตุการณ์ยกเค้าโรงแรมหรูบนเกาะสมุยที่ใช้เงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และเตรียมจะให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ทรัพย์สิ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์

338 ครั้ง
|
05 ก.ย. 2565
กรณีนี้เป็น เหตุการณ์ยกเค้าโรงแรมหรูบนเกาะสมุยที่ใช้เงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และเตรียมจะให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ทรัพย์สินที่โดยยกเค้าไปมูลค่ากว่า 70 ล้าน โดยยกเค้าไปทั้งสิ้นกว่า 348 ห้อง เรียกได้ว่า ไม่เหลืออะไรเลย
 
ตำรวจ สภ.บ่อผุด สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการ กอ.รมน. ภาค 4 พื้นที่เกาะสมุย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบภายใน “เฉวง บลูลากูน เดอะทีค วิง” ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.บ่อผุด หลังรับการแจ้งจากเจ้าของที่ดินที่ให้โรงแรมเช่าว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินในโรงแรมไปเป็นจำนวนมาก เสียหายหมดทั้งโรงแรม
 
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า โรงแรมหรูแห่งนี้มีสภาพไม่ต่างจากโรงแรมร้าง เพราะถูกคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในโรงแรมทั้งหมด ห้องพัก 348 ห้อง ที่ตกแต่งเรียบร้อยพร้อมเปิดให้บริการกลายเป็นห้องร้างไปในพริบตา
 
เจ้าของที่ดินที่ให้โรงแรมเช่า เล่าว่า คนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินทุกอย่างภายในโรงแรม ตั้งแต่ สายไฟ, หลอดไฟ, ปลั๊กไฟ, โต๊ะ, เก้าอี้, เตียงนอน, ชักโครก, เครื่องทำน้ำอุ่น, ฝักบัว, ผ้าม่าน, เหล็กราวบันได, ราวกันตก, โครงหลังคา, กระจก, ประตูไม้, หน้าต่าง, เครื่องปรับอากาศ, ปั๊มน้ำ หรือแม้แต่ลิฟท์
 
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังสำรวจพื้นที่ภายในตัวอาคารทั้งหมด พบว่า ห้องพักทุกห้องถูกทำลายเพื่อเอาทรัพย์สินไป สายไฟถูกกองตามพื้น ฝ้าเพดานถูกทำลาย กระจกแตกกลาดเกลื่อน และยังพบหัวตัดแก๊ส ถังลมถังแก๊ส เครื่องมือช่าง และอาหาร อยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย คาดว่าเป็นของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ
 
หลังจากการเก็บรวบรวมหลักฐาน และหาร่องรอยของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุครั้งนี้ พร้อมกับตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงย้อนหลัง เพื่อหาหลักฐานรถยนต์และบุคคลที่เข้าออกในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายมีการทำงานเป็นขบวนการใหญ่และลักลอบทำมานานกว่า 3 เดือน
 
เจ้าของที่ดินที่ให้โรงแรมเช่า ยังบอกอีกว่า โรงแรมเพิ่งสร้างเสร็จ โดยเป็นการลงทุนของนักธุรกิจชาวต่างชาติ ได้ลงทุนไปกว่า 400 ล้านบาท มีการทำสัญญาเช่าที่ดินกับตน มีการตกแต่งเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย และพร้อมที่จะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว แต่ที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงต้องเลื่อนกำหนดเปิดออกไป แต่พอโควิด-19 ระบาดน้อยลง ระยะเวลาการเช่าสัญญาก็หมดลงไปด้วย จึงทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของตน ในฐานะเจ้าของที่ดิน ตนจึงเป็นผู้เสียหาย และคาดว่าคนร้ายเข้ามาก่อเหตุในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
 
ช่วงแรกช่วงที่มีการก่อสร้าง ตกแต่งห้องพัก ตนเองได้เข้ามาดูบ้าง แต่เมื่อสร้างเสร็จก็ปิดล็อกห้องพักทุกห้องไว้ และไม่เคยคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของเกาะสมุย ซึ่งการกระทำของคนร้ายถือว่าอุกอาจมาก ส่วนค่าเสียหายรวมกว่า 70 ล้านบาท
 
เจ้าของโรงแรม บอกอีกว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่รู้จักกัน เพราะรู้ว่าไม่มีคนเฝ้าสถานที่ก็เข้ามาลักทรัพย์สินกัน และขอให้ตำรวจทำตามกฎหมายอย่างเต็มที่ อยากให้ดัดนิสัยคนพวกนี้ให้เข็ดหลาบ อยากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวด เพราะเกาะสมุยยังต้องอาศัยการท่องเที่ยว ถ้านักลงทุนได้ข่าวแบบนี้แล้วใครจะกล้ามาลงทุน หลังจากนี้ก็คงจะไม่คิดซ่อมแซมแล้วเพราะไม่มีกำลังทุนที่จะทำต่อไป คงต้องปล่อยให้กลุ่มทุนที่สนใจเข้ามาทำต่อ
 
ทั้งนี้ มีรายงานเมื่อช่วงเช้า (5 ก.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมผู้ที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ที่โรงแรมได้แล้ว 6 คน พร้อมของกลาง เป็นชุดแก๊สตัดโลหะ 1 ชุด สว่านไร้สาย 1 อัน ชะแรง 1 อัน ค้อน 1 อัน กระเป๋าพร้อมเครื่องมือช่าง 1 อัน
 
นอกจากนี้ ยังได้ไปขยายผลค้นบ้านของนายอภิพัฒน์ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ซอยศาลเจ้า ม.1 ต.บ่อผุด โดยเจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นเหล็กขนาด 2 นิ้ว x 4 นิ้ว 60 ท่อน ชุดแก๊สตัดโลหะ 1 ชุด รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน พร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สิน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์และขยายผลต่อไป
 
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/pX_nwNC1Pdk

ข่าวที่เกี่ยวข้อง