ผู้เสียหายเข้าร้องสื่อ หลังถูกหลอกไปทำงานที่ฟิลิปปินส์ อ้างให้ทำแอดมินบริษัทบิตคอยน์ แท้จริงให้หลอกคนไทยด้วยกัน ขู่ฆ่ายกครัวถ้าไม่ทำ ซ้ำโดนทำร้ายร่างกาย ช็อตไฟฟ้า จับแก้ผ้าแบล็กเมล์ หากอยากได้อิสรภาพต้องจ่าย 1 แสน !
วันที่ 5 ก.ย. 65 น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนไปเจอโพสต์หางาน ทำงานต่างประเทศ ตนสนใจเลยเข้าไปถามรายละเอียด โดยเขาอ้างว่าทำงานเกี่ยวกับบิตคอยน์ แค่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นก็พอ และยังอ้างอีกว่าเป็นงานสบาย มีที่พักฟรี ค่าเครื่องบิน บินไปก็ฟรี โดยให้เงินเดือนเริ่มต้น 32,000 บาท แต่ตนยังไม่ตอบตกลง ทางเขาก็ยังติดต่อมาหว่านล้อมตนอีก ว่าบอสเขาจะมีจัดสังสรรค์ตลอด จึงตัดสินใจไปพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน รวมคนอื่นทั้งหมดที่ไปพร้อมกัน 6 คน พอลงจากเครื่องเสร็จ ก็จะมีคนไทยและคนจีนมารับ ไปบริษัทฯ เพื่อทำบัตรพนักงาน และพาไปดูออฟฟิศว่ามีคนทำงานแบบนี้จริง ๆ เป็นออฟฟิศใหญ่ มีคนทำงานอยู่เยอะด้วย ทุกอย่างดูเป็นทางการมาก ไม่ได้รู้สึกว่าจะถูกหลอก หลังจากนั้นเขาก็พากลับที่พัก ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ตนเจอคนที่อยู่มาก่อน ก็ถามเขาว่า งานเป็นงานประมาณไหน เขาตอบว่า บอกไม่ได้ เดี๋ยวเริ่มงานก็จะรู้เอง
น.ส.เอ เล่าอีกว่า พอไปเริ่มงานวันแรก เขาให้ตนสร้างโปรไฟล์ตนเองขึ้นมา ตั้งแต่เด็กจนโต แต่ให้ไปโปรไฟล์ไปเรียนจบมหาวิทยาลัยที่สิงค์โปร์ โดยเป็นโปรไฟล์ผู้ชาย จากนั้นเขาก็เอาไฟโฟนมาให้ ให้โหลดแอปฯหาคู่ทุกแอปฯ ต่อมาเขาก็เริ่มอบรมหลักสูตร "การจับผู้หญิงรวย" เน้นดูการแต่งตัว โดยให้เราหลอกผู้หญิงไทย มาลงทุนบิตคอยน์กับเรา ตนทำงานได้ 2-3 วัน ก็เริ่มสงสัยแล้วว่ามันไม่ใช่งานแบบที่คุยกันไว้ ก็เริ่มงอแงใส่บอสคนไทยแล้วว่า ตนไม่ได้ตั้งใจมาทำงานแบบนี้ เขาก็พาตนกลับบ้านที่พัก
หลังจากถึงบ้านที่พัก เขาก็เริ่มลงมือซ้อมตนเลย โดยเอาสายไฟ เข็มขัด มาตี ส่วนคนจีนอีก 2 คนก็จับตนนอนกับพื้นแล้วกระทืบตน ยกมือไหว้ขอเขาก็ยังไม่หยุด ทำตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 22.30 น. ทำเสร็จเขาก็ใส่กุญแจมือตนเพื่อไม่ให้หนี มีคนไทยที่อยู่ในห้องนั้นด้วย แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยได้ เขาซ้อมตนแบบนี้อยู่ 1 วัน ในวันอื่น เขาใช้วิธีช็อตไฟฟ้า ช็อตทุกวัน เพื่อบีบให้ตนหาเงินมาให้เขา 100,000 บาท แลกกับอิสรภาพ อีกอย่างที่ตนโดนคือ เขาจับแก้ผ้าและอัดคลิปวิดีโอไว้ เขาอ้างว่ากันตนเอาไปแจ้งความ และยังขู่จะฆ่าครอบครัวตนอีกด้วย ตนจึงต้องติดต่อครอบครัวเพื่อขอให้เขาหาเงินมาให้ แต่ไม่สามารถบอกกับที่บ้านว่าเราโดนอะไร หรือเอาเงินมาเพื่อไถ่ตัว ถ้าบอกแบบนั้นก็จะโดนทรมานหนักอีก ตนบอกกับที่บ้านประมาณว่า "ช่วยหน่อยอยากกลับบ้าน เจ็บนะ ไม่ไหวแล้ว"
สุดท้าย แฟนของตนโอนเงินให้เขา 100,000 บาท พอเขาได้เงิน ก็ปล่อยตัวออกมานั่งกินข้าวเลย ส่วนเงินที่หามาได้ แฟนของตนทำธุกิจโรงปั๊ม เขาเอาเครื่องพิมพ์ไปขายให้ลูกค้า ได้เงินมา 80,000 บาท และยืมญาติมาอีก 20,000 บาท จึงเอาเงินมาให้แก๊งนี้ เพื่อไถ่ตัวของตนออกมา
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า สามีของน้องเขา เข้ามาร้องเรียนกับทางสายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือเนื่องจากภรรยาเขาถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ ถูกซ้อมกลับมา ตัวของผู้เสียหายก็โวยวายว่าอย่าพามานะ อย่าไปแจ้งความ เขากลัวมันจะมาฆ่าทั้งครอบครัว และที่สำคัญยังมีเพื่อนเขาอีก 3 คน ที่ครอบครัวยังไม่มีเงินไปไถ่ตัวกลับมา กลัวว่าทางนั้นรู้แล้วจะฆ่าทั้ง 3 คนนี้
ซึ่งจากการสอบถาม ทางสามีเขาได้แจ้งหน่วยงานของรัฐฯไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ตนจึงกลัวว่าจะไม่ทันการที่จะช่วยอีก 3 คนที่เหลือ ตนจึงประสาน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เขตสายไหม ให้ท่านช่วย ประสานตรงไปยัง เอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศฟิลิปปินส์ นายตุลย์ ไตรโสรัส ท่านฑูตก็เร่งดำเนินการให้เลย จากนั้น 1 วัน ท่านฑูตก็แจ้งกลับมาว่าเหยื่อปลอดภัยแล้ว ตนก็พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเลย
ขณะเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ เป็นการค้ามนุษย์ ซึ่งมันอยู่ในกระบวนการที่รัฐบาลคอยจัดการอยู่ เราให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการกับฑูตที่ฟิลิปปินส์ และให้การช่วยเหลือเหยื่อ เบื้องต้น ช่วยเหลือมาแล้วทั้งสิน 11 คน ประสานมาทางท่าน ปวีณา หงสกุล มา 7 คน จากทาง DSI 2 คน จากสายไหมต้องรอด 1 คน และน้องที่อยู่ส่วนตัวอีก 1 คน ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ยังทราบมาว่า ยังมีคนไทยทั้งยังอยู่นอกเหนือจากนี้อีกกว่า 30 คน ทาง DSI เราก็ประสานเจ้าหน้าที่จากฟิลิปปินส์เพื่อบุกเข้าไป ปรากฏว่าเขาย้ายที่อยู่ไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเรื่องของคดี ด้วยความน้องผู้เสียหายเข้าไปดูตามเพจ ทำงานต่างประเทศถูกกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนเปิดเพจต้องรับผิดชอบด้วย ส่วนคนที่มาคุยเจรจากับน้องพาเดินทางไป ก็จะโดนเช่นกัน และคนที่เปิดบัญชีม้า เพื่อรับเงินที่โอนจากคนที่ถูกหลอก เราก็กำลังตามอยู่ คนที่อยู่ในเมืองไทยเกี่ยวพันกับเรื่องนี้เราจะดำเนินคดีด้วย ส่วนฝั่งฟิลิปปินส์ เขาก็ดำเนินคดีเช่นกัน ขณะที่ทางเพจสายไหมเป็นกังวลเรื่องของการคุ้มครองพยาน เราได้จัดการดูแลให้แล้ว ส่วนเงินเยียวยา ผู้เสียหายก็ได้รับสิทธิ์ แต่เอกสารขั้นตอนยังได้ไม่ครบ ถาส่งเอกสารครบเราก็จะดำเนินการในส่วนนี้ให้
นอกจากนี้ เอกภพ กล่าวเพิ่มเติม ตนเชื่อว่าเป็นขบวนการเดียวกันกับ ที่คุณปู่ท่านหนึ่งที่ถูกนางแบบสาวหลอกลงทุนบิตคอยน์ ที่พามาออกรายการ เพราะเขามีพฤติกรรมเดียวกัน ที่ให้น้องปลอมเป็นผู้ชายไปหลอกผู้หญิง เพราะน้องเป็นผู้หญิงน่าจะรู้จุดอ่อนของผู้หญิงด้วยกัน และที่มาหลอกไปลงทุนบิตคอยน์ เพราะบิตคอยน์กำลังราคาลง สามารถพูดเชื้อเชิญได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35