logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

รวบแล้ว ! เจ ในเตา ผัวโหด ปลิดชีพเมียตัวเอง ก่อนนำศพทิ้งแม่น้ำ อำพรางคดี

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : คืบหน้า เหตุพบศพของหญิงถูกฆ่าโหด นำศพโยนทิ้งแม่น้ำตรัง ตรวจพบบาดแผล เสียชีวิตจากการถูกของแข็งตี รวมทั้งรอยฟกช้ำตาปูดบวม ล่า ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์

445 ครั้ง
|
02 ก.ย. 2565
คืบหน้า เหตุพบศพของหญิงถูกฆ่าโหด นำศพโยนทิ้งแม่น้ำตรัง ตรวจพบบาดแผล เสียชีวิตจากการถูกของแข็งตี รวมทั้งรอยฟกช้ำตาปูดบวม ล่าสุด ตำรวจสามารถรวบตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ เจ้าของฉายา “เจ ในเตา” สามีของผู้เสียชีวิต
 
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา (1 ก.ย. 65) โดยตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพภายในแม่น้ำตรัง บริเวณลำคลองท่าประดู่ ต.นาวง อ.ห้วยยอด จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย 
 
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ภายในลำคลองบริเวณโค้งน้ำใกล้ริมตลิ่งห่างจากสะพานประมาณ 100 เมตร พบร่างของหญิงสาวรายหนึ่ง อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อกล้ามสีดำ ในสภาพสวมกางเกงขายาวสีดำลายน้ำตาล ไม่สวมชุดชั้นใน ลอยเกยตื้นในลักษณะคว่ำหน้า เจ้าหน้าที่ได้นำร่างขึ้นมาเพื่อนำไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลห้วยยอด
 
ผลการชันสูตรพลิกศพ พบว่า มีบาดแผลถูกกระแทกด้วยของแข็ง และของมีคมเข้าที่คิ้วด้านขวา เป็นบาดแผลใหญ่ 1 แผล มีบาดแผลฟกช้ำทั้งลำตัวกว่า 10 จุด และที่เบ้าตาปูดบวม โดยที่บริเวณสะโพกมีรอยสักรูปไม้เลื้อย หน้าท้องด้านซ้ายมีรอยสักรูปขนนก คาดว่าเสียชีวิตมาไม่เกิน 12 ชั่วโมง
 
จากการสอบสวน ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้มาหาปลาในลำคลองบริเวณจุดนี้ และได้พบศพก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ คาดว่า น่าจะมีคนนำร่างผู้เสียชีวิตมาทิ้งตรงสะพาน หรือเหนือสะพาน ก่อนที่กระแสน้ำจะซัดพามาเกยตื้นในลำคลองแห่งนี้ 
 
และในค่ำวันเดียวกัน ได้มีชาวบ้านประมาณ 5-6 คน เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายคือ น.ส.พรทิพย์ อายุ 28 ปี เป็นคนในพื้นที่ อ.เมืองตรัง ซึ่งได้ถูกสามีฉุดออกมาจากงานศพ ก่อนจะหายตัวไป โดยสามีของผู้เสียชีวิต มีชื่อว่า “เจ”
 
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับทราบเบาะแสจากชาวบ้านแล้ว ได้มีการสนธิกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานจนมีความเชื่อมโยงว่า นายเจคนนี้ น่าจะเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ ซึ่งมีการยืนยันเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่า นายเจได้หนีไปกบดานอยู่ที่บ้านพ่อแม่ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง เจ้านห้าที่จึงเร่งติดตามไปจับกุมตัว ก่อนจะนำตัวมาสอบสวน
 
จากการสอบสวน นายเจ รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุซ้อมภรรยาจนเสียชีวิตจริง โดยใช้วิธีการชกต่อยจนเสียชีวิต จากนั้นได้นำร่างของภรรยาไปโยนทิ้งในคลอง เพื่ออำพรางคดี  ส่วนสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทกันเนื่องจากความหึงหวง
 
นอกจากนี้ นายเจ ยังให้การอีกว่า ก่อนเกิดเหตุได้พยายามจะนำตัวภรรยามาจากงานศพเพื่อจะพาไปนอนที่บ้านพ่อแม่ใน อ.รัษฎา แต่ตัวผู้ตายได้ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าจะต้องไปกรีดยาง ซึ่งระหว่างตนเองเกิดความโมโห จึงชกต่อยไปหลายครั้งและทำให้ภรรยาเสียชีวิต 
 
ก่อนจะถอดเสื้อผู้ตายออกมาเช็ดคราบเลือด และเมื่อมาถึงหัวสะพานคลองประดู่ จึงถอดเสื้อตัวเองสวมให้แทนและโยนศพทิ้งคลองเพื่ออำพรางคดี ส่วนกรณีที่ผู้ตายไม่ได้สวมชั้นในนั้น ตัวของผู้ตายมักไม่สวมใส่เป็นปกติอยู่แล้ว หลังจากจับกุมตัวนายเจได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีในช่วงกลางดึก เนื่องจากเกรงว่า จะถูกประชาชนมาดักรุมประชาทัณฑ์
 
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลประวัติอาชญากรรมของนายเจ พบว่า นายวิษณุ หรือฉายา “เจ ในเตา” เคยต้องโทษในคดีอุกฉกรรจ์มาแล้วหลายคดี และเข้าออกเรือนจำอย่างต่อเนื่อง โดยนายเจ เพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ปี 2565 ที่ผ่านมา หรือประมาณ 4 เดือนที่แล้ว และหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 เคยต้องโทษในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่  สภ.รัษฎา จ.ตรัง ต่อมาปี 2553 ต้องโทษข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในพื้นที่ สภ.รัษฎา 
 
จากนั้นปี 2556 ข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ถัดมาในปี 2558 ต้องโทษข้อหาลักทรัพย์และเสพยาเสพติด พื้นที่ สภ.รัษฎา ต่อมาในปี 2563 ข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี เหตุเกิดท้องที่ สภ.รัษฎา และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน พ.ค.ปี 2565 ตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้
 
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/AIxUN9GIIKw

ข่าวที่เกี่ยวข้อง