คุณแม่ท่านหนึ่งออกมาร้องเรียนกรณีที่ลูกชายวัย 15 ปี ถูกคุณครูสั่งทำโทษโดยการให้ลุกนั่งกว่า 200 ครั้ง ทำให้ต้นขาอักเสบและติดเชื้อ แถมยังต้องผ่าตัด ที่สำคัญต้องหยุดเรียนนานกว่า 2 เดือน ขณะที่การเจรจาเงินเยียวยาก็ไม่ลงตัว ซึ่งทางครอบครัวยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด
ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจาก คุณเล็ก อายุ 59 ปี แม่ของนักเรียนชาย ชั้น ม.3 ซึ่งถูกคุณครูผู้สอนสั่งลงโทษด้วยการให้ทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง จนลูกชายเกิดอาการกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนจะตรวจพบว่า ลูกชายมีฝีขึ้นที่บริเวณขาผับต้นขาซ้าย ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และต้องพักฟื้นนานกว่า 2 เดือน แต่ทางโรงเรียนต้นสังกัดกลับไม่มีการเข้ามาดูแลเยียวยาช่วยเหลือ แถมพอไปแจ้งความกับตำรวจ คดีก็ไม่มีความคืบหน้า
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังลูกชายเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่ามีอาการปวดที่ต้นขาทั้งสองข้าง เมื่อสอบถามจึงทราบว่า ลูกชายถูกครูผู้สอนซึ่งเป็นครูผู้หญิงสั่งลงโทษ เนื่องจากไม่ยอมเข้าเรียน โดยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง เมื่อลูกกลับมาบ้านก็คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก จึงไปซื้อยานวดมาทาและซื้อยาแก้อักเสบมาให้ลูกกิน แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 7 วัน ลูกชายก็อาการไม่ดีขึ้น ก่อนจะพาไปหาหมอที่คลินิก แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น กระทั่งมีการส่งตัวมาตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเลาขวัญ จึงพบว่าลูกชายมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนต้นขาบวม และมีฝีขึ้นที่บริเวณข้อพับต้นขาซ้าย ต้องทำการผ่าตัด
การผ่าตัดครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 ส.ค. แต่พบว่ายังคงมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด จึงต้องทำการผ่าตัดครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 24 ส.ค. อาการจึงดีขึ้น แต่ลูกชายก็ยังเดินไม่สะดวก ต้องทำแผลทุกวันและยังต้องพักฟื้นต่อเนื่อง รวมจนถึงตอนนี้ ลูกชายต้องหยุดเรียนมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ตนมองว่า การสั่งลงโทษทำท่าลุก-นั่ง กว่า 200 ครั้ง เป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินเหตุ
ตนและสามีได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ เพื่อดำเนินคดีกับครูสาวแล้ว แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า แม้จะมีการเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็ยังไม่มีการเยียวยาใด ๆ
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าสาเหตุที่สั่งลงโทษเพราะเด็กโดดเรียน โดยครูยืนยันว่า สั่งทำโทษเด็กไป จำนวน 150 ครั้ง และให้เพื่อนในห้องเป็นคนนับจำนวนกันเอง และที่ทำไปเพื่อลงโทษเด็กให้หลาบจำ จะได้ไม่กล้าโดดเรียนอีก อีกทั้งหลังทราบว่า เด็กมีอาการป่วยติดเชื้อก็ได้พาเด็กไปพบหมอที่คลินิกด้วยตนเอง โดยครูท่านนี้ได้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ช่วงที่เด็กพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ทางโรงเรียนได้ติดตามอาการของเด็กที่บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดูแลเรื่องการเรียนและการบ้าน และได้สั่งยกเลิกการลงโทษเด็กโดยการทำท่าลุก-นั่งอย่างเด็ดขาดแล้ว ส่วนการเยียวยาครอบครัวนั้น ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากครอบครัว เรียกร้องเงินเยียวยาและเงินค่าขาดรายได้ รวม 2 เดือน เป็นเงิน 250,000 บาท แต่ต่อรองเหลือ 150,000 บาท
แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษไม่มีเงินพอที่จะเยียวยา จึงได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้ จำนวน 30,000 บาท แต่ทางพ่อแม่ของเด็กไม่ยอมรับและยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ สภ.เลาขวัญ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ทราบว่า พ่อแม่ของเด็ก ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูผู้สั่งลงโทษแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างให้คู่กรณีทั้งสองฝ่าย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและเจรจาถึงค่าเยียวยาต่อกัน
ล่าสุด ทีมข่าวได้เดินทางเข้าพบกับ นายอนันต์ศักดิ์ ภูผลผัน ผู้อำนวยการ สพม.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งการลงโทษครูผู้สั่งให้ทำโทษนั้น จะมีการประชุมร่วมกับทางคณะกรรมการของโรงเรียนอีกครั้ง ซึ่งกรณีนี้ถือว่ากระทำเกินเหตุและไม่ถูกตามระเบียบ
ส่วนการการเยียวยาให้กับทางครอบครัว ต้องขึ้นอยู่กับคู่กรณี ก็คือครูและผู้ปกครอง ในการตกลงหาทางแก้ไขร่วมกัน ซึ่งทางโรงเรียนไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือใด ๆ ทำได้เพียงแค่ช่วยนัดให้มีการไกล่เกลี่ยกัน ต้องเป็นความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย แต่การลงโทษทางด้านวินัยนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียน
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35